ควรเปลี่ยนยางรถมอเตอร์ไซค์ เมื่อพบ 6 สัญญาณเตือนเหล่านี้ ! เพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัย ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน พร้อมแนะวิธีดูแลรักษายางเบื้องต้น
ยางรถมอเตอร์ไซค์ เป็นชิ้นส่วนที่สำคัญของรถมอเตอร์ไซค์ และบิ๊กไบค์ทุกคัน นอกจากจะมีหน้าที่ในการขับเคลื่อนแล้ว ยังเป็นจุดรับน้ำหนักและแรงปะทะก่อนชิ้นส่วนอื่น ๆ อีกด้วย การดูแลรักษายางมอเตอร์ไซค์จึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม แต่จะรู้ได้อย่างไรว่าตอนไหนควรเปลี่ยนยางรถ และมีจุดสังเกตที่เป็นสัญญาณเตือนอย่างไรบ้าง หาคำตอบได้ในบทความนี้
โดยปกติแล้ว ยางรถมอเตอร์ไซค์จะมีอายุการใช้งานประมาณ 10,000-20,000 กิโลเมตร หรือราว ๆ 1-2 ปี แต่ก็ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการขับขี่ สภาพพื้นถนน และลักษณะการใช้งานด้วยเช่นกัน หากมีการใช้งานหนัก ขับขี่บนถนนไม่เรียบ เป็นหลุมบ่อ มีการขับเร็ว หรือเบรกกะทันหันบ่อย ๆ ยางก็อาจจะเสื่อมสภาพเร็วตามการใช้งานที่สมบุกสมบัน
ยางรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ควรจะเติมลมอย่างน้อยทุก ๆ 1 เดือน หรือน้อยกว่านั้น ขึ้นอยู่กับการใช้งาน แต่ถ้าต้องเติมลมยางบ่อย ๆ เติมมาได้ไม่กี่วันก็อ่อนลง เกิดปัญหายางนอกกัดยางใน หรือผิวยางด้านนอกเสื่อมสภาพ ส่งผลให้ยางในเสียหาย ทำให้ยางรั่วซึมอยู่ตลอดเวลา ควรเปลี่ยนยางใหม่เพื่อการใช้งานที่มีประสิทธิภาพ
ปัญหานี้เกิดขึ้นได้กับรถมอเตอร์ไซค์เช่นเดียวกัน โดยเกิดจากการเติมยางลมอ่อนเกินไป หรือใช้ยางขณะรถยางแบน ทำให้พื้นที่ดอกยางเสียหาย ซึ่งหากหน้ายางสัมผัสพื้นผิวถนนไม่เท่ากัน จะทำให้ความสามารถในการยึดเกาะถนนลดลง ส่งผลต่อความปลอดภัยในการขับขี่ ควรเปลี่ยนใหม่ทันที
ดอกยางโล้น ดอกยางหมด ร่องยางตื้น ต้องเปลี่ยนใหม่ให้เร็วที่สุด ไม่ควรใช้ต่ออย่างเด็ดขาด เพราะส่งผลต่อการเกาะถนนของยางรถ ทำให้ยางเกาะถนนได้ไม่ดี อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ โดยเฉพาะตอนขับบนถนนลื่น ๆ
หากขี่รถอยู่แล้วพบว่ารถเฉไปทางฝั่งใดฝั่งหนึ่ง ต้องฝืนดึงแฮนด์กลับมาอีกด้าน นี่เป็นสัญญาณเตือนว่ายางรถสึกไม่เท่ากัน อาจจะเกิดการรั่วซึมตามมา หรือเกิดการระเบิดได้เลยหากขับขี่ด้วยความเร็วสูง ควรเปลี่ยนใหม่ทันทีเพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน
อาการรถแฉลบ รถเหิน ยางไม่เกาะถนน เกิดจากความลึกของดอกยางเหลือน้อย ประสิทธิภาพในการเกาะถนนของยางรถจึงลดลง ส่งผลให้ควบคุมได้ยาก เมื่อเบรกกะทันหันจะเกิดอาการไถลไปข้างหน้า รถสะบัดตอนเข้าโค้ง ถือว่าเป็นอันตรายอย่างมาก ควรเปลี่ยนอย่างใหม่เพื่อความปลอดภัย
ปัญหารถกระเด้งกระดอน สาเหตุหนึ่งเกิดจากการเติมลมยางมากเกินไป ทำให้ยางแข็งจนรถกระเด้งกระดอน อีกสาเหตุมาจากเกิดจากเนื้อยางเสื่อมสภาพ หากขับรถด้วยยางที่มีแรงดันปกติ แล้วรถยังกระเด้งกระดอนอยู่ตลอดเวลา สันนิษฐานได้เลยว่ามาจากสาเหตุหลัง ควรเปลี่ยนยางใหม่ให้เร็วที่สุด
อ่านเพิ่มเติม >>
หมั่นเช็กยางลมบ่อย ๆ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง และควรเติมลมยางอย่างน้อย 1 เดือนต่อครั้ง เพื่อการใช้งานที่มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยในระหว่างการขับขี่
หากมีสิ่งแปลกปลอมติดค้างอยู่ที่ล้อ ไม่ว่าจะเป็น หิน กรวด ลวด ตะปู ของแข็งแหลม หรืออะไรก็ตามที่อาจทำให้ยางรั่วหรือเสื่อมสภาพได้เร็วขึ้น ควรล้างทำความสะอาดออกทันที
การขับขี่แบบถนอมยางจะช่วยยืดอายุการใช้งานและการเสื่อมสภาพของยางรถได้ เช่น ไม่เบรกกะทันหันบ่อย ๆ หรือขับอย่างระมัดระวังบนถนนที่เป็นหลุมบ่อ มีลูกระนาดเยอะ ๆ หรือมีร่องถนน เป็นต้น
การดูแลยางรถมอเตอร์ไซค์ ทำได้ไม่ยาก นอกจากจะช่วยยืดอายุการใช้งาน และการขับขี่ที่มีประสิทธิภาพแล้ว ยังส่งผลต่อความปลอดภัยบนท้องถนนอีกด้วย ผู้ขับขี่จึงควรดูแลยางมอเตอร์ไซค์อย่างสม่ำเสมอและเปลี่ยนใหม่เมื่อถึงเวลาอันควร
ขอบคุณข้อมูลจาก roojai, safedrivedlt, Yamaha
หากสนใจรถมือสอง ดูเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Chobrod.com
ตลาดรถมือสอง มีรถมากมายให้เลือกในราคาที่ถูกใจ