Mercedes-Benz ML 250 BLUETEC Executive SUV เสริมความหล่อรอบคัน
Mercedes-Benz ML250 BLUETEC Executive
Mercedes-Benz ML 250 BLUETEC Executive คือรถยนต์ที่สื่อมวลชนน้อยคนจะได่ขับมัน เพราะพวกเขามองข้ามในตัวตนด้วยความเก่าของตัวรถที่กำลังจะแทนที่ด้วยรุ่น GLE แต่จะว่าไป เจ้า Mercedes-Benz M-Class อเนกประสงค์หรูคันนี้เหมาะกับคนหัวใจหรูและชอบลุยผจญภัย ต้องการรถพร้อมใช้ทุกสถานการณ์ มันเปิดตัวอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี 1997 วางจำหน่ายมาแล้วก่อนหน้านี้ 2 รุ่น และปัจจุบันเป็นเจนเนอร์เรชั่นที่ 3 ในรหัสตัวถัง W166 เผยตัวจริงครั้งแรกในปี 2012 รวมถึงในประเทศไทย
จากจุดเริ่มต้นการเป็นรถนำเข้าและภาหลังรถรุ่นนี้ถูกนำเข้ามาประกอบในประเทศไทย เป็นครั้งแรกในภูมิภาคอาเซี่ยนที่ได้รับสิทธิ์ในการประกอบครั้งนี้ Mercedes-Benz M-Class มีวางจำหน่ายทั้งหมด 2 รุ่นย่อยได้แก่ Executive (รุ่นที่นำมาทดสอบ) และ AMG Dynamic รุ่นท็อปสุด ซึ่งมีรายละเอียดบางประการที่แตกต่างออกไป โดยเฉพาะการได้ชุดแต่งจาก AMG Package แท้เสริมความหล่อรอบคัน
ราคา Mercedes-Benz ML250 BLUETEC Executive
ราคาจำหน่าย Mercedes-Benz ML 250 BLUETEC Executive อยู่ที่ 4,640,000 บาท
หากคุณกำลังมองหารถ
Mercedes-Benz มือสอง มาไว้ใช้สักคัน ลองเข้ามาชมได้ที่ตลาดรถ
Chobrod.com
รีวิว Mercedes-Benz ML250 BLUETEC Executive
ภายนอก Mercedes-Benz ML250 BLUETEC Executive
ภายนอกของรถรุ่นนี้ ถึงจะเก่าตามยุค แต่ Benz ML250 BLUETEC Executive ยังคงสื่อถึงความเป็นสปอร์ต ทันสมัย รถดูปราดเปรัยวลงตัว และขาดไม่ได้ในเอกลักษณ์ความแกร่ง ทั้งหมดเป็นเส้นสาย ที่สื่อสารลงในรถยนต์นั่งในร่างรถ SUV หรูพรีเมี่ยม 5 ที่นั่ง มีดีไซน์บ่งบอกตัวตนอย่างชัดเจนหรือจะกล่าวได้ว่าเป็นรถ 2 บุคลิก ทั้งหรูและลุยได้แบบออฟโรดในคันเดียวกัน
ภายนอกของ Benz ML250 BLUETEC Executive
กระจังหน้าโครเมียมแนวนอน 3 เส้น พร้อมโลโก้ดาว 3 แฉก เส้นสายยังดูไม่ตกยุคอย่างที่หลายคนคิด ถูกออกแบบให้มีช่องดักลมขนาดใหญ่และยาวมากขึ้น ประกบข้างด้วยไฟหน้าแบบ Bi-Xenon แสงสีขาว เหมาะมากสำหรับการขับขี่ในทางเปลี่ยว แต่อาจสร้างรำคาญต่อเพื่อนร่วมทาง ส่วนหนึ่งด้วยตัวรถที่สูง และเรายอมรับว่า เราไม่เห็นปุ่มปรับระดับไฟหน้า ซึ่งความจริงน่าจะมีมาให้ ทำเอาหลายครั้ง เราคงถูกด่าลับหลัง หาว่าเปิดไฟสูงขับรถแบบคนรวยไร้สติเป็นแน่แท้
ระบบส่องสว่างอัจฉริยะ ILS – Intelligent Light System ช่วยเพิ่มความมั่นใจ แถม M-Class ยังมีระบบ Active Light System ปรับไฟเลี้ยวตามพวงมาลัยเลี้ยวโค้งอย่างมั่นใจด้วยระบบเพิ่มความสว่างขณะเลี้ยวโค้ง ส่วนตัวกันชนหน้าถูกออกแบบให้มีช่องระบายความร้อน พร้อมด้วยไฟ Daytime แบบ LED สำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน
ด้านข้าง M-Class ถูกออกแบบโค้งมนสื่อถึงสไตล์สปอร์ตตั้งแต่เส้นโค้งของเสา C-pillar แตกต่างจากรถ SUV ทั่วไป พร้อมกระจกมองข้างไฟเลี้ยว LED ดีไซน์เฉียบ ความงามสง่าถูกเติมด้วย ล้ออัลลอย ลาย 10 ก้าน ขนาด 20 นิ้ว จากโรงงาน พร้อมยางขนาด 265/45 R20 และขาดไม่ได้ราวหลังคา เหมาะมากสำหรับการบรรทุกสัมภาระหรือติดตั้งกล่องอเนกประสงค์ ส่วนด้านหลังเพิ่มความออกแบบให้โค้งต่ำลาดเอียงไปกับหลังคาสปอยเลอร์ฝังไฟเบรกดวงที่ 3 พร้อมทั้งกันชนหลังที่ใหญ่และดูแข็งแกร่งมากขึ้นซึ่งมาพร้อมกับไฟท้ายแบบ LED และขาดไม่ได้คือการอำนวยความสะดวกสบายด้วยประตูท้ายไฟฟ้า สะดวกสบายในการใช้งาน
ร่าง Mercedes-Benz ML 250 BLUETEC Executive ออกมาในขนาดอเนกประสงค์ขนาดกลาง มีพื้นที่มากพอในการใช้งาน ด้วยความยาว X กว้าง X สูง อยู่ที่ 4,804 X 1,926 X 1,796 มม. ตามลำดับ และยังวิศวกรรมระยะฐานล้อ 2,915 มม. แต่ด้วยความหรูหราของมัน ทำให้พิกัดน้ำหนักตัวรถหนักเกือบ 3 ตันที่ 2,950 กก. พร้อมเดินทางด้วยความจุถังน้ำมัน 70 ลิตร จะว่าก็ไปก็มากแล้ว แต่ก็แลจะน้อยกว่าที่คาดนิดหน่อย
กุญแจรีโมท ที่จะไขไปสู่ความเลิศหรูภายในห้องโดยสาร น่าเสียดายที่มันไม่ใช่ระบบ Keyless Entry เป็นส่วนแรกที่อาจจะทำให้มันดูไม่สมศักดิ์ศรีรถยนต์อเนกประสงค์ราคา 4.6 ล้านบาท
ภายใน Mercedes-Benz ML250 BLUETEC Executive
ห้องโดยสารยังคงโดดเด่นเช่นเดิมตามสไตล์ค่ายดวงดาวสามแฉก ด้วยโทนภายในห้องโดยสารที่เลือกได้ 2 สี ทั้ง สีดำบ่งบอกถึงความเข้ม และสีเทาอ่อน Alpaca Greyคล้ายคันที่นำมาทดสอบนี้ ให้ความสบายตาและผ่อนคลายในการเดินทาง พร้อมไฟเรืองแสงรอบคันยกระดับตัวตนเพิ่มความพรีเมี่ยมมากขึ้นกว่าเดิม
ภายใน Mercedes-Benz ML250 BLUETEC Executive
เบาะนั่งกับพนักพิงศรีษะ หุ้มด้วยหนังแท้คุณภาพสูง ในส่วนของเบาะคู่หน้าสามารถปรับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมหน่วยความจำตำแหน่งท่านั่งที่เลือได้ตามความประสงค์ทั้งฝั่งคนขับและคนนั่ง พิเศษ!!สำหรับฝั่งคนขับสามารถบันทึกความจำตำแหน่งพวงมาลัยและกระจกมองข้างได้ และถ้าคุณคาดเข็มขัดนิรภัยทั้งด้นคนขับและคนนั่งแต่สงสัยว่าเมื่อคาดเข็มขัดแล้ว ทำไมเข็มขัดนิรภัยจะต้องรัดแน่นและคลายอยู่ตลอดเวลาอาจสันนิษฐานได้ว่า เป็นหนึ่งในระบบ PRE-SAFE® หรือระบบความปลอดภัยแบบปกป้องก่อนเกิดเหตุ
ตรงหน้าคนขับหรูหราสบายตา จากผลพวงของแผงหน้าปัดที่ใช้สีเทาอ่อน พร้อมแผงตกแต่งแบบ Light Aluminum Trim With Longitudinal Grain จับกระชับมือด้วยพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบ 4 ก้าน หุ้มหนัง Nappa แต่สิ่งที่มาชดเชยความหรูด้วยตัวพวงมาลัยปรับสูงต่ำและยืดหดด้วยไฟฟ้า
คอนโซลกลางให้ความบันเทิงตลอดทางด้วยเครื่องเล่นวิทยุซีดี MB Audio 20 พร้อมเครื่องเล่น CD-MP3 แบบ 6 แผ่น ซึ่งต้องบอกตรงๆเลยว่า รถประเภทนี้ น่าจะให้เครื่องเล่น DVD พร้อมจอ 2 จอติดหลังเบาะหน้าเพื่อเอาใจลูกๆที่อยากดูการ์ตูน ซ้ำร้ายไม่มีระบบนำทาง กับกล้องมองหลังให้ ซึ่งออฟชั่นดังกล่าวต้องขึ้นไปเล่นรุ่นท็อป AMG Dynamic
เอกลักษณ์อย่างหนึ่งที่กลายเป็นธรรมเนียมไปแล้วสำหรับ Mercedes-Benz เกือบทุกรุ่น นั่นคือ คันเกียร์ Auto ที่มาในรูปแบบเกียร์มือ ถึงจะคลาสสิก แต่ถ้ามือใหม่หรือมือเก่าที่ผ่านการขับรถค่ายดาวสามแฉกมาหลายรุ่นในอดีต นี้ อาจจะมึนงงไปบ้างในช่วงแรกแต่ถ้าขับนานๆไปจะเริ่มคุ้นมือขึ้นมาทันที ในยามที่ขับขี่ถ้าเกิดความเมื่อยล้าจากการเดินทางในเวลากลางคืน ก็ยังมีระบบ Attention Assisted คอยเป็นผู้ช่วยดูแลยามเดินทาง
เบาะหลังตอน 2 เป็นแบบหุ้มหนังแท้คุณภาพสูงเช่นกันกับเบาะคู่หน้า พร้อมพนักพิงศีรษะ 3 จุดปรับได้ มีพื้นที่เก็บสัมภาระโดยไม่พับเบาะอยู่ที่ 690 ลิตรสามารถวางกระเป๋าเดินทางได้หลายๆใบ พร้อมแผ่นปิดสัมภาระด้านท้ายถอดเก็บได้ ในยามต้องที่พับเบาะแบบ 60/40 เมื่อพับเบาะลงทั้งหมดแล้ว จะมืพื้นที่ขนสัมภาระเพิ่มขึ้นเป็น 2,010 ลิตร สามารถโยนถุงกอลฟ์ 2-3 ได้สบายๆ
เครื่องยนต์ Mercedes-Benz ML250 BLUETEC Executive
Mercedes-Benz ML250 BLUETEC Executive ได้เครื่องดีเซลเทอร์โบพร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ 4 สูบแถวเรียง ในรหัส OM651 DE 22 LA ขนาด 2.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุดถึง 204 แรงม้า ที่ 3,800 รอบ/นาที จัดเต็มกับแรงบิดมหาศาลถึง 500 นิวตันเมตร ทำแรงบิดต่อเนื่องได้แค่ช่วงสั้นๆ เพียง 1,600-1,800 รอบ/นาที จับคู่กับระบบส่งกำลังทรงอานุภาพด้วยเกียร์ออโต้ 7 สปีด 7G-Tronic Plus
ถึงแม้เครื่องดีเซล 2.2 ลิตร บล็อคนี้จะเคยประจำการในรถหลากรุ่น ตั้งแต่ C-Class E-Class S-Class ไปจนถึง สปอร์ตซาลูนคูเป้ CLS แต่เมื่อมาอยู่ในรถ SUVสุดหรู ผนวกกับว่าวันรับรถวันแรก ตรงกับวันจัดกิจกรรม “ปั่นเพื่อพ่อ” ตั้งแต่ สถานที่รับรถออกสู่ถนนสาทร และเส้นนราธิวาสราชนครินทร์ ค่อนข้างโล่ง เลยลองกดคันเร่งเพื่อเรียกดูความจัดจ้าน ก็นำพาร่างที่หนักเกือบ 3 ตัน พุ่งตัวออกอย่างรวดเร็วทันใจ จนหลายคนอาจจะคิดว่า “นี่เราขับเครื่องดีเซลใหญ่ขนาด 3.0 ลิตร V6 หรือเปล่านี่“
หากคุณกำลังจะซื้อรถ Mercedes-Benz ML250 มือสองสภาพดีราคาถูก
สามารถเข้าดูดูที่ Chobrod.com – ตลาดรถให้ข้อมูลที่ดีที่สุดสำหรับการซื้อขายรถยนต์ในไทยแบ่งปันประสบการณ์การซื้อ Mercedes-Ben z ML250
ด้วยราคาที่ดีที่สุดและถูกที่สุดพร้อมข้อมูลเสนอราคาที่ครบถ้วน