Audi A4 มือสอง ข้อดี-ข้อเสีย ปัญหาที่พบ
audi a4 มือสองถือว่าเป็นรถหรู ที่มีรูปทรงร่วมสมัย ทั้งที่รุ่นแรกออกมาจำหน่ายตั้งแต่ปี 1994 แต่ก็ยังน่าใช้ สามารถขับขี่ได้อีกนานโดยไม่รู้สึกว่า “เชย” และที่สำคัญ สมรรถนะการขับขี่ ออพชั่นภายใน รวมถึงอุปกรณ์ความปลอดภัยครบครันมาก สมกับเป็นรถยุโรปนำเข้า CBU จึงมีหลายคนที่หันมาเลือกซื้อ
Audi A4 มือสอง เป็นรถคู่ใจแทนรถป้ายแดง โดยมีให้เลือกทั้งแบบ Sedan และ Avent (Wagon) 5 ประตู ซึ่งวันนี้
chobrod.com เรามีข้อมูลรถแต่ละรุ่น พร้อมรายละเอียดราคามือสองโดยเฉลี่ย และรุ่นที่น่าสนใจในประกาศขายมาฝากครับ
ข้อดีของ Audi A4 มือสอง
- ราคาถูก
- ระบบความปลอดภัยดี
- งานประกอบดี และปราณีต (นำเข้า CBU ทั้งคัน)
- ช่วงล่างแน่น
ข้อเสียของ Audi A4 มือสอง
- ปัญหาจุกจิกตามอายุรถมากพอสมควร อาทิ ระบบเกียร์, พัดลมไฟฟ้าเสีย, อุปกรณ์พลาสติกกรอบแห้ง
- ช่างชำนาญน้อย โดยเฉพาะต่างจังหวัด
- อะไหล่มือสองพอมี แต่ต้องหาแหล่ง (มีแนะนำในคลับประจำรุ่น หรือเดินหาแถววรจักร)
- ครื่องค่อนข้างดัง กินน้ำมันพอควร (เฉลี่ยราว 6-7 กม./ลิตร)
ปัญหาของ Audi A4
- เสียงเครื่องแอบดังนิดนึง และคอนโซลมีกรอบแห้ง เล็กน้อย
- ความร้อนขึ้นสูง (ต้องลองหารอยรั่วของระบบหล่อเย็น และเช็คการทำงานของระบบพัดลมไฟฟ้า)
- เกียร์ออโต้รอบขึ้นแต่รถไม่ค่อยวิ่ง (ปัญหาหลักของรถปัจจุบัน ลองเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ หากไม่หายค่อยหาเกียร์และเครื่องมือสองมาเปลี่ยน หรือให้ช่างที่ชำนาญ Audi โอเวอร์ฮอล์เกียร์ให้)
- ไฟรูปกุญแจกระพริบ สตาร์ทติดแล้วก็ดับเอง (เป็นสัญญาณป้องกันกุญแจปลอม หากไฟโชว์ขณะที่ใช้กุญแจตัวจริง แสดงถึงกล่อง ECU มีเริ่มมีปัญหา ให้ลองเสียบกุญแจใหม่สลับด้าน หรือขยับขั้วกุญแจเล็กน้อย ถ้าระบบยังไม่ยอมรับว่าเป็นกุญแจจริง อาจติดตั้งกล่อง ECU หลอก ไฟกุญแจจะไม่ขึ้นอีก)
ราคา Audi A4 มือสอง
ราคาเฉลี่ย Audi A4 มือสอง
Audi A4 มือสอง รุ่นที่น่าสนใจ
1. รุ่นปี 1994-2001 (B5)
โฉมนี้ราคาถูกมาก (จ่ายราคาเท่ากับ Toyota Corona 2.0 Exsior แต่ได้รถยุโรป ระดับ D-Segment) โดยเครื่อง 1.8 turbo เป็นที่นิยมมากที่สุด (ควรซื้อรุ่นที่มีเกียร์แบบ Tiptronic) แม้ตัวถังจะเก่า แต่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ช่วงล่างและพวงมาลัยดี อะไหล่มีอยู่เรื่อยๆ โดยผู้ซื้อส่วนมากนิยมนำไปแต่งเพิ่มเติม บางท่านก็วางเครื่องและเกียร์ใหม่ (ส่วนใหญ่เกียร์มักเสียก่อน หากเจ้าของดูแลไม่ดีจะต้องซ่อมบ่อย) นอกจากนี้ต้องระวังชิ้นส่วนพลาสติกแตก กรอบ เพราะทำจากวัสดุรีไซเคิล
2. รุ่นปี 2004-2009 (B7)
โฉมนี้ราคาไม่แรง แต่ภายนอกดูทันสมัยมากกว่าเดิม อะไหล่หาได้เรื่อยๆ อีกทั้งมีการเพิ่มระบบความปลอดภัย ทั้ง ESP, ABS และถุงลมนิรภัยถึง 6 จุดด้วยกัน แต่ต้องตรวจสอบเกียร์ให้ดี เพราะยังเป็นเกียร์อัตโนมัติ CVT Multitronic อยู่
Audi A4 B7
3. รุ่นปี 2008-2016 (B8)
โฉมนี้ราคาค่อนข้างสูง แต่จะได้หน้าตาหล่อเหลา อุปกรณ์ใหม่ ออพชั่นเพียบกว่าเดิมมาก อีกทั้งตัวถังยังไม่ถึงระยะเสื่อม ขับขี่ได้อีกนาน และไม่ต้องกังวลเรื่องอะไหล่ เหมาะสำหรับใครที่พอจะมีงบอยู่บ้าง และอยากได้รถยุโรปมือสอง ขับดี จุกจิกน้อย
จะเห็นได้ว่า ออดี้ a4 มือสอง รุ่นแรกๆนั้น ราคาน่าคบมาก หากใครมีช่างที่รู้จัก หรือมีความชำนาญด้านเครื่องยนต์ ต้องลองซื้อมาขับดูครับ แล้วจะรักใน A4 รุ่นเก๋า ส่วนที่ราคาสูงหน่อย ตั้งแต่รุ่น B8 ขึ้นไป ถ้างบถึงก็น่าสนเช่นกัน แต่ต้องตรวจสอบรถให้แน่ชัดเรื่องป้ายทะเบียนปลอม และรถที่ผ่านอุบัติเหตุนะครับ
หากคุณกำลังจะซื้อรถ
Audi มือสองสภาพดีราคาถูก สามารถเข้าดูได้ที่ chobrod.com –
ตลาดรถให้ข้อมูลที่ดีที่สุดสำหรับการซื้อขายรถยนต์ในไทยแบ่งปันประสบการณ์การซื้อรถยนต์ออดี A4 ด้วยราคาที่ดีที่สุด และราคาถูกที่สุดพร้อมข้อมูลเสนอราคาที่ครบถ้วน