เลือก “ฟิล์มกรองแสง” รถยนต์ยังไง ให้ไม่โดนหลอก

ประสบการณ์ใช้รถ | 18 ก.ค 2560
แชร์ 8

สิ่งแรกสำหรับคนที่เพิ่งออกรถใหม่ ที่ไม่นึกถึงไม่ได้เลย นั่นคือ ฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์ เรียกได้ว่า เป็นสิ่งที่รถยนต์ทุกคนต้องมี แต่จะเลือกยังไงดีล่ะ ก็ ฟิล์มกรองแสง มีให้ลือกมากมายหลายยี่ห้อขนาดนี้ แถมยังมีความเข้มของฟิล์ม และค่ากรองแสงที่ไม่เท่ากันอีก วันนี้ Chobrod.com มีวิธีการเลือกฟิล์มกรองแสง ที่ดี และเลือกยังไงไม่ให้โดนหลอกมาฝาก

การเลือกฟิล์มกรองแสง
การเลือกฟิล์มกรองแสง
 
การเลือกฟิล์มกรองแสงนั้น อันดับแรก เราควรรู้ข้อมูลของฟิล์มกรองแสงไปบ้าง เพื่อเวลาเลือก หรือสอบถามอะไร จะได้มีข้อมูลในหัวและสามารถเลือกได้ถูกต้อง อีกทั้งสิ่งที่ต้องคำนึงถึงหลักๆเลย ก็คือ
  • ความเข้มหรือความทึบของฟิล์ม ซึ่งมีทำหน้าที่ ช่วยกรองแสง ที่ส่องเข้ามาในรถ ซึ่งลักษณะของ ฟิล์มกรองแสง ที่ดีนั้น ต้องไม่กรองแค่รังสี UV อย่างเดียว แต่ต้องช่วยป้องกันความร้อนภายในรถได้ด้วย ยิ่งสภาพอากาศบ้านเราแล้วล่ะก็ ฟิล์มกรองแสง จำเป็นมากเลยทีเดียว
ซึ่ง ฟิล์มกรองแสงที่ดี ต้องมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้
  1. ต้องระบุได้ว่า สามารถลดความร้อนได้ กี่เปอร์เซ็นต์
  2. ต้องระบุได้ว่า สามารถลดรังสี UV ได้ กี่เปอร์เซ็นต์
  3. ความสามารถ ในการสะท้อนแสง ได้กี่เปอร์เซ็นต์
  4. ต้องระบุได้ว่า แสงจะส่องผ่านได้กี่เปอร์เซ็นต์
 
การเลือกฟิล์มกรองแสง
การเลือกฟิล์มกรองแสงที่ดี
 
ส่วนใหญ่ ฟิล์มกรองแสงจะอ้างอิงค่ามาตรฐานจากสถาบันต่างๆได้ ซึ่งเราสามารถเช็คค่ามาตรฐานที่อ้างอิงนี้ ได้จากสถาบันที่น่าเชื่อถือ ดังนี้
  • AIMCAL (Association of International Metallizers, Coaters and Laminators)
  • ASTM (American Standard Test Method)
  • ASHRAE (American Society of Heating, Refrigerating and Air-Conditioning Engineers)
 
การเลือกฟิล์มกรองแสง
เทคนิคการเลือกฟิล์มกรองแสง
 
มาดูประเภทของ ฟิล์มกรองแสง มีด้วยกัน 2 ประเภท ดังนี้
  1. ฟิล์มย้อมสี คือ ฟิล์มที่ไม่มีการเคลือบสารป้องกัน รังสี UV ใดๆไว้เลย หรือถ้าหากมี ก็มีในปริมาณที่น้อยมาก ซ้ำร้ายเมื่อใช้ไปสักพัก สีของฟิล์มก็อาจผิดเพี้ยนไปด้วย
 
  1. ฟิล์มกรองแสง แบบลดความร้อน (ฟิล์มเคลือบโลหะ) คือ ฟิล์มกรองแสงที่มีคุณสมบัติ ช่วยลดความร้อนและกรองแสงได้ดี เพราะเนื้อฟิล์ม มีการเคลือบสารป้องกันรังสีเข้าไป โดยฟิล์มประเภทนี้ สามารถแบ่งออกได้  4 ประเภทย่อย คือ
 
  • ฟิล์มนิรภัย มีความหนาประมาณ 4 MIL ขึ้นไป คุณสมบัติหลัก คือ ป้องกันไม่ให้กระจกแตกกระจาย กรณีเกิดอุบัติเหตุ หรือ มีวัตถุมากระแทกกระจกอย่างรุนแรง โดยฟิล์มนิรภัยนี้ มีด้วยกันสองแบบ คือ แบบลดความร้อน และ ไม่ลดความร้อน
 
  • ฟิล์มอินฟาเรด คือ ฟิล์มที่ช่วยลดความร้อนได้ดีที่สุด ซึ่งราคาก็สูงด้วยเช่นเดียวกัน
 
  • ฟิล์มปรอท หรือที่เรียกว่า ฟิล์มเคลือบโลหะ หรือ ฟิล์มลดความร้อน เนื้อฟิล์มจะคล้ายกับกระจกเงา สามารถลดความร้อนได้ค่อนข้างดี แต่ด้วยความที่ ฟิล์มมีลักษณะคล้ายกระจกเงา จึงค่อนข้างอันตรายในการขับขี่
 
  • ฟิล์มใสแบบนาโน เป็นฟิล์มแบบใส ที่สามารถลดความร้อนได้ค่อนข้างสูง ซึ่งราคาก็ค่อนข้างสูงด้วยเช่นกัน
 
 
>> ดูเพิ่มเติม:
Cardinal เปิดตัวฟิล์ม Cardinal Seven L ด้วยนวัตกรรมการพัฒนาเพื่อป้องกันแสงแดด
เทคนิค “เลือกรถมือสอง” ให้เหมือน “ได้รถมือหนึ่ง”
เลือกล้อแม็กซ์อย่างไร ให้ไม่เสียเงินฟรี