อยากรู้ไหมว่าประเทศที่เป็นแหล่งอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดและได้ชื่อว่ามีระเบียบวินัยที่สุดโลกอย่างญี่ปุ่นนั้น จะมีวิธีรับมือปัญหาจราจรบนท้องถนนอย่างไรบ้าง? ลองมาดูไปพร้อมกัน ๆ แล้วคุณจะรู้ว่า ญี่ปุ่นนี่มันญี่ปุ่นจริง ๆ
ปัญหาความวุ่นวายบนท้องถนนเป็นเรื่องที่พบกันได้ในทุกประเทศ และวิธีการรับมือกับปัญหาก็มีมาตรการที่แตกต่างกันออกไป ตามลักษณะการใช้ชีวิตพื้นฐานวัฒนธรรมของประเทศนั้น ๆ เพราะการแก้ไขปัญหาไม่ใช่เพียงแค่สั่งการแล้วสามารถทำได้เลย ต้องมีการรวบรวม วิเคราะห์ข้อมูล เพื่อหาทางออกที่เหมาะสมให้เกิดประโยชน์แก่ทุกฝ่าย ที่เป็นผลลัพธ์ที่สร้างสรรค์และยั่งยืน
สมกับเป็นญี่ปุ่่น รวม 6 มาตรการแก้ไขปัญหาบนท้องถนนอย่างยั่งยืน
สำหรับประเทศที่ระเบียบวินัยเป็นเลิศอย่างญี่ปุ่น มักจะมีอะไรที่ชวนให้ประหลาดใจ พาให้ทึ่งในสิ่งคิดและทำในสายตาโลกอยู่เสมอ อาจเพราะเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อถึงพฤติกรรมดี ๆ ที่น่าจดจำนำมาเป็นแบบอย่าง ทำให้ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ถูกจับตามอง อย่างเรื่องของการแก้ไขปัญหาบนท้องถนนนั้น พวกเขาก็มีแนวคิดที่สร้างสรรค์เพื่อมารองรับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างมีเหตุมีผลและได้ผลจริง เรามาดูกันดีกว่า ว่าปัญหาการจราจรที่ประเทศญี่ปุ่นนั้นถูกแก้ไขด้วยวิธีการแบบใดบ้าง จะเหนือความคาดหมายของคุณแค่ไหนกัน มาดูไปพร้อม ๆ กับเรากันเลย
จะซื้อรถต้องมีพื้นที่จอดรถไม่อย่างนั้นไม่มีสิทธิ์ครอบครองรถ
เป็นเรื่องที่หลายคนคงได้ยินผ่านหูมาบ้าง เพราะเรื่องนี้เป็นกฎหมายที่บังคับใช้ในประเทศญี่ปุ่นมานานแล้ว โดยทางญี่ปุ่นนั้นได้กำหนดเอาไว้ว่าผู้ที่ต้องการซื้อรถยนต์ส่วนตัวจะต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าตนนั้นมีสถานที่สำหรับจอดรถเป็นของตนเอง ยกเว้นแต่รถที่มีขนาดไม่เกิน 660 CC ดังนั้นก่อนจะทำการจดทะเบียนรถยนต์จะต้องนำโฉนดที่จอดรถหรือโฉนดที่ดินที่สามารถระบุพื้นที่สำหรับจอดรถคันที่จะซื้อพร้อมรูปถ่ายมาแสดงด้วย หากอยู่ที่พักอาศัยอื่นที่ไม่ใช่พื้นที่ส่วนตัวอย่างอพารตเม้นท์หรือคอนโดต้องไปเช่าที่จอดรถแบบรายปีและนำรูปถ่ายที่จอดรถพร้อมเอกสารการเช่ามายืนยัน
ท้องถนนญี่ปุ่นไม่มีรถส่วนตัวมาจอดขวางทางเกะกะ
ชาวญี่ปุ่นปฏิบัติตามกฎหมายข้อนี้กันอย่างเคร่งครัด เพราะทุกคนต่างนึกถึงส่วนรวมเป็นหลัก และมองว่าการนำรถมาจอดบนถนนสาธารณะเป็นการกระทำที่เอาเปรียบคนอื่น ๆ และขาดจิตสำนึก ดังนั้นเวลาไปเที่ยวที่ญี่ปุ่น จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกที่คุณจะไม่เห็นรถสักคันจอดเกะกะขวางทางบนถนนส่วนรวม
ข่าวการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนจากผู้สูงวัยในญี่ปุ่นมีมากกว่า 1 ใน 4
การแก้ปัญหาเรื่องอุบัติเหตุบนท้องถนนที่เกิดจากผู้ขับขี่สูงวัย เป็นประเด็นที่ทางญี่ปุ่นหาวิธีการแก้ไขรับมือมานานแล้ว เพราะจากสถิติพบว่าอุบัติเหตุบนท้องถนนที่เกิดจากผู้ขับขี่รถยนต์ที่มีอายุมากกว่า 65 ปีมีมากกว่า 1 ใน 4 ของอุบัติเหตุทางรถยนต์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงมาก และเป็นความเสี่ยงที่จะสร้างปัญหาได้มากกว่ากรณีอื่น ๆ เพราะผู้ขับขี่บางส่วนแทบไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าได้ก่อเหตุอันตรายใด ๆ ลงไป ปัญหานี้มีแนวโน้มที่จะรับมือยากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อมีการเปิดเผยข้อมูลว่าภายในปี ค.ศ.2060 ประชากรผู้สูงอายุญี่ปุ่นจะมีจำนวนสูงขึ้นเป็น 40% ของประชากรทั้งหมด
มีมาตรการรับมือแก้ไขปัญหาเรื่องการขับขี่ในผู้สูงวัยออกมามากมายแต่ได้ผลไม่มากนัก
ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงไม่รีรอรีบหาทางออกรับมือกับเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นการออกกฎหมายให้ผู้ขับขี่อายุ 75 ปีต้องผ่านการทดสอบความสามารถในการรับรู้ ความเข้าใจเมื่อไปต่ออายุใบขับขี่ใหม่ การจัดอบรม หรือโครงการต่าง ๆ ที่ซัพพอร์ตให้แก่ผู้สูงวัยอายุเกิน 75 ปีที่นำใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ไปคืนแก่ทางราชการ แต่ก็เหมือนจะยังช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ไม่มากเท่าไหร่ เพราะการอบรมใด ๆ ก็ไม่ได้ช่วยให้สุขภาพของผู้ขับขี่สูงวัยเตรียมพร้อมสำหรับการขับขี่ได้ดีขึ้น อุบัติเหตุจึงยังคงเกิดขึ้นอยู่เหมือนเดิม หลายฝ่ายจึงหันกลับมามองว่า วิธีการแก้ปัญหาที่น่าจะได้ผลจริง ๆ ควรเป็นการให้คนสูงวัยยกเลิกการขับขี่ไปจะดีที่่สุด
พิธีการจบการศึกษาการขับขี่ ที่ทำให้คุณปู่ยอมคืนใบขับขี่ด้วยตัวอง
จนเมื่อล่าสุดการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ได้ลงเอยมาที่ พิธีการจบการศึกษาการขับขี่ ฟังดูแล้วทุกคนคงนึกถึงบรรยากาศพิธีจบการศึกษาของเด็กนักเรียนในฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งขอบอกเลยว่าได้ฟิลลิ่งที่ไม่แตกต่างกันเลย เพียงแต่เปลี่ยนจากผู้ที่ที่รับมอบใบจบที่เป็นเด็กในชุดนักเรียน เป็นคุณปู่คุณย่าที่เป็นฝ่ายคืนใบขับขี่ด้วยตัวเอง โดยเป็นวิธีการที่นุ่มนวล อย่างเคสตัวอย่างเป็นเรื่องราวของครอบครัวหนึ่งที่จัดทริปการจบการศึกษาให้แก่ผู้เป็นคุณปู่ ชายสูงวัยในครอบครัวโดยที่เจ้าตัวก็ไม่รู้ตัว โดยดำเนินการให้คุณปู่ออกทริปเดินทางใกล้ชิดกับครอบครัวและคุณย่าผู้เป็นภรรยาคู่ชีวิต จากนั้นก็แอบเก็บภาพบรรยากาศความประทับใจ ก่อนนำฉายให้ดูในวันท่องเที่ยววันสุดท้าย บอกเล่าเรื่องราวการเดินทางที่ผ่านมาในชีวิตของคุณปู่ พร้อมวงดนตรีดุริยางค์ที่ช่วยสร้างบรรยากาศอันสุดแสนประทับใจด จากนั้นลูกหลายในครอบครัวก็ออกมาแสดงความยินดีแก่คุณปู่ที่สำเร็จการศึกษาในวันนี้ พร้อมขอบคุณที่อยู่ด้วยกันมาตลอดในทุก ๆ การเดินทาง เป็นการปิดฉากการเดินทางอันยาวนานของคุณปู่อย่างสวยงาม ซึ่งเป็นวิธีที่ได้ผลเมื่อคุณปู่่ยอมคืนใบขับขี่ด้วยตัวเองในที่สุด ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่น่าประทับใจและเป็นอบอุ่นเป็นอย่างมากทีเดียว
ดูเพิ่มเติม
>> ญี่ปุ่นเจ๋ง ให้เช่ารถจิ๋วแต่ปรับเป็นห้องนอนได้ ราคาคืนละ 2,800 บาท
>> โตโยต้า-ฮอนด้ากระอัก ข้อพิพาท'เกาหลี-ญี่ปุ่น'ทำยอดขายตลาดรถกิมจิหายฮวบ
เหตุการณ์การเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงหน้าโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น
หลังจากที่พูดถึงสังคมสูงวัยกันไปแล้ว ย้อนกลับมายังสังคมวัยใส เรียกได้ว่าประเทศญี่ปุ่นใส่ใจผู้คนทุกระดับชนชั้น ทุกเพศและทุกวัย สำหรับเรื่องนี้ ท้าวความย้อนไปกับกรณีการเกิดอุบัติเหตุที่บริเวณสี่แยกใกล้เคียงโรงเรียนอนุบาลแห่งหน่ึ่งในประเทศญี่ปุ่น เมื่อเกิดเหตุรถยนต์สองคันปะทะกัน แต่โชคร้ายเกิดขึ้นกับเด็กอนุบาล 2 คนในโรงเรียนดังกล่าว ที่กำลังเดินอยู่บริเวณนั้นพอดี ทำให้ทั้งคู่เสียชีวิตอย่างน่าเสียใจ อีกทั้งยังมีผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวจำนวนหนึ่งด้วย ซึ่งล้วนแต่เป็นเด็กเล็กแทบทั้งสิ้น
ระบบ Kid’s Zone ถูกนำมาใช้เป็นมาตรการป้องกันแก้ไขปัญหา
การแก้ไขปัญหาและหามาตรการป้องกันก็ถูกผุดขึ้นมา แม้จะเกิดขึ้นหลังจากมีการสูญเสียแล้วก็ตาม แต่ก็เป็นการเข้ามาแก้ไขที่แทบจะในทันที ถือว่าให้ความใส่ใจและกระตือรือร้นที่จะแก้ไขปัญหาอย่างจริงใจจริง ๆ โดยทางเทศบาลเมืองที่เกิดเหตุได้เสนอไอเดียและทดลองใช้ระบบ Kid’s Zone ทันที ในพื้นที่บริเวณรอบ ๆ สถานดูแลเด็กเล็กในเมืองซึ่งเป็นที่แรกของประเทศ ด้วยการสร้างพื้นที่ทาสีเขียวขนาด 2.5 x 2 เมตรและเขียนด้วยตัวอักษรสีขาวเอาไว้ว่า キッズゾーン (Kid’s Zone) และนำไปใช้กับพื้นที่ใกล้เคียงอีก 3 แห่ง และหากหากตรวจสอบพบว่ามาตรการนี้ได้ผลจริงจะนำไปใช้กับสถานดูแลเด็กเล็กอื่น ๆ อีก 150 แห่งทั่วประเทศ
ประเทศญี่ปุ่นเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ชาวต่างชาตินิยมไปท่องเที่ยว
ใช่ว่าจะใส่ใจแค่เพียงบุคลากรภายในประเทศ แต่ญี่ปุ่นยังให้ความสำคัญกับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนยังประเทศของพวกเขาด้วย เมื่อทางญี่ปุ่นออกมาตรการให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ติดสติกเกอร์บ่งบอกถึงสถานะของผู้ขับขี่ภายในรถเช่า ด้วยข้อความสั้น ๆ ได้ใจความครบถ้วนว่า 「外国の方が運転しています」ซึ่งแปลว่า “คนต่างชาติกําลังขับรถอยู่
สติกเกอร์คนต่างชาติกำลังขับรถจะถูกแปะเอาไว้ที่รถเช่าสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
เรื่องราวเริ่มมากจากสถิติการเช่ารถของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งทำให้อัตราการเกิดอุบัติเหตุจากกลุ่มนักท่องเที่ยวเหล่านี้เพิ่มขึ้นมากด้วยเช่นกัน สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากความไม่ชำนาญทาง และระบบการขับขี่ที่แตกต่างจากประเทศของตนเอง โดยทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมารับมือแก้ไขและหาทางป้องกันถึงเรื่องนี้ และได้ข้อสรุปมาไว้ รถยนต์เช่าที่มีไว้รองรับนักท่องเที่ยวจากตางประเทศให้ติดสติกเกอร์เพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกันบนท้องถนน เป็นการป้องกันและการเกิดอุบัติเหตุเบื้องต้นได้เป็นอย่างดีและได้ผลในระยะยาว เพราะนอกจากเพื่อนร่วมถนนจะเข้าใจแล้ว นักท่องเที่ยวผู้ขับรถเองก็เข้าใจมาตรการและระมัดระวังมากขึ้นในการขับรถเช่นกัน
โตเกียวเตรียมฟื้นฟูการขนส่งทางน้ำเพื่อรองรับงานโอลิมปิกปี 2020
งานกีฬาโอลิมปิกที่จะขึ้นที่โตเกียวประเทศญี่ปุ่นปี 2020 เจ้าภาพเตรียมพร้อมที่จะต้อนรับผู้มาเยือนอย่างเต็มประสิทธิภาพ พร้อมรองรับในทุก ๆ ด้าน รวมไปถึงเรื่องของการจราจรที่ทางกรุงโตเกียวเตรียมแผนทดสอบเรือโดยสาร เพื่อใช้รองรับการขนส่งในช่วงเทศกาลระดับโลกที่จะถึงปีหน้า หวังแก้ปัญหาจารจรติดขัดที่จะเกิดขึ้นในช่วงนั้น โดยมีการทดสอบเรือไปแล้วเมื่อช่วงปลายเดือนที่แล้วและต้นเดือนสิงหาที่ผ่านมา เส้นทางที่ทดสอบอยู่ระหว่างฮารุมิกับย่านนิฮมบาชิในเขตชูโอ ซึ่งใช้เวลาในการเดินทางเที่ยวละประมาณ 30-40 นาที และคาดว่าจะมีการทดสอบในเส้นทางและช่วงเวลาอื่นต่อจากนี้อีกด้วย
สภาพความแออัดบนขบวนรถไฟของญี่ปุ่นในชั่วโมงเร่งด่วน
ถึงแม้ปัญหารถติดบนท้องถนนจะไม่วุ่นวายเท่ากับที่ประเทศไทยของเรา แต่การขนส่งสาธารณะส่วนอื่นของญี่ปุ่นนั้นดูแออัดมาก โดยเฉพาะการโดยสารทางรถไฟฟ้าญี่ปุ่นที่ภาพจำของใครหลาย ๆ คนคงเป็นภาพกลุ่มฝูงชนมากมายพากันอัดแน่นในรถไฟขบวนเดียวกันภายใต้ชั่วโมงเร่งด่วน ซึ่งรัฐบาลญี่ปุ่นเองก็เล็งเห็นถึงปัญหานี้ และประเมินสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นหากเข้าสู่ช่วงงานโอลิมปิกปีหน้า ว่าความหนาแน่นและแอดอัดนี้ จะส่งผลกระทบในด้านการจราจรในช่วงเทศกาลอย่างแน่นอน
การรณรงค์ให้ทำงานที่บ้านจะช่วยลดปัญหาความแออัดอย่างได้ผล
ในเรื่องนี้ทางการญี่ปุ่นได้มีมาตรการออกมาให้ประชาชนได้เข้าร่วม กับการรณรงค์ให้ทำงานที่บ้าน เพื่อบรรเทาปัญหาจากการเดินทางไปทำงานทั้งบนท้องถนนและบนขบวนรถไฟ และอีกนัยหนึ่งคือเพื่อต้องการปฏิรูปวัฒนธรรมการทำงานในประเทศในเป็นระบบมากยิ่งขึ้น โดยทางกระทรวงกิจการภายในและการสื่อสารญี่ปุ่นให้ข้อมูลว่าตอนนี้ มีพนักงานราว 60,000 คน จาก 900 บริษัทและองค์กรรวมไปถึงหน่วยงานรัฐบาลต่าง ๆ ที่เข้าร่วมแคมเปญนี้ โดยหลังจากที่ประกาศมาตรการนี้พบว่ามีจำนวนรถยนต์บนท้องถนนลดลงไปบ้างแล้ว แต่ยังไม่ได้ชัดเจนอย่างเห็นได้ชัดมากเท่าไหร่ เพราะเป็นช่วงเริ่มต้นเท่านั้น แต่คาดว่านโยบายนี้จะสามารถแก้ไขปัญหาได้จริงและได้ผลยั่งยืนแน่นอนหลังจากที่มีการปฏิรูปวัฒนธรรมการทำงานอย่างจริงจัง
ในอนาคตประเทศญี่ปุ่นจะสร้างวินัยและจัดระเบียบทางท้องถนนได้อย่างสมบูรณ์แบบ
เป็นประเทศที่น่านับถือใจจริง ๆ เพราะให้ความสำคัญกับทุก ๆ เรื่อง ให้ความสำคัญกับทุก ๆ คน อีกทั้งแต่ละวิธีการนั้นก็ดูนุ่มนวลในการปฏิบัติ แต่แข็งแกร่งในรากฐานและโครงสร้าง บางรายการก็น่าชื่นชมควรค่าแก่การเป็นโมเดลต้นแบบให้แก่ประเทศอื่นที่ประสบปัญหาเช่นเดียวกัน และถึงแม้ปัญหารถติดของญี่ปุ่นจะไม่สามารถแก้ไขได้อย่างถาวรเฉกเช่นเดียวกับประเทศอื่น ๆ แต่ว่าพวกเขาก็มีวิธีการบรรเทาปัญหาเหล่านี้ได้อย่างดีและมีหลักการ ซึ่งเชื่อว่าในอนาคตจะสามารถรองรับและมีวิธีที่จะช่วยสร้างผลลัพธ์ที่ดีขึ้นได้ในอนาคตอย่างสมบูรณ์แบบ
ดูเพิ่มเติม
>> Toyota APM เปิดตัวรถพลังไฟฟ้า สเปคสุดล้ำ พร้อมวิ่งจริงในโอลิมปิก 2020
>> ชัดเจนแล้ว ไร้เงา "BMW-Audi" โชวร์ในงาน Tokyo Motor Show 2019
ติดตามข่าวสารรถยนต์ คลิกที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้