ควรเปลี่ยนประกันรถยนต์ หรือ ต่อประกันกับบริษัทเดิม ?
ประกันรถยนต์ใกล้หมดอายุแล้ว หลายคนอาจจะกำลังคิดหนักว่าควรเปลี่ยนประกันรถยนต์ หรือต่อประกันกับเจ้าเดิมดี ดูเหตุผลที่ควรพิจารณา เพื่อประกอบการตัดสินใจ ดังนี้
เมื่อประกันภัยรถยนต์ใกล้หมดอายุ หลายคนอาจจะกำลังคิดหนักว่าควรเปลี่ยนประกันรถยนต์ใหม่ หรือต่อประกันรถยนต์กับเจ้าเดิมดี เลือกแบบไหนถึงจะดีกับตนเองมากกว่ากัน มาดูเหตุผลที่ควรนำมาพิจารณากันเลย
เหตุผลที่ควรต่อประกันรถยนต์กับเจ้าเดิม
การต่อประกันภัยรถยนต์กับบริษัทเดิม มีข้อดีตรงที่ไม่ต้องเสียเวลาจัดเตรียมเอกสารใหม่ นอกจากนี้ ยังสามารถขอ No Claim Bonus หรือส่วนลดประวัติดีได้อีกด้วย กรณีที่รถของคุณไม่เคยเกิดอุบัติเหตุ หรือขอเคลมเลย ซึ่งสามารถขอได้ทุกบริษัท ตามข้อบังคับจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) โดยมีรายละเอียด ดังนี้
- ระดับที่ 1 ประวัติดีในปีแรก เมื่อต่อประกันปีที่ 2 จะได้รับส่วนลดเบี้ยประกัน 20%
- ระดับที่ 2 ประวัติดีในปีที่ 2 เมื่อต่อประกันปีที่ 3 จะได้รับส่วนลดเบี้ยประกัน 30%
- ระดับที่ 3 ประวัติดีในปีที่ 3 เมื่อต่อประกันปีที่ 4 จะได้รับส่วนลดเบี้ยประกัน 40%
- ระดับที่ 4 ประวัติดีในปีที่ 4 เมื่อต่อประกันปีที่ 5 และปีถัด ๆ ไป จะได้รับส่วนลดเบี้ยประกัน 50%
เหุผลที่ควรเปลี่ยนประกันรถยนต์
เหตุผลในการเปลี่ยนประกันรถ มาจากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น ความคุ้มครองไม่ครอบคลุมตามความต้องการ ความไม่พอใจกับบริการของบริษัทเดิม การส่งความช่วยเหลือ-เคลมล่าช้า ไม่มีค่ารถ/บริการรถให้ใช้ระหว่างรอซ่อม เดินทางไปศูนย์บริการไม่สะดวก จ่ายค่าเบี้ยประกันไม่ไหว เปลี่ยนไปใช้รถคันใหม่ ขายรถคันเก่า หรือสนใจโปรโมชันจากบริษัทใหม่ ฯลฯ ทำให้หลายคนเลือกที่จะหันหลังให้กับบริษัทประกันเจ้าเดิม ไปใช้บริการของบริษัทใหม่ ซึ่งข้อดีของการเปลี่ยนประกันภัยรถยนต์กับเจ้าใหม่ มีดังนี้
ข้อดีของการเปลี่ยนประกันรถ
- อาจได้เบี้ยประกันถูกลง แต่ได้ความคุ้มครองเหมือนเดิม
- อาจได้รับบริการที่ดีขึ้น หากบรษัทประกันเจ้าเดิมบริการไม่ถูกใจ
- ได้โปรโมชันที่ถูกใจ หรืออาจได้รับของแถมเพิ่มเติม
เอกสารที่ใช้ในการเปลี่ยนประกันภัยรถยนต์
- สำเนาบัตรประชาชนของเจ้าของรถ
- สำเนาเล่มทะเบียนรถ
- รูปถ่ายรถ หรือ เอกสารการตรวจสภาพรถจากบริษัทเดิม (กรณีทำประกันภัยชั้น 1)
หากต้องการเปลี่ยนประกันรถยนต์ก่อนหมดอายุ สามารถทำได้เลย โดยติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขอยกเลิกกรมธรรม์ (แจ้งหมายเลขกรมธรรม์ที่ต้องการขอยกเลิก) พร้อมแนบสำเนาบัตรประชาชน และสำเนาสมุดบัญชีธนาคารสำหรับการขอเงินคืนไปด้วย แต่จะได้เงินคืนตามจำนวนวันที่เหลืออยู่ ไม่ได้เต็มจำนวน
อ่านเพิ่มเติม >>
