ไปทำความรู้จัก Toyota MR-S รถสปอร์ตัวแรงของวัยรุ่นยุค 90 ตำนานที่ยังเหลือให้ครอบครอง
Toyota MR-S
รถสปอร์ตตัวแรงในยุคปี 00 เรื่อยมา เมื่อมองมายังฝั่งผู้ผลิตจากค่ายรถยนต์ฝั่งเอเชีย ในยุคนั้นอาจจะไม่มีใครเหนือกว่าโตโยต้าไปได้ ยิ่งกับการปล่อยสปอร์ตสายแรงสีแดงเพลิงอย่าง Toyota MR-S เข้าสู่ตลาดรถสายแรง ก็ทำให้วัยรุ่นทั่วโลกหันสายตามามองรถยนต์สปอร์ตคันนี้ทันที
ด้วยรูปลักษณ์ที่ฉีกแนวไปคล้ายกับรถสปอร์ตจากฝั่งยุโรปซึ่งมองไปมองมาก็คล้ายกับพอร์ช แบรนด์รถหรูสปอร์ตัวแรงจากเยอรมันในยุคนั้น แต่ยังเป็นรถ 2 ที่นั่ง ที่ถูกปรับให้มีกำลังไม่แรงเท่าไหร่ แต่ด้วยรูปทรงก็ทำให้ยอดขาย Toyota MR-S พุ่งกระฉูดในทันที
ปัจจุบันสำหรับ Toyota MR-S ถือว่าเป็นรถรุ่นเก่าที่เริ่มหายาก และเป็นเสมือนรถที่มีคุณค่าทางจิตใจ และในตลาดรถมือสองก็ยังพอเห็นเจ้า Toyota MR-S อยู่ในสารบบที่รอให้คนที่ต้องการได้จับจอง ซึ่งวันนี้ Chobrod จะพาไปรีวิวตำนานความแรงจากญี่ปุ่น และทำความรู้จักกับ Toyota MR-S ให้มากขึ้น โดยเฉพาะกับเรื่องราคา
Toyota MR-S มือสอง ว่าปัจจุบันในปี 2021 ค่าตัวของมันจะอยู่ที่เท่าไหร่
I.ส่องราคา Toyota MR-S สปอร์ตพันธุ์แรงระดับตำนาน
สำหรับราคาค่าตัวของ Toyota MR-S ที่ถือเป็นรถยนต์สปอร์ตในยุค 80-90 นั้น และปัจจุบันก็มีการพัฒนารถรุ่นนี้มาโดยตลอดเลยทีเดียว ซึ่งในตลาดรถมือสองสำหรับ Toyota MR-S ในเว็บไซต์ของ Chobrod ก็มีปีใหม่ๆ กับราคาที่น่าสนใจให้พิจารณาเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น
Toyota MR-S มือสอง ปี 2004 รุ่น 1.8 ZW30 MNC MT ราคาประมาณ 899,000 บาท
Toyota MR-S มือสอง ปี 2005 รุ่น 1.8 ZW30 MNC AT ราคาประมาณ 990,000 บาท
Toyota MR-S มือสอง ปี 2005 รุ่น 1.8 S Cabriolet (เปิดประทุน) ราคาประมาณ 899,000 บาท
Toyota MR-S มือสอง ปี 2008 รุ่น V EDITION FINAL VERSION ราคาประมาณ 1,099,000 บาท
อย่างไรก็ตาม จะเห็นได้ว่าในตลาดรถมือสอง สำหรับรถสปอร์ต Toyota MR-S มือสอง ใน
ตลาดรถบ้านเรามักจะไม่ค่อยเห็นรุ่นเก่าๆ ที่ต่ำกว่าปี 2000 ลงไปแล้ว และมีการส่งผ่านให้กับผู้ที่สนใจครอบครองในโฉมระหว่างปี 2004-2008 เป็นหลัก ซึ่งถือเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 3 ของรถ Toyota MR-S ที่นิยมในท้องถนนบ้านเรา
II.รีวิว Toyota MR-S กับโฉมที่ฮิตในตลาดรถ
ภายนอก Toyota MR-S
ด้านหน้า Toyota MR-S
โฉมที่อยากแนะนำสำหรับคนที่ชื่นชอบ Toyota MR-S น่าจะเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 3 สำหรับการพัฒนารถยนต์รุ่นนี้ เพราะมีวางขายในตลาดรถมือสองให้กับผู้ที่สนใจเลือกครอบครองได้ โดยโฉมนี้ถูกปล่อยสู่ตลาดรถในปี 2005 ซึ่งมีจุดเด่นคือ รูปลักษณ์ภายนอกที่เป็นรถสปอร์ตสไตล์ยุโรป ดวงไฟด้านหน้ากลมโตแต่มีมิติ ลู่ไปกับฝากระโปรงสองด้าน ขณะที่กันชนหน้าจะเป็นแนวสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนานไปกับพื้นถนน ขนาบข้างด้วยชุมไฟตัดหมอกพร้อมกับโคมไฟทรงสามเหลี่ยม
ขยับมาที่ด้านข้างจะเห็นช่องดักอากาศขนาดใหญ่อยู่ก่อนซุ้มล้อด้านหลัง ซึ่งช่วยในเรื่องของแอร์โร่ไดนามิกส์ที่่ช่วยรีดอากาศ และทำให้รถเกาะติดกับพื้นถนนขณะทำความเร็วสูง พร้อมกับชุดแต่งเสกิตที่ดูลงตัวและดุดัน ด้านหลังจะมีชุดแต่งสปอยเลอร์ขนาดใหญ่ พร้อมกับฝากระโปรงท้ายที่เป็นช่องระบายอากาศเพราะเป็นพื้นที่ของเครื่องยนต์ ชุดไฟท้ายดูล้ำสมัย และมีไฟเลี้ยวกับไฟถอยหลังทรงกลมอยู่ในชุดโคมเดียวกันกับไฟเบรก ท่อไอเสียแยกออกสองข้างขนาบอยู่ข้างกับจุดติดป้ายทะเบียน โชว์ให้เห็นถึงความแรงของรถสปอร์ตคันนี้
ภาพรวมการออกแบบรถในส่วนตัวถังภายนอก Toyota MR-S จะมีความคล้ายกันกับ Porsche 918 spyder เหมือนกัน เพียงแต่ขนาดอาจจะเล็กกว่าเท่านั้น แต่ที่สำคัญคือขนาดของ Toyota MR-S ในเจนฯ นี้ถูกจัดให้เป็นสปอร์ตขนาดเล็กที่มีน้ำหนักเบา
ด้านหลัง Toyota MR-S
ภายใน Toyota MR-S
ด้วยความที่ว่ารถ Toyota MR-S คือรถสปอร์ต ภายในจึงมีเพียงสิ่งที่จำเป็นสำหรับการใช้งานเท่านั้น และเติมการตกแต่งด้วยสไตล์สปอร์ตเข้ม และใช้สีทูโทนดำ-แดงสำหรับภายใน ชุดพวงมาลัยเป็นแบบสามก้านสไตล์โอลด์สคูล ดูเป็นรถแรงสไตล์ญี่ปุ่นดี ชุดเกียร์ดูหรูหราและใช้หัวโครเมี่ยมพร้อมกับวัสดุชั้นดี ตรงกลางเป็นพื้นที่ของระบบความบันเทิงที่จัดให้ตามสไตล์รถสปอร์ตขนาดเล็ก ชุดปรับอากาศปรับแบบธรรมดา และมีช่องวางแก้วตามจุดต่างๆ ของตัวรถที่พอเหมาะพอควร
ภายใน Toyota MR-S
เบาะที่นั่งเป็นเบาะหนังสไตล์สปอร์ต โดยมีโรลบาร์แข็งแรงอยู่ด้านหลังเบาะที่นั่งเพื่อรองรับแรงกระแทกและการยุบตัวของตัวถังหากเกิดอุบัติเหตุ พื้นที่ด้านท้ายจะเป็นจุดวางเครื่องยนต์ ดังนั้น สัมภาระทุกอย่างจะถูกเก็บไว้ที่ฝากระโปรงด้านหน้าทั้งหมด และภายในห้องโดยสารด้วยความที่เป็นรถสปอร์ต 2 ที่นั่ง อาจจะไม่เหมาะสำหรับการเก็บสิ่งของ ซึ่งก็ต้องยอมแลกกับเรื่องนี้หากอยากได้รถสปอร์ตคันนี้มาครอบครอง
เครื่องยนต์ Toyota MR-S
ความแรงสำหรับรถ Toyota MR-S ถือเป็นโฉมที่ถูกตัดทอนขนาดของเครื่องยนต์ลง จากรุ่นก่อนที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร แต่เมื่อมาถึง Toyota MR-S กลับใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตรแทน ซึ่งเหตุผลของโตโยต้าคือต้องการทำให้ Toyota MR-S เป็นรถยนต์สปอร์ตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยการปล่อยมลพิษต่ำ
ซึ่งเครื่องยนต์ของ Toyota MR-S ที่มีขนาด 1.8 ลิตร ใช้รหัส 1ZZ-FED DOHC แบบวาล์แปรผัน VVT-i ให้กำลัง 140 แรงม้า ที่ 6,400 รอบ/นาที แรงบิด 171 นิวตันเมตร ที่ 4,4000 รอบ/นาที อัตราเร่ง 0 - 100 กม./ชม. ในเวลาประมาณ 8 วินาที
เครื่องยนต์ของ Toyota MR-S
ท้ายสุดสำหรับรถ Toyota MR-S อาจจะเหมาะกับคนที่ชื่นชอบในแบรนด์นี้เป็นทุนเดิม บวกกับความที่ชอบจริงๆ กับโฉมนี้ของ Toyota MR-S ที่หลายคนมองว่าอาจจะแหวกแนวไปนิดสำหรับการออกแบบ และกำลังเครื่องยนต์ที่ถูกตัดทอนลงไป อาจจะไม่แรงเหมือนกับรุ่นพี่ก่อนหน้านี้ แต่กระนั้น ใครที่สนใจก็ยังพอหาครอบครองได้ในตลาดรถมือสอง ซึ่งในเว็บไซต์ซื้อขายรถยนต์มือสองขนาดใหญ่อย่าง
Chobrod ก็มีให้เลือกอยู่เช่นกัน
>> ตรวจสอบราคา
Toyota มือสอง ทุกรุ่นได้ที่ chobrod.com