น้ำท่วมสูงแค่ไหน ไม่ควรขับรถยนต์ลุย

ประสบการณ์ใช้รถ | 27 ก.พ 2568
แชร์ 3

เตรียมความพร้อมสำหรับฤดูฝนและน้ำท่วม ตรวจสอบน้ำท่วมสูงแค่ไหนเพื่อความปลอดภัยในการขับรถยน

ด้วยสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมาก ทำให้เกิดสถานการณ์น้ำท่วมขึ้นบ่อยครั้งในหลายพื้นที่ของประเทศไทย การขับขี่รถยนต์ในสภาวะน้ำท่วมเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก เนื่องจากอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อตัวรถและผู้ขับขี่ได้ ในบทความนี้เราจะมาทำความเข้าใจถึงระดับความสูงของน้ำท่วมแต่ละช่วงว่ามีข้อควรระวังอย่างไร และควรหลีกเลี่ยงการขับรถในสภาพเช่นนั้นหรือไม่ เพื่อความปลอดภัยของทุกคน

น้ำท่วม ระดับไหนเป็นอันตรายต่อรถ
น้ำท่วม ระดับไหนเป็นอันตรายต่อรถ

ระดับน้ำสูง 5-10 ซม.

ในสภาพน้ำท่วมที่มีความสูง 5-10 ซม. นั้น รถยนต์ส่วนใหญ่ยังสามารถขับผ่านได้โดยไม่ประสบปัญหามากนัก อย่างไรก็ตาม ผู้ขับขี่ควรขับรถด้วยความระมัดระวังและขับช้าๆ เนื่องจากอาจทำให้เกิดการสาดน้ำขึ้นบนตัวรถและผู้ใช้รถอื่นๆ ได้ ซึ่งอาจส่งผลให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ลดลง และอาจเกิดอันตรายกับผู้ใช้รถรายอื่นได้

เมื่อน้ำท่วมมีความสูงระหว่าง 5-10 ซม. ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติดังนี้

  • ขับรถด้วยความระมัดระวังและขับช้าๆ เพื่อป้องกันน้ำสาดใส่ผู้ใช้รถอื่น
  • เปิดไฟหน้ารถเพื่อให้ผู้อื่นสามารถมองเห็นรถของเราได้ชัดเจนขึ้น
  • หลีกเลี่ยงการเร่งความเร็วจนเกินความจำเป็น เนื่องจากอาจทำให้เกิดการสูญเสียการควบคุมได้
  • ระวังอย่าขับรถลัดเลาะหรือขับแซงรถอื่น เพราะอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้

ขับรถลุยน้ำท่วมน้ำระดับไหน ที่รถยังขับไหว
ขับรถลุยน้ำท่วมน้ำระดับไหน ที่รถยังขับไหว

ระดับน้ำสูง 10-20 ซม.

เมื่อระดับน้ำสูงขึ้นในช่วง 10-20 ซม. รถยนต์ส่วนใหญ่ยังสามารถขับผ่านได้โดยไม่ประสบปัญหามากนัก แต่ผู้ขับขี่ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากน้ำในระดับนี้อาจจะเข้าสู่ภายในตัวรถได้ง่ายกว่าช่วงที่มีระดับน้ำต่ำกว่า

อันตรายในการขับรถยนต์

เมื่อน้ำท่วมมีความสูงระหว่าง 10-20 ซม. ผู้ขับขี่ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ ดังนี้

  • น้ำอาจเข้าสู่กรองอากาศและระบบไฟฟ้าภายในรถ ทำให้เกิดความเสียหายได้
  • ความแรงของน้ำอาจส่งผลให้รถยนต์สูญเสียการควบคุมได้ ซึ่งอาจนำไปสู่อุบัติเหตุได้
  • การขับรถด้วยความเร็วสูงอาจกระเด็นน้ำเข้าสู่ห้องโดยสารได้

วิธีขับรถให้ปลอดภัย

เมื่อต้องขับรถในน้ำท่วมที่มีระดับ 10-20 ซม. ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติดังนี้

  • ขับรถด้วยความเร็วต่ำ ไม่เกิน 20-30 กม./ชม. เพื่อป้องกันน้ำกระเด็นเข้าสู่ห้องโดยสาร
  • พยายามขับไปตามเส้นทางที่มีความสูงมากกว่าบริเวณโดยรอบ เพื่อให้รถไม่จมลงในน้ำ
  • หลีกเลี่ยงการขับผ่านบริเวณที่มีความลึกมากกว่า 20 ซม. เนื่องจากอาจทำให้รถจมได้

ระดับน้ำสูง 20-40 ซม.

เมื่อระดับน้ำท่วมมีความสูงถึง 20-40 ซม. การขับรถยนต์ในสภาพเช่นนี้จะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเสี่ยงและไม่ควรกระทำ โดยเฉพาะสำหรับรถยนต์ขนาดเล็กอย่างรถอีโคคาร์ เนื่องจากน้ำในระดับนี้อาจเข้าไปในท่อไอเสียและระบบไฟฟ้าของรถได้ง่าย ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรง

ข้อควรระวังสำหรับรถอีโคคาร์

เมื่อน้ำท่วมสูงระดับ 20-40 ซม. รถอีโคคาร์จะประสบปัญหาดังต่อไปนี้

  • น้ำอาจเข้าไปในท่อไอเสียและระบบไฟฟ้าของรถ ทำให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรง
  • ความแรงของน้ำอาจทำให้รถอีโคคาร์สูญเสียการควบคุม และอาจเกิดอุบัติเหตุได้
  • รถอีโคคาร์มีความสูงต่ำ ดังนั้นเมื่อเจอน้ำในระดับนี้ จะมีโอกาสที่น้ำจะเข้าไปในตัวรถมากกว่ารถขนาดใหญ่

ข้อแนะนำสำหรับการขับรถ

ในกรณีที่จำเป็นต้องขับรถยนต์ผ่านบริเวณน้ำท่วมระดับ 20-40 ซม. ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติดังนี้

  • เลือกใช้รถยนต์ที่มีขนาดใหญ่กว่ารถอีโคคาร์ เช่น รถเอสยูวี รถกระบะ หรือรถซีดานขนาดใหญ่
  • ขับรถด้วยความเร็วต่ำกว่า 20 กม./ชม. เพื่อลดแรงดันของน้ำ
  • หลีกเลี่ยงการขับรถเข้าไปในน้ำที่มีความลึกเกิน 30 ซม.
  • หยุดรถเพื่อตรวจสอบสภาพรถหากพบว่ามีน้ำเข้าไปในบางส่วน

น้ำท่วมระดับไหน ห้ามขับรถลุยน้ำ
น้ำท่วมระดับไหน ห้ามขับรถลุยน้ำ

ระดับน้ำสูง 40-60 ซม.

เมื่อน้ำท่วมมีระดับสูง 40-60 ซม. การขับรถผ่านบริเวณดังกล่าวจะเป็นอันตรายมากและไม่ควรกระทำ โดยเฉพาะสำหรับรถยนต์ขนาดเล็กอย่างรถซีดานและรถเล็ก เนื่องจากในระดับน้ำที่สูงถึง 40-60 ซม. น้ำจะเข้าไปในทุกส่วนของรถยนต์ ส่งผลให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงและอาจจมลงในน้ำได้

อันตรายที่อาจเกิดขึ้น

เมื่อเจอกับระดับน้ำท่วมสูงระหว่าง 40-60 ซม. ผู้ขับขี่จะต้องคำนึงถึงอันตรายต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะสำหรับรถยนต์ขนาดเล็กหรือรถยนต์ทั่วไปที่มีพื้นต่ำ

  • น้ำในระดับนี้สามารถเข้าถึงระบบไฟฟ้าของรถ ทำให้เกิดความเสียหายต่อเครื่องยนต์และอุปกรณ์ต่างๆ ภายในรถ
  • ความเร็วของน้ำที่ไหลแรงมากอาจทำให้รถสูญเสียการควบคุมได้ง่าย ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง
  • รถยนต์ในระดับน้ำนี้อาจจมลงได้ง่าย หากน้ำมีความลึกเกินไป หรือหากเกิดคลื่นแรงจากรถที่วิ่งผ่านไปมา

ข้อแนะนำในการปฏิบัติตัว

หากเจอสถานการณ์น้ำท่วมที่มีระดับสูง 40-60 ซม. ควรปฏิบัติดังนี้

  • หลีกเลี่ยงการใช้รถยนต์โดยเด็ดขาด หากไม่จำเป็นจริงๆ ให้พยายามเลื่อนเวลาการเดินทางออกไปจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น
  • หากคุณต้องออกเดินทาง ควรหารือกับเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับเส้นทางที่ปลอดภัยหรือเลือกใช้บริการขนส่งสาธารณะ
  • ควรเตรียมตัวให้พร้อม เช่น โทรศัพท์มือถือที่ชาร์จเต็ม พร้อมเลขฉุกเฉิน เพื่อให้ติดต่อได้หากเกิดปัญหา

ระดับน้ำสูง 60-80 ซม.

เมื่อระดับน้ำท่วมสูงถึง 60-80 ซม. การขับรถในสภาพนี้ไม่เพียงแต่เป็นอันตราย แต่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับรถยนต์ส่วนใหญ่ เนื่องจากน้ำจะเข้าท่วมทั้งระบบไฟฟ้าและเครื่องยนต์ ส่งผลให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงและอาจทำให้รถยนต์จมในน้ำได้

ผลกระทบจากระดับน้ำ

ระดับน้ำที่สูงถึง 60-80 ซม. ส่งผลกระทบอย่างมากต่อรถยนต์ โดยเฉพาะรถยนต์ที่มีระบบกลไกที่ซับซ้อน การเข้าท่วมในระดับนี้อาจทำให้

  • ระบบไฟฟ้าเสียหาย ทำให้รถไม่สามารถสตาร์ทได้
  • เครื่องยนต์อาจได้รับความเสียหายรุนแรง ซึ่งอาจต้องซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่
  • หากรถยนต์จมในน้ำ อาจต้องใช้บริการรถยกเพื่อดึงรถขึ้นจากน้ำ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูง

ขั้นตอนควรทำเมื่อเผชิญน้ำท่วม

หากคุณพบว่าตัวเองอยู่ในสถานการณ์น้ำท่วมระดับนี้ ควรปฏิบัติดังนี้

  • หลีกเลี่ยงการขับรถผ่านบริเวณนั้น ลงจากรถและหาที่หลบภัยที่ปลอดภัย
  • แจ้งเจ้าหน้าที่หรือหน่วยกู้ภัยเพื่อขอความช่วยเหลือหากคุณติดอยู่ในน้ำ
  • ถ่ายภาพหรือบันทึกข้อมูลเพื่อใช้ในการติดต่อประกันภัยหากมีความเสียหายเกิดขึ้น

การขับรถในสภาวะน้ำท่วมเป็นเรื่องที่ต้องมีความระมัดระวังอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อระดับน้ำสูงถึง 5-10 ซม. จนถึง 60-80 ซม. มีความเสี่ยงและข้อควรระวังแตกต่างกันไปตามระดับน้ำ ในทุกกรณีผู้ขับขี่ควรตรวจสอบสภาพรถก่อนขับขี่และควรให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเหนือสิ่งอื่นใด การใช้วิจารณญาณและความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสภาพน้ำท่วมจะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการเดินทางได้อย่างปลอดภัย

อ่านเพิ่มเติม