วันนี้ Chobrod.com จะพาทุกคนไปรู้จักเกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับรถยนต์ เพื่อทราบถึงการแบ่งประเภทของรถยนต์ ว่าจริงๆแล้วการแบ่งประเภทรถยนต์เขาดูกันตรงไหนบ้าง เพราะในปัจจุบันนี้ถือว่ารถที่ออกใหม่ป้ายแดง ในแต่ละปี ค่อนข้างที่จะเยอะพอสมควร ซึ่งบางคนอาจจะยังไม่รู้ว่ามันมีประเภทไหนบ้างเนอะ
เกร็ดความรู้.. ประเภทของรถยนต์มีแบบไหนบ้างนะ?
โดยเรื่องของการแบ่งประเภทของรถยนต์ ถือว่าเป็นเรื่องที่หลายๆคนยังค่อนข้างสับสนอยู่เป็นอย่างมากว่า จริงๆแล้วการแบ่งประเภทรถยนต์ นั้นแบ่งตามขนาดรถ หรือแบ่งตามขนาดเครื่องยนต์ ซึ่งตามจริงแล้วการแบ่งประเภทของรถยนต์นั้นสามารถทำได้ดังนี้ ตามมาดูกันเลยค่ะ
รถยนต์ประเภท A – Segment
1.รถยนต์ประเภท A – Segment จะเป็นกลุ่มรถยนต์ที่มีขนาดเครื่องยนต์ 660 cc. - ไม่เกิน 1000 cc. ซึ่งรถประเภทนี้จะเป็นรถยนต์ที่เหมาะกับการใช้งานในเมืองและแถบชานเมือง เนื่องจากเป็นรถที่มีขนาดเล็ก ใช้งานได้คล่องแคล่ว ในเรื่องของการขับขี่และการจอดรถ โดยรถยนต์ประเภท A - Segment จะถูกเรียกว่า Kei Car ที่เฉพาะในประเทศญี่ปุ่น อย่างเช่น รถ Honda N-Box , รถ Suzuki Wagon-R รถ Daihatsu Mira เป็นต้นส่วน รถ Toyota Aygo , รถ Suzuki Celerio ก็ถือว่าเป็นรถยนต์ ประเภท A - Segment ด้วยเช่นกัน
รถยนต์ประเภท B – Segment
2. รถยนต์ประเภท B – Segment นี้จะเป็นรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่กว่า รถยนต์ประเภท A - Segment ขึ้นมาหน่อย โดยจะเป็นเครื่องยนต์ขนาดประมาณ 1,000 cc. - 1,500 cc. โดยส่วนรถยนต์ประเภท B - Segment จะเหมาะสำหรับผู้ที่มีครอบครัวเล็กๆ หรือ ผู้ที่อยู่ในวัยทำงานที่ต้องการมีรถไว้ใช้งานนั่นเองค่ะ จุดเด่นๆของรถประเภท B- Segment ถ้าใช้งานคนเดียวจะสามารถจุของได้เยอะพอสมควร ส่วนในประเทศไทยยังสามารถแบ่งรถประเภท B - Segment ได้เป็นสองประเภทอีกด้วยนั่นก็คือ
Eco Car
รถ Eco Car (อีโคคาร์) ก็ถือว่าเป็นรถประเภท B- Segment ด้วยเช่นกันโดยจะมีเครื่องยนต์ประมาณ 1,200 cc. เป็นส่วนใหญ่ เช่น รถ Nissan March , รถ Mitsubishi Mirage , รถ Honda Brio , รถ Suzuki Swift และ รถ Toyota Yaris รุ่นตั้งแต่ปี 2013 ขึ้นไป
รถระดับปกติ
รถระดับปกติ ก็ถือว่าเป็นรถยนต์ประเภท B-Segment ด้วยเช่นกัน โดยจะมีเครื่องยนต์ที่ใหญ่กว่ารถประเภท อีโคคาร์ มีในส่วนของออฟชั่นให้เลือกเพิ่มมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น รถ Toyota Vios , รถ Honda City , รถ Honda City , รถ Honda Jazz , รถ Ford Fiesta , รถ Mazda2
รถยนต์ประเภท C-Segment
3. รถยนต์ประเภท C-Segment จะเป็นรถยนต์นั่ง ที่มีขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่หรือที่หลายๆท่านนั้นชอบเรียกว่ารถยนต์ขนาด คอมแพกต์ เหมาะสำหรับเป็นรถครอบครัว โดยรถยนต์ประเภท C- Segment จะมีกาปรับแต่งเครื่องยนต์และระบบช่วงล่างใหมีสมรรถนะเพิ่มมากขึ้น รถรถยนต์ประเภท C- Segment จะมีความยาวของรถประมาณ 4.4 - 4.75 เมตร และในส่วนของความจุเครื่องยนต์ จะอยู่ที่ 1,500 cc. - 2,200 cc. ยกตัวอย่างเช่น รถ Toyota Corolla Altis , รถ Honda Civic , รถ Ford Focus และ รถ Mazda 3
ดูเพิ่มเติม
>> โปรโมชั่นออกรถค่าย Ford เดือนตุลาคม 2561
>> Five Fact : 5 รถมือสอง "เก่าแต่โคตรเก๋า" ขับไปไหนก็มีแต่คนมอง
รถยนต์ประเภท D - Segment
4. รถยนต์ประเภท D - Segment จะเป็นรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่กว่ารถประเภท C- Segment มาอีกระดับและจะมีการตกแต่งภายในให้มีความหรูหรากว่า รถประเภท C - Segment รวมถึงวัสดุที่นำมาใช้ก็จะดีกว่าอีกด้วย ส่วนเครื่องยนต์ รถ D-Segment จะมีสมรรถนะสูง เพื่อการรองรับกับขนาดของรถยนต์ ตัวอย่างรถยนต์ ประเภท D-Segment ได้แก่ Toyota Camry, Honda Accord , Nissan Teana ,Ford Fusion , Mazda 6
รถยนต์ประเภท E- Segment
5. รถยนต์ประเภท E- Segment ถือว่าเป็นรถยนต์นั่งขนาดใหญ่ที่สุด หรือ ในที่ต่างประเทศเรียกว่า Full Size Car ซึ่งรถประเภทนี้จะเป็นที่นิยมอย่างมากในทวีป อเมริกา แต่เนื่องจากเป็นรถที่มีขนาดใหญ่จึงทำให้รถยนต์ประเภท E- Segment นั้นมีราคาค่อนข้างสูง เบียดกับราคารถยนต์หรูหราระดับต้นๆ และ รถยนต์ประเภท Full Size Car หรือ E- Segment นั้นยังไม่ได้รับความนิยมในตลาดบ้านเรา จึงทำให้ไม่มีรถยนต์ประเภท Full Size Car วางจำหน่าย ส่วนรถยนต์ประเภท E- Segment จะเป็นรถรุ่น Toyota Avalon, Chevrolet Impala
รถยนต์ประเภท Entry-level luxury
6. รถยนต์ประเภท Entry-level luxury / Compact Executive Car มาถึงกับรถยนต์ประเภท Entry-level luxury หรือ Compact Executive Car จะเป็นรถยนต์ที่ขนาดเท่ากับรถคอมแพกต์ แต่จะมีความหรูหราในเรื่องของการตกแต่งและวัสดุที่นำมาใช้ และยังเป็นรถยนต์ที่มีเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ซึ่งมีทั้งพละกำลังและสมรรถนะสูง เช่น BMW Series-3 , Mercedes-Benz C-Class , Lexus IS และ Audi A4
รถยนต์ประเภท Mid-Size Luxury Car
7. รถยนต์ประเภท Mid-Size Luxury Car หรือรถยนต์นั่งหรูหราระดับกลาง แต่ด้วยตัวรถที่มีขนาดใหญ่กว่ารถยนต์ขนาดกลางธรรมดา แต่จะมีการตกแต่งรถให้มีความหรูหรา และดูมีคุณภาพ กว่ารถยนต์ขนาดใหญ่ พร้อมทั้งสมรรถนะสูงกว่ามาตราฐานของรถยนต์ที่เป็นรถยนต์ขนาดกลางและรถยนต์ขนาดใหญ่ทั่วไป รถที่จัดอยู่ในประเภท Mid-Size Luxury Car จะเป็นรถ Mercedes-Benz E-Class , รถ Bmw Series 5 , รถ Audi A6 , รถ Volvo S80 , รถ Lexus GS , รถ Toyota Crown , รถ Nissan Pressident
รถยนต์ประเภท Full-Size Luxury Car
8. รถยนต์ประเภท Full-Size Luxury Car หรือรถยนต์ขนาดใหญ่ประเภทหรูหรา ซึ่งรถยนต์ประเภทนี้ถือว่าเป็นรถยนต์ขนาดใหญ่ที่มาพร้อมกับความหรูหรา สำหรับเครื่องยนต์รถยนต์ประเภท Full-Size Luxury Car ส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องยนต์แบบ 6สูบ จนถึง 12สูบ ซึ่งจะมี CC ของเครื่องยนต์อยู่ที่ 3,000 CC - 4,500 cc ยกตัวอย่างรถยนต์ประเภท Full-Size Luxury Car จะเป็น รถ Mercedes-Benz S-Class , BMW Series 7 , Audi A8 , Jaguar XJ , Maserati Quttroporte , Lexus LS
รถยนต์ประเภท Sports Car
9. รถยนต์ประเภท Sports Car รถสปอร์ตส่วนใหญ่แล้วจะเป็นรถยนต์ 2 ที่นั่งซะส่วนใหญ่ ตัวถังรถยนต์นั้นจะมาในแบบคูเป้แต่บางรุ่นก็จะมาเป็นตัวถังแบบซีดาน ก็นับเป็น Sport Car แต่จะมีการลดน้ำหนักของตัวถังให้เบากว่ารถปกติทั่วไป เพื่อที่จะทำให้รถนั้นมีสมมรรถนะให้ออกมาได้มากที่สุด รถยนต์ที่เป็น Sport Car ก็จะเป็น รถ Chevrolet Corvette , รถ Mitsubishi Lancer Evolution , รถ Subaru WRX STi , รถ Toyota 86/Subaru BR-Z
รถยนต์ประเภท Grand tourer
10. รถยนต์ประเภท Grand tourer ถือว่าเป็นรถสปอร์ตที่มีความหรูหราขึ้นมามากกว่า รถยนต์ประเภท Sports Car ขึ้นมาอีกระดับ และจะมีสมรรถนะที่เพิ่มขึ้นมาอีกระดับ โดยรถยนต์ประเภท Grand tourer นั้นได้แก่ รถ Nissan GT-R , รถ Porsche 911 , รถ Maserati Granturismo , รถ Aston Martin DB9
รถยนต์ประเภท SuperCar
11. รถยนต์ประเภท SuperCar รถยนต์ประเภทนี้หลายๆท่านนั้นรู้จักกันเป็นอย่างดี กับรถ SuperCar ซึ่งรถ SuperCar จะเป็นรถที่เน้นในเรื่องของสมรรถนะแบบเต็มๆ และจะมีเครื่องยนต์ขนาด 6 สูบขึ้นไป รถยนต์ประเภท SuperCar ก็จะเป็น รถ Lamborghini Huracan , รถ Ferrari 458 italia , รถ McLaren MP4-12C , รถ Ferrari F12 , รถ Lamborghini Aventador
รถยนต์ประเภท Hypercar
12. รถยนต์ประเภท Hypercar มาถึงรถยนต์ประเภทสุดท้ายที่ถือว่าเป็นที่สุดของประเภทรถที่กล่าวมาทั้งหมด นั้นก็คือ รถยนต์ประเภท Hypercar ซึ่งจะมีพละกำลังและสมรรถนะสูง โดยจะมีแรงม้าของรถ เกิน 700 - 800 แรงม้า แต่ก็จะมีบางรุ่นที่มีแรงม้าถึง 1,000 แรงม้า ซึ่งรถยนต์ประเภท Hypercar ยังสามารถทำความเร็วได้ถึง 400 กม./ชม. อีกด้วย โดยรถที่จัดอยู่ในประเภท Hypercar ได้แก่ รถ McLaren P1 , รถ Ferrari LaFerrari , รถ Bugatti Veyron , รถ Pagani Huayra
เพื่อนๆคงได้ทราบกันแล้วนะคะว่ารถยนต์แบบไหนจัดอยู่ในประเภทอะไร ซึ่งถือว่าเป็นความรู้อีกอย่างนึงที่หลายๆคนอาจจะไม่เคยได้ทราบมาก่อนเลยว่ารถยนต์มีการแบ่งประเภทของรถแต่ละชนิดอย่างไร หากรู้แล้วถูกใจก็อย่าลืมแชร์กันนะคะ สามารถติดตามความรู้ใหม่ๆได้ที่ Chodrod.com กันได้ตลอดครั้งหน้าจะเป็นเรื่องไหนสามารถรอชมกันได้เล้ยยย!
ดูเพิ่มเติม
>> ใหม่ Nissan Teana 2019 ปรับโฉม เปิดตัววันนี้ อย่าพลาด ..!!!
>> M.O.V.E 2022 วิสัยทัศน์ที่สอดคล้องกับแผนระยะกลางระดับโลกจาก “นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย ”
ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดีและน่าเชื่อถือ เชิญที่นี