ซื้อ-ขายรถ รถเก๋ง 5 ประตู มือสอง

ส่อง "รถ 5 ประตู มือสอง" รุ่นไหนที่คอรถยนต์เมืองไทย เขาฮิตซื้อ-ขายกัน 

ในกลุ่มรถยนต์ รถ 5 ประตูสำหรับตลาดรถเมืองไทย ถือเป็นรถยนต์อีกโฉมที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยรูปลักษณ์ที่ไม่จำเจเหมือนเคยที่ต้องมีเพียงแค่รถเก๋ง รถกระบะ รถแวน ฯลฯ แต่มีตัวเลือกที่รูปทรง 5 ประตูที่ถูกใจวัยรุ่นมาแทนที่ ก็ไม่แปลกที่คนไทยจะหันความสนใจมาพิจารณารถ 5 ประตูกันมากขึ้น 
รถเก๋ง 5 ประตู หรือเรียกให้โก้ๆ กันหน่อยว่ารถ Hatchback นั้น สิ่งที่สะท้อนความนิยมได้อย่างชัดเจน คือแทบจะทุกค่ายรถยนต์ที่ขายรถกันอยู่ทุกวันนี้ อย่างน้อยที่สุดจะต้องมีรถ hatchback เข้าประกวดไปแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดเอาไว้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น Toyota yaris Honda Jazz หรือใหม่หน่อยก็ Honda City ที่มีแบบ 5 ประตูมาขายกับโฉมล่าสุดเช่นกัน ไม่เว้นแม้แต่ Mazda 2 หรือ Suzuki Swift อย่างนี้ก็เรียกว่ารถ hatchback เหมือนกัน หรือถ้ายังไม่เชื่อกันอีก ก็ไปดูฝั่งยุโรปกันบ้างก็ได้ เพราะอย่าง Merceds ก็ส่งรถในตระกูล A-Class ที่มีรถ 5 ประตูอยู่ในกลุ่มเข้าไปขายเช่นกัน 
ดังนั้น เราจึงเห็นได้ว่ามันมีความนิยมจริงๆ กับการตัดสินใจเลือกใช้รถ เลือกซื้่อรถสำหรับคนไทย แต่แน่นอนว่าสำหรับรถเก๋ง 5 ประตูมือสอง แบรนด์ที่่ค่อนข้างได้รับความนิยม ก็มักจะมีให้เห็นมากในกลุ่มค่ายรถยนต์จากฝั่งเอเชียมากกว่า ทั้ง Toyota Honda Mazda หรือแม้แต่ Suzuki Nissan และ MG (แบรนด์อังกฤษ แต่หุ้นใหญ่คือจีน) ที่มากกว่ายี่ห้ออื่นๆ นั่นเอง 
วันนี้ เราจะพาไปเปรียบเทีบกับรถในกลุ่มรถ 5 ประตู รวมไปถึงในตลาดรถ 5 ประตู มือสอง รุ่นไหนบ้างที่นิยมหามาไว้ใช้งาน โฉมไหนที่มีราคาดีหน้าคบหาสำหรับรถเก๋ง 5 ประตูมือสอง 

I. ราคา "รถยนต์ 5 ประตู มือสอง" กับ 5 รุ่นยอดฮิต 

ในตลาดรถมือสองในกลุ่มรถ 5 ประตูมือสอง หรือในกลุ่มรถเก๋ง 5 ประตูมือสอง หากวัดเอาจากชื่อแบรนด์ที่ส่งให้เป็นรุ่นรถที่คนไทยนิยมมากที่สุด พบว่ามีหลากหลายราคา และรุ่นปีเลยทีเดียว แต่ที่ฮิตจริงๆ ซึ่งเราพอสรุปได้ มีดังนี้ 
Honda Jazz มือสอง ปี 2013 รุ่น Hybrid ราคาประมาณ 32X,XXX 34X,XXXบาท 
Suzuki Swift มือสอง ปี 2013 ราคาประมาณ 25X,XXX - 30X,XXX บาท 
Toyota Yaris มือสอง ปี 2014 ราคาประมาณ 29X,XXX บาท 
Nissan March มือสอง ปี 2018 ราคาประมาณ 25X,XXX บาท 
Mazda 2 มือสอง ปี 2017 ราคาประมาณ 45X,XXX บาท 
อย่างไรก็ตาม หากจำเพาะในช่วงราคา สำหรับในกลุ่มรถแฮชแบ็ค 5 ประตูมือสอง จะมีช่วงราคาที่ไม่ห่างกันมากเท่าไหร่ในแต่ละรุ่นปี หรือในโฉมนั้นๆ ซึ่งราคาเฉลี่ยสำหรับรถเก๋ง 5 ประตูมือสอง จะเริ่มต้นที่ประมาณ 2 แสนบาทนิดๆ กับรถยนต์มือสอง 5 ประตูในโฉมปี 2014 และไปจนถึงโฉมปัจจุบันในแต่ละยี่้ห้อรถยนต์ที่มีขายด้วยเช่นกัน 

II.รีวิว เจ้าตลาดรถ 5 ประตู 

1. Honda Jazz 

ฮอนด้า แจ๊ส ถือเป็นรถยนต์มือสองสไตล์แฮชแบ็ค 5 ประตู ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยรูปลักษณ์งานออกแบบภายนอกที่่ทันสมัย ถูกใจคนรุ่นใหม่แทบทุกยุค ยิ่งได้ชุดแต่งที่ทำให้ Honda Jazz สวยงามลงตัวมากขึ้น ทำให้กลายเป็นรถ 5 ประตูที่ขายดีเลยทีเดียว ภายในยังออกแบได้อย่างสปอร์ตเหมาะกับการใช้งานในเมือง รวมถึงเบาะที่นั่งภายในยังปรับได้หลากหลายระดับ ทำให้ตัวรถมีความยืดหยุ่นสำหรับการใช้งานได้ดีทีเดียว  เครื่องยนต์ของ Honda Jazz สำหรับในตลาดรถมือสอง จะมีให้เลือกทั้งแบบโฉมเก่าเครื่องยนต์  i-VTEC ขนาด 1.5 ลิตร หรือจะเป็นเครื่องยนต์ที่พัฒนามาแล้วกับการใช้ Hybrid ที่ขนาดเครื่องยนต์ 1.3 ลิตรก็มีให้เลือก โดยความแรงยังเหมือนเดิม แต่เพิ่มเติมคือการประหยัดน้ำมัน 

2. Mazda 2

สำหรับมาสด้า 2 กับสไตล์รถ 5 ประตูที่ได้รับความชื่นชอบจากกระแสการใช้รถยนต์เมืองไทยเช่นกัน โดยเฉพาะกับโฉมใหม่ที่ดูลงตัวมากขึ้น และทำให้มาสด้า 2 ถูกส่งขึ้นไปต่อกรกับค่ายใหญ่ที่ครองตลาดรถ 5 ประตูมาอย่างช้านาน รูปลักษณ์ภายนอกมีการใส่ใจในการออกแบบ ทำให้รูปลักษณ์มีความสปอร์ต บวกกับช่วงล่างของตัวรถที่ผ่านการพัฒนาอย่างจริงจัง จนทำให้ Mazda 2 กลายเป็นรถที่มีช่วงล่างเหนือกว่าคู่แข่งไปเลย  ขณะที่กำลังเครื่องยนต์ของ Mazda 2 จะเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร แบบ DOHC16 วาล์ว S-VT/TSVC 103 แรงม้า แรงบิด 135  นิวตัน-เมตร รองรับ E20 ก็เพียงพอสำหรับการใช้งานในเมือง หรือจะเดินทางท่องเที่ยวในวันหยุดสุดสัปดาห์ก็คล่องตัว และรีดกำลังเครื่องยนต์ได้ทันใจดี 

3. Nissan March

ถือเป็นอีกแบรนด์รถยนต์ที่เข้ามาแชร์ส่วนแบ่งในกลุ่มรถยนต์ 5 ประตูด้วย แต่รูปลักษณ์อาจจะไม่เร้าใจเหมือนกับฮอนด้า หรือมาสด้า แต่จะเหมาะกับการใช้งานในเมืองเป็นหลัก แต่งานดีไซน์ในอีกมุมก็สะท้อนความเป็นรถญี่ปุ่นที่ชัดเจนกว่าคู่แข่ง เพราะ Nissan March มีความเป็นกล่องที่โค้งมน และดูอ้วนกลมแต่ก็มีความแข็งแรงที่โครงสร้าง เพราะนิสสันขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแรงของโครงสร้างตัวถังของรถอยู่แล้วด้วย 
ด้วยความที่เปิดตัวเป็นรถยนต์อีโคคาร์เจ้าแรกๆ ของเมืองไทย ทำให้ Nissan March ก็ไปถูกใจกับคนที่ชื่นชอบยานยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และทำให้ยอดขายของนิสสัน มาร์ช ดีพอตัวเลยทีดียว บวกกับการดีไซน์ภายในที่เป็นเอกลักษณ์ ดูทันสมัย รวมไปถึงยังมีระบบเก็บเสียงจากภายนอกที่ดี สิ่งอำนวยความสะดวกครบ และนั่งสบาย แถมยังได้เครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตร 3 สูบ DOHC12 วาล์ว CVTC ให้กำลัง 79 แรงม้า แรงบิด 106  นิวตัน-เมตร รองรับ E20 ซึ่งช่วยประหยัดน้ำมันได้อย่างมาก องค์ประกอบเหล่านี้ทำให้นิสสัน มาร์ชในช่วงเวลานั้นขายดิบขายดีเลยทีเดียว 

4. Suzuki Swift 

ด้วยความที่ถูกค่อนขอดว่างานออกแบบของรถ 5 ประตูอย่าง Suzuki Swift ดันไปคล้ายคลึงกับแบรนด์ของฝั่งยุโรปอย่าง Mini Cooper แต่ก็ใช่ว่าคนที่ชอบจะสนใจ เพราะยอดขายของสวิฟท์ ก็โตๆ เอานับตั้งแต่เปิดตัว เพราะด้วยรูปลักษณ์ทรงแฮชแบ็ค 5 ประตูที่แตกต่างจากคู่แข่ง ด้วยทรงท้ายตัดไม่เหมือนกับเจ้าอื่นๆ ที่จะลู่ลมไปกับตัวถังมากกว่า บวกกับรูปลักษณ์ที่ได้ความเป็นสปอร์ต ชุดแต่งทำออกมาได้ไม่เว่อวังแต่สวยงามลงตัว แถมที่สำคัญคือสำหรับ Suzuki Swift หากเทียบกับคู่แข่งแล้ว ภายในของเขายังกว้างกว่าเจ้าอื่นๆ อีกด้วย  กำลังเครื่องยนต์ของ Suzuki Swift จะเป็นเบนซิน 1.2 ลิตร แบบ 4 สูบ DOHC16 วาล์ว แปรผันคู่ ให้กำลัง 91 แรงม้า แรงบิด 118 นิวตัน-เมตร รองรับ E20 ยิ่งได้ช่วงล่างที่มีความมั่นคง และตัวราคาของรถ 5 ประตูมือสองที่ไม่แรงเกินไป ทำให้ Suzuki Swift เป็นอีกทางเลือกของคนเมืองที่ต้องการรถเก๋ง 5 ประตูมาไว้ใช้งาน แม้ว่าจะติดตรงที่แบรนด์อย่างซูซูกิอาจจะไม่ได้รับความนิยมมากนักในบ้านเรา แต่ปัจจุบันมีการเพิ่มสาขาบริการ และอะไหล่หาง่ายไม่ยุ่งยาก ก็เป็นอีกทางเลือกเช่นกันสำหรับคนที่กำลังมองหารถ 5 ประตู มาไว้ใช้งาน 

5. Toyota Yaris 

คงไม่อาจมองข้าม หรือละเลยที่จะเอ่ยถึงไปได้ เพราะหากในรุ่นนั้นมีฮอนด้า รุ่นนั้นก็ต้องมีโตโยต้าด้วยเช่นกัน และสำหรับกลุ่มรถเก๋ง 5 ประตู ยิ่งกับรูปลักษณ์ภายนอกที่ให้ความสปอร์ตแฮตช์แบ็กอย่างมาก และยังมีการเล่นสีสันกับความกล้าเพื่อเจาะกลุ่มวัยรุ่นคนรุ่นใหม่ให้มากขึ้น แถมภายในมีความกว้างขวาง ระบบเทคโนโลยีที่ดี และสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วน ทำให้ Yaris กลายเป็นรถที่ถูกใจคนไทย โดยเฉพาะกลุ่มนักศึกษา มนุษย์ออฟฟิศในเมืองใหญ่ที่กำลังมองหารถคันแรกไว้ใช้งาน 
จุดเด่นของ Toyota Yaris คือเครื่องยนต์ที่ใช้แบบเบนซิน 1.5 ลิตร แบบ 4 สูบ DOHC16 วาล์ว VVT-i ที่ให้กำลังสูงสุด 109 แรงม้า แรงบิด 141 นิวตัน-เมตร รองรับ E20 ซึ่งถือว่าเป็นรถยนต์ขนาดเล็กแบบรถ 5 ประตูที่มีกำลังเครื่องยนต์ดีทีเดียว โดยทำความเร็วได้สูงสุดถึง 180 กม./ชม. ขณะที่การคุมพวงมาลัยมีความนิ่งมากกว่าเดิมอีกด้วย

III.สรุปส่งท้ายกับรถ 5 ประตูในตลาดรถมือสอง 

ท้ายสุดใครที่กำลังมองหารถยนต์นั่ง 5 ประตูมือสอง ก็ต้องมองถึงประโยชน์การใช้งานเป็นหลัก หากจะใช้เดินทางบ่อยๆ ก็อาจจะมองกำลังเครื่องยนต์ที่ดีหน่อย แต่หากใช้งานไม่เยอะ ขับน้อยเน้นในเมือง ก็อาจเลือกตัวรถที่มีวงเลี้ยวแคบ ขับง่าย จอดง่าย ก็มีตัวเลือกให้คุณพิจารณาเช่นกัน เพราะในเว็บไซต์ Chobrod.com ก็มีรถ 5 ประตูให้เลือกมากถึง 3,000 คัน หลากหลายรุ่น ยี่ห้อ และรุ่นปีเลยทีเดียว ซึ่งคนที่ต้องการรถ 5 ประตูมือสอง สามารถเข้าไปเช็คลิสต์รถยนต์ที่ต้องการได้เลย 
พร้อมกับข้อมูลรีวิวรถใหม่ทั้งจากคนใช้จริงและผู้เชี่ยวชาญ นอกจากนี้ยังมีข้อมูลผู้ขายรถมือสองที่ชัดเจนเช่น ข้อมุลโปรโมชั่นล่าสุด โปรโมชั่นรถใหม่ นอกจากนี้ Chobrod.com ยังให้คำปรึกษาในการเลือกซื้อรถใหม่หรือมือสอง และเป็นแหล่งรวมข้อมูลในด้านประสบการณ์การซื้อรถ อาทิเช่น ซื้อรถที่ไหนดี ราคารถมือสองเท่าไรถึงจะเหมาะสม พร้อมข้อมูลบริการหลังการขายที่ชัดเจน และข้อมูลราคารถมือสองและตารางผ่อนล่าสุด เป็นต้น