ซื้อ-ขายรถ Mercedes-Benz A200 มือสอง ราคาดี ทั่วประเทศ

ส่อง Mercedes Benz A200 เครื่องเล็กๆ แต่แรงเอาเรื่อง 

เอ่ยชื่อรถยนต์นั่งซีดานในกลุ่มตลาดบน หรือแบรนด์รถหรูในท้องถนนบ้านเรา ที่เป็นรถคันเล็ก ประสิทธิภาพดีเยี่ยม และได้แบรนด์จากฝั่งยุโรป แน่นอนว่าจะต้องมีชื่อ Mercedes Benz A200 ครองใจคนไทยที่ชื่นชอบค่ายรถยนต์ตราดาวจากเยอรมันคันนี้แน่นอน เพราะด้วยรูปลักษณ์ทีทันสมัย และกำลังเครื่องยนต์ที่แรง แต่ก็ประหยัดน้ำมันได้พอตัวกับเครื่องยนต์ที่ไม่ใหญ่เกินไป บวกกับการได้ออปชั่นเทคโนโลยีต่างๆ ที่เข้ามาช่วยอำนวยคสวามสะดวกสำหรับการขับขี่ประจำวัน ทำให้คนไทยที่ชื่นชอบรถยุโรป และมีกำลังซื้ออยู่บ้าง ก็เลือกเอา Mercedes Benz A200 หรือที่เรียกกันว่า benz a200 (เบนซ์ a200) มาไว้ใช้งาน ทั้งใช้ในชีวิตประจำวัน เป็นรถหรูสำหรับผู้บริหารก็ได้ หรือใช้ในครอบครัวก็ดีเหมือนกัน 
และวันนี้ Chobrod จะพาไปส่องเอาหน่อยว่าเจ้า เบนซ์ a200 ในตลาดรถปัจจุบันเป็นอย่างไรบ้าง มีการพัฒนาไปแค่ไหน และราคา Mercedes Benz A200 ป้ายแดง กับราคา benz a200 ราคามือสอง จะมีความห่างกันแค่ไหน และในตลาดรถมือสองอย่าง Chobrod มีรุ่นไหน ราคาไหนบ้างสำหรับ เบนซ์ a200 มือสอง ที่คนไทยนิยมเล่นกัน เราไปหาคำตอบกันได้เลย 

I.ส่องราคา Mercedes Benz A200

ปัจจุบัน Mercedes Benz A200 เข้ามาทำการตลาดในบ้านเรากับโฉมล่าสุดในปี 2021 หรือที่เรียกว่า Mercedes-Benz A200 AMG Dynamic แต่คนทั่วไปจะเรียกอย่างคุ้นชินว่า benz a200 ซึ่งมีราคาค่าตัวสำหรับโฉมล่าสุดของ benz a200 ดังนี้ 
Mercedes-Benz A200 2021 รุ่น AMG Dynamic ราคา 2,150,000 บาท 
Mercedes-Benz A200 2021 รุ่น Progressive ราคา 1,990,000 บาท 
แต่สำหรับ benz a200 มือสองจะมีราคาค่าตัวสำหรับรุ่นที่นิยมและฮิตในตลาดรถมือสอง ซึ่ง benz a200 ราคามือสอง มีให้พิจารณาได้ ดังนี้ 
Mercedes-Benz A200 มือสอง ปี 2021 รุ่น AMG Dynamic ราคาประมาณ 1,9XX,XXX บาท 
Mercedes-Benz A200 มือสอง ปี 2019 รุ่น AMG Sport ราคาประมาณ 1,8XX,XXX บาท 
Mercedes-Benz A200 มือสอง ปี 2020 รุ่น AMG Dynamic ราคาประมาณ 1,9XX,XXX บาท 

II.รีวิว Mercedes-Benz A200

ภายนอก Mercedes-Benz A200

ความน่าสนใจสำหรับ Benz A200 คือรูปลักษณ์ภายนอกที่ผ่านงานดีไซน์อย่างลงตัวในรูปแบบของรถยนต์นั่งซีดาน 4 ประตู หลังจากที่ก่อนหน้านี้เรารู้จัก A200 ในนามของรถสไตล์แฮชแบ็ก 5 ประตูที่เข้ามาลุยตลาดรถเมืองไทยมาพักหนึ่ง สำหรับงานภายนอกของ Mercedes-Benz A200 ด้านหน้ามีการเน้นความสปอร์ตมากขึ้นกว่ารุ่นเก่า ฝากระโปรงดีไซน์เน้นความลาดต่ำ กระจังหน้าแบบ Diamond Grille พร้อมกับช่องดักลมในรูปแบบสมัยใหม่สไตล์รวงผึ้ง ชุดไฟหน้าแบบLED High Performance พร้อมไฟเดย์ไลท์ ดีไซน์ตาเหยี่ยวดูแหลมคม ชุดกันชนหน้าดีไซน์ให้ความรู้สึกสปอร์ตด้วยเช่นกัน  ชุดแต่งรอบคันยังสวยงามลงตัวตามแบบฉบับของ Mercedes-Benz โดยเจ้า Benz A200 จะได้ชุดแต่งของ AMG สำนักแต่งของเบนซ์เลยโดยตรง ซึ่งชุดแต่งจะเสริมความเป็นสปอร์ตมากขึ้นรอบคัน ทั้งชุดกันชนหน้า-หลัง และด้านท้ายยังได้ปลายท่อไอเสียโครเมียมคู่ดูได้ถึงความแรง ส่วนชุดล้อจะได้ล้ออัลลอยลายใหม่แบบก้าน 5 คู่กับขนาด 18 นิ้ว 
นอกจากนี้ ในพื้นที่ด้านท้ายของตัวรถ Mercedes-Benz A200 ยังมีพื้นที่เก็บสัมภาระได้มากถึง 420 ลิตร เรียกว่าเอากระเป๋าเดินทางเข้าไปได้สบายๆ และการเปิดฝากระโปรงท้ายจะทำได้จากรีโมท และเปิดจากภายในรถ แต่การเปิดจะต้องใช้มือเท่านั้น 

ภายใน Mercedes-Benz A200

ภายในของ Mercedes-Benz A200 มีความหรูหราเลยทีเดียว วัสดุที่ใช้อยู่ในระดับพรีเมียม ทำให้การสัมผัสทุกจุดภายในรถยนต์ Mercedes-Benz A200 มีความรู้สึกหรูหรามากเลยทีเดียว แต่การตกแต่งจะเน้นความเป็นสปอร์ตซีดานด้วยการใช้โทนสีดำ และเดินตะเข็บด้านสีแดงในบางจุดของตัวรถ ภายในหรูหรา ห้องโดยสารภายในของ Mercedes-Benz A-Class มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ Mercedes-Benz ใช้วัสดุคุณภาพดี ผิวสัมผัสเรียบลื่น พวงมาลัยหุ้มหนังให้ความรู้สึกหรูหรามากขึ้น
ระบบความบันเทิงในตัวรถคันนี้อาจจะไม่ต้องพูดถึงก็ได้ เพราะมันคือระดับพรีเมี่ยมอยู่แล้ว แต่จุดเด่นอีกอย่างสำหรับโฉมใหม่ของ Benz A200 คือ จอเรือนไมล์ที่เป็นแบบ All-digital instrument display ขนาด 10.25 นิ้ว ปรับเปลี่ยนหน้าจอได้หลากหลายรูปแบบ ดูแผนที่นำทางได้ เปลี่ยนคลื่นวิทยุได้ ดูค่าต่างๆเกี่ยวกับตัวรถได้ด้วย และควบคุมผ่านพวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่น ที่จะพิเศษตรงที่มีปุ่ม Touchpad ที่อยู่พวงมาลัยเพื่อควบคุมระบบเรือนไมล์ดิจิตอลโดยเฉพาะ 
สิ่งอำนวยความสะดวกทันสมัย Mercedes-Benz A-Class มี MBUX (Mercedes-Benz User Experience) ระบบ AI ปัญญาประดิษฐ์ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการขับขี่ ด้วยการเรียนรู้และปรับการทำงานให้เข้ากับผู้ขับขี่ ซึ่งก็ถือเป็นระบบที่อัจฉริยะเลยทีเดียว 

เครื่องยนต์ Mercedes-Benz A200

ขุมกำลังของ Mercedes-Benz A200 จะถูกลดขนาดลง โดยจะใช้เครื่องยนต์ที่ไซส์เล็กกว่าเดิม คือเครื่องยนต์เบนซิน 1.3 ลิตร แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมกับเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิด 250 นิวตันเมตรที่ 1,620 – 4,000 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติ Dual Clutch 7 สปีด โดยสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อมทั้งทำ 0-100 ได้ในเวลาเพียง 8.1 วินาที เท่านั้น 

III.จุดเด่นของ Mercedes-Benz A200

อีกจุดเด่นคือข้อดีของการลดขนาดกำลังเครื่องยนต์สำหรับ Benz A200 ลงไปให้เหลือ 1.3 ลิตร แต่ก็เพิ่มความแรงในเรื่องเทอร์โบเข้ามา ซึ่งเครื่องยนต์ตัวนี้ในกลุ่ม Benz A200 มือสองก็มีให้เลือกเช่นกัน จุดเด่นของมันคือด้วยเครื่องยนต์ตัวเล็กแต่ถูกพัฒนาด้วยเทคโนโลยี ทำให้มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น และขับได้สนุกมากขึ้นจากระบบการรีดความแรงเอากับเทอร์โบ และที่สำคัญคือมันยังประหยัดน้ำมัน เพราะในตัวรถเบนซ์ A200 คันนี้ มีอัตรากินน้ำมันที่ 17.5 กิโลเมตร/ลิตร ซึ่งน่าจะตรงใจกับคนที่ต้องการรถยนต์หรูไว้ใช้งาน แต่ก็ไม่ใช่ว่ามันหรูแบบซดน้ำมัน 
ท้ายสุด สำหรับคนที่กำลังมองหา Benz A200 มือสองอยู่ แต่ไม่รู้ว่า Mercedes-Benz A200 ราคามือสอง จะต่างกันแค่ไหน เราก็พอมีคำตอบในใจบ้างแล้วหากคุณอ่านมาถึงบรรทัดนี้ และในเว็บไซต์ Chobrod เองก็มี Mercedes-Benz A200 มือสอง ให้เลือกหลายคันเลยทีเดียว ซึ่งน่าจะตรงใจกับผู้ที่สนใจรถแบรนด์นี้ แต่ไม่อยากไปถอยเอาป้ายแดงมาขับได้ 
หากคุณกำลังมองหารถ Mercedes-Benz มือสอง มาไว้ใช้สักคัน ลองเข้ามาชมได้ที่ตลาดรถChobrod.com