ซื้อ-ขายรถ Mazda 2 2012 มือสอง

Mazda 2 เป็นรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่ได้รับความนิยมในตลาดรถยนต์ของไทย ด้วยรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์ ทันสมัย สมรรถนะอันทรงพลัง ตอบโจทย์ทุกการขับขี่ ซึ่ง Mazda 2 มีทั้งหมด 4 เจเนอเรชันด้วยกัน ต่างก็ได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยม

1.แนะนำ Mazda 2 2012 ในตลาดไทย

สำหรับรถมาสด้า 2 2012 ในไทยบ้านเรานั้น  จัดอยู่ในเจเนอเรชันที่ 3 ซึ่งในปีนี้ มีการไมเนอร์เชนจ์ โดยเพิ่มอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการใช้งานเพิ่มมากขึ้น มาพร้อมกับ Concept การจัดการในเรื่องของการตลาดใหม่หมด โดยแบ่งแยกรุ่นของตัวถังออกจากกันอย่างชัดเจน รุ่น Hatchback 5 ใช้ชื่อรุ่นว่า Sport กับสโลแกน สตาร์ทชีวิตอิสระ กับตัวตนที่ท้าทาย ส่วนในรุ่น Sedan 4 ประตูจะใช้ชื่อ Elegance กับสโลแกน หรู มีสไตล์ ดีไซน์ชีวิตได้ดั่งใจ การปรับโฉมในครั้งนี้ของตัวรถรุุ่น 2 จะกลายเป็นมิติใหม่ทางการตลาด จากอุปกรณ์เสริมที่อำนวยความสะดวกในการใช้งานและรูปแบบของรถรุ่นนี้ที่มีความเป็นสปอร์ตตามแบบอย่างและวิถีทางบนแนวคิด Zoom Zoom ของค่าย Mazda
 

Mazda 2 2012

มาสด้า 2 ปี 2012 4 ประตู

• Mazda 2 Elegance Groove M/T ราคาเปิดตัว 550,000 บาท
• Mazda 2 Elegance Groove A/T ราคาเปิดตัว 579,000 บาท
• Mazda 2 Elegance Spirit A/T ราคาเปิดตัว 646,000 บาท
• Mazda 2 Elegance Maxx A/T ราคาเปิดตัว 705,000 บาท

มาสด้า 2 ปี 2012 5 ประตู

• Mazda 2 Sports Groove M/T ราคาเปิดตัว 550,000 บาท
• Mazda 2 Sports Groove A/T ราคาเปิดตัว 585,000 บาท
• Mazda 2 Sports Spirit A/T ราคาเปิดตัว 654,000 บาท
• Mazda 2 Sports Maxx A/T ราคาเปิดตัว 705,000 บาท

2.ราคาของ Mazda 2 2012 มือสอง

มาสด้า 2  2012 มือสอง ราคาเริ่มต้นที่ไม่ถึง 2 แสนบาท ไปถึง 300,000 บาท เป็นราคาที่ถูกและคุ้มค่ามาก เทียบกับราคาตอนเปิดตัว ที่จะได้ถูกกว่าครึ่ง เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้ที่มองหารถซีดานหรือรถแฮทช์แบ็ก 5 ประตูไว้ใช้งาน และยังดูว่าเป็นรุ่นที่ไม่ได้เก่ามากนัก จัดอยู่ในเจเนอเรชันก่อนหน้าเพียงยุคเดียว เลือกซื้อรถ Mazda 2 2012 มือสองได้ทั้งรุ่น 4 ประตู และ 5 ประตูได้ที่นี่มากกว่า 100 ประกาศที่ตลาดรถ Chobrod

3.รีวิว Mazda 2 2012

ภายนอกของ Mazda 2 2012

ดีไซน์ของ Mazda 2 ปี 2012 ถูกปรับ ให้มีฟังก์ชันของ สปอร์ต ซิตี้คาร์ (Sport City Car) ชัดเจนกว่า B-Car อื่นในตลาด อุปกรณ์เพิ่มเติมมามากมาย ด้วย ไฟหน้าฮาโลเจน แบบ 4-Beam โปรเจคเตอร์, ไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้าง, เบาะและแผงประตูหุ้มหนัง, มาตรวัดดีไซน์ใหม่ สีดำ, เบาะผ้าลายใหม่, ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 16 นิ้ว, วิทยุ CD MP3,  แผงสวิตช์ควบคุมที่พวงมาลัยดีไซน์ใหม่, พอร์ท USB/AUX พร้อมกับเฉดสีใหม่ สีขาว Arctic White และสีฟ้า Aquatic Blue, 

ความสปอร์ตผสมกับความหรูหราได้อย่างลงตัว ด้วยกระจังหน้าห้าเหลี่ยม, กันชนหน้าแบบสปอร์ต, ไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบ 4-Beam, ไฟตัดหมอกกับสเกิร์ตข้าง, สปอยเลอร์หลังบนฝากระโปรงท้าย และล้ออัลลอยด์ใหม่

สำหรับรุ่น 5 ประตู Mazda 2 ดึงดูดด้วยชุดแต่งสปอร์ตรอบคัน กระจังหน้าสไตล์ใหม่, ไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบ 4-Beam ทรงสปอร์ต, ไฟท้ายตกแต่งด้วยสีขาวเคลียร์และสีแดง, กระจกมองข้าง, ฟเลี้ยว, ล้อหน้าขนาดใหญ่ และล้ออัลลอยด์ขนาด 16 นิ้ว  

ภายในของ Mazda 2 2012

ห้องโดยสาร มาสด้า 2 รุ่น Elegance มีความว้างขวาง พิถีพิถันในการออกแบบ ตั้งแต่พวงมาลัย การวางตำแหน่งเบาะนั่งคนขับ  มาตรวัดสีดำทรงกลม พร้อมกับเข็มและตัวเลขสีแดง นอกจากนี้เบาะนั่งก็ยังสามารถรองรับสรีระของผู้ที่มีความสูงถึง 185 ซม. ได้อีกด้วย
 

ภายใน Mazda 2 2012

กระจกหน้าของมาสด้า 2 2012 เอลิแกนซ์มีขนาดใหญ่และกว้าง พร้อมการออกแบบเสา A ที่ทำให้ทัศนวิสัยการมองกว้างกว่ารถอื่นๆ โดยมีกระจกมองข้างขนาดใหญ่ และออกแบบให้แนวขอบล่างของกระจกข้างมีระดับต่ำลง จึงให้ทัศนวิสัยการมองด้านข้างรถดีกว่ารถทั่วไป

เบาะนั่งสามารถรองรับผู้ขับขี่ที่สูงกว่า 1.8 เมตร, กระจกหน้าขนาดใหญ่ พร้อมการออกแบบเสา A ส่วนพื้นที่ห้องเก็บสัมภาระมีความจุมากถึง 450 ลิตร สำหรับเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลังสามารถแยกพับได้เป็น 60:40

ในรุ่น 5 ประตู ตำแหน่งเบาะนั่งคนขับ ตำแหน่งคันเกียร์ ปุ่มควบคุมต่างๆ บนแผงคอนโซลหน้า และพวงมาลัย ถูกจัดวางอย่างเหมาะสม 

พวงพวงมาลัย 3 ก้านมีสวิตช์มัลติฟังก์ชัน ปรับตั้งระบบเสียงติดมาให้ที่มุมซ้ายของพวงมาลัย (เฉพาะรุ่น) จอมัลติฟังก์ชันในรุ่นสูงสุดยังช่วยให้การใช้งานมีความกว้างไกลมากขึ้น หน้าปัดวัดระดับความเร็วสีขาวขนาดใหญ่ สวิตช์ควบคุมอุณหภูมิรวมถึงตำแหน่งของซุ้มคอนโซลเกียร์ถูกจัดวางโดยใช้หลักสรีรศาสตร์ของมนุษย์ เบาะแบบผ้ายังคงใช้วัสดุที่เข้ากับภายในแบบสปอร์ตพร้อมด้วยช่องแอร์ทรงกลมทั้ง 4 กับแนวลาดเอียงของกระจกบานหน้าและเสาคู่หน้าแบบ Sport

ระบบความปลอดภัยของ Mazda 2 2012

 Mazda 2 มือสอง ปี 2012 มาพร้อมระบบความปลอดภัยที่สุดล้ำ ด้วยเทคโนโลยีไลท์เวท ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการออกแบบรถสปอร์ต ที่ช่วยลดน้ำหนักส่วนเกินลงได้ถึงกว่า 100 กิโลกรัม จึงส่งผลให้อัตราส่วนแรงม้าต่อน้ำหนักดีขึ้นไปด้วย การตอบสนองทันทีเมื่อสั่งเร่งความเร็ว และการกระจายน้ำหนักทั้งหน้าและหลังที่เหมาะสม ช่วยเพิ่มความสมดุลให้กับรถ และที่สำคัญช่วยลดแรงเหวี่ยงขณะเข้าโค้งหรือกลับรถ และยังสั่งหยุดรถได้ทันที

เปี่ยมด้วยมาตรฐานความปลอดภัยระดับสูงสุดรอบคัน มีทั้งระบบความปลอดภัยเชิงปกป้องเมื่อเกิดเหตุ (Passive Safety) และระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันก่อนเกิดเหตุ (Active Safety) ช่วยให้ผู้โดยสารมั่นใจ และสนุกกับการขับขี่ที่ได้อย่างเต็มที่

สมรรถนะของ Mazda 2 2012

Mazda 2  2012 ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 4 กระบอกสูบ ขนาด 1.5 ลิตร พร้อมใช้ระบบปรับเปลี่ยนองศาของวาว์ลแบบแปรผัน S-VT Sequential Valve Timing System กับระบบ TSCV - Tumble Swirl Control Valve พละแรงม้าสูงสุด 103 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที
 

เครื่องยนต์ Mazda 2 2012

ระบบส่งกำลังใช้เกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ควบคุมด้วยสมองกลไฟฟ้า พร้อมฟังก์ชัน Hold Mode สามารถควบคุมการเปลี่ยนแปลงอัตราทดเกียร์ด้วยตัวของผู้ขับขี่เอง รวมถึงเกียร์ธรรมดา 5 สปีด สำหรับผู้ที่รักการขับขี่และชอบชิฟเกียร์ด้วยตัวเอง อัตราทดในรุ่นเกียร์ธรรมดายังถูกปรับเซตให้ตอบสนองต่อการขับขี่ในรูปแบบ Sport อีกด้วย

มาสด้า 2 ปี 2012 ตัวถังมีให้เลือกทั้งหมด7 สี ได้แก่ ฟ้า, เงิน, ดำ, ขาว, เทา, แดง และ ทอง

4.จุดเด่น-จุดด้อย ของ Mazda 2 2012

ถือเป็นรถที่รูปทรงสวยงาม ทันสมัย และสมรรถนะการขับขี่ที่ดี ช่วงล่างแน่น มั่นใจในขณะเข้าโค้ง มีสีให้เลือกหลายเฉด พร้อมออปชันภายในที่ครบครัน ภายในตกแต่งทันสมัย วัสดุที่ใช้มีคุณภาพ ที่สำคัญมีอัตราการประหยัดน้ำมันที่สูง และราคาที่ประหยัด

 
Mazda 2 2012 สีขาว

ในจุดด้อยนั้น พบปัญหาเรื่องเสียงรถกวนในห้องโดยสาร และหลังคารถที่บางที่จะได้ยินเสียงชัดเจนเวลาฝนตกกระทบหลังคา ด้านในเบาะนั่งค่อนข้างบาง ปวดหลังง่ายเมื่อนั่งไปนาน ๆ และมีปัญหาเรื่องของศูนย์บริการที่รอคิวนาน ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องขึ้นชื่อของมาสด้าอยู่แล้ว ว่าเป็นรถดีที่ห้ามซ่อม เพราะใช้เวลาในการรอนานมาก

Mazda 2 2012 กับ Honda City 2012 แบบไหนดีกว่า?

หากพูดในเรื่องของอัตราเร่งการตอบสนอง Mazda 2 จะออกตัวได้ดีกว่า ตอบสนองได้ไวกว่า ด้วยการทำกำลังรอบที่ต่ำกว่ามาก ส่วนช่วงล่างของ Mazda 2 จะให้ความรู้สึกมั่นใจมากกว่า ในขณะที่ City จะออกแนวกระด้าง ในด้านของความประหยัดนั้น City จะได้เปรียบมากกว่า ด้วยเกียร์ 5 จังหวะ ในขณะที่ของ Mazda เป็น 4 จังหวะ

ด้านความกว้างขวางภายในนั้น City ได้คะแนนนำแบบกินขาด ส่วนเรื่องของการเก็บเสียงถือว่าทำได้ดีไม่ต่างกัน และด้านความคุ้มค่าด้านออปชันต่าง ๆ นั้น Mazda 2 จะให้มาครบชุดแบบจัดเต็มกว่าตั้งแต่ตัวล่าง ในขณะที่ของ City ต้องเป็นรุ่นบนขึ้นไปถึงจะได้ความครบครันนี้
>> ตรวจสอบราคา Mazda มือสอง ทุกรุ่นได้ที่ chobrod.com