ฮอนด้า (Honda) เผยเทคโนโลยีเจเนอเรชันใหม่ใน Workshop 2025 ไฮไลต์คือ Super-ONE EV ที่มาพร้อมเกียร์จำลอง 7 สปีด และแพลตฟอร์มไฮบริด V6 ใหม่สำหรับอเมริกาเหนือ







บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด (ประเทศญี่ปุ่น) ได้จัดกิจกรรม “Honda Automotive Technology Workshop” เพื่อเผยข้อมูลเทคโนโลยีเจเนอเรชันใหม่ ที่มีแผนจะนำมาใช้ในรถยนต์ช่วงครึ่งหลังของทศวรรษ 2020 โดยมีเป้าหมายเพื่อบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน และลดอุบัติเหตุให้เป็นศูนย์ภายในปี 2050 ควบคู่กับการส่งมอบคุณค่า "ความสนุกในการขับขี่" (Enjoy the Drive)
เทคโนโลยีหลักที่นำเสนอในครั้งนี้ สะท้อนแนวคิด M/M Concept (Man Maximum, Machine Minimum) โดยมีไฮไลต์สำคัญ 3 ด้าน ได้แก่


1. แพลตฟอร์มขนาดกลางเจเนอเรชันใหม่ (สำหรับไฮบริด ปี 2027) ฮอนด้ากำลังพัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับรถยนต์ไฮบริด (HEV) รุ่นใหม่ที่จะเริ่มใช้ตั้งแต่ปี 2027 เป็นต้นไป โดยแพลตฟอร์มนี้จะ มีน้ำหนักเบาลงถึง 90 กิโลกรัม เมื่อเทียบกับรุ่นปัจจุบัน เน้นโครงสร้างที่แข็งแกร่งและการออกแบบแบบโมดูล (ตั้งเป้าใช้ชิ้นส่วนร่วมกันได้มากกว่า 60%) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
แพลตฟอร์มนี้ยังยกระดับเสถียรภาพการขับขี่ ด้วยการปรับสมดุลความแข็งแกร่งของตัวถังใหม่ และเพิ่มเทคโนโลยี Pitch Control เข้าไปในระบบ Agile Handling Assist (ที่ใช้อยู่ใน Accord และ Prelude) เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่ควบคุมรถได้แม่นยำและเพิ่มการยึดเกาะถนน


2. ระบบไฮบริดขนาดใหญ่ (HEV) เจเนอเรชันใหม่ สำหรับตลาดอเมริกาเหนือที่มีความต้องการรถยนต์ขนาดใหญ่ (D-segment ขึ้นไป) ฮอนด้ากำลังพัฒนาระบบไฮบริดรุ่นใหม่ ที่มาพร้อม เครื่องยนต์ V6 ที่พัฒนาขึ้นใหม่ และชุดขับเคลื่อนไฟฟ้าใหม่ เน้นสมรรถนะการลากจูงสูง โดยตั้งเป้า ประหยัดน้ำมันดีขึ้นมากกว่า 30% และมี อัตราเร่งดีขึ้นมากกว่า 10% เมื่อเทียบกับรถสันดาปในเซกเมนต์เดียวกัน






3. เทคโนโลยีสำหรับ Compact EV จาก ‘Super-ONE Prototype’ รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กที่พัฒนาจากรถต้นแบบ Super-ONE (ที่เปิดตัวในงาน Japan Mobility Show 2025) มีกำหนดวางจำหน่ายในญี่ปุ่นปี 2026 ตามด้วยสหราชอาณาจักรและเอเชีย
รถรุ่นนี้พัฒนาภายใต้แนวคิด “e: Dash BOOSTER” บนแพลตฟอร์มน้ำหนักเบาที่ต่อยอดจาก Honda N Series แต่ขยายความกว้างและติดตั้งแบตเตอรี่แบบบางไว้ใต้ท้องรถ ทำให้มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ ตอบสนองการควบคุมได้ฉับไว
ไฮไลต์สำคัญคือฟังก์ชัน “Boost Mode” ที่ผสานการทำงานกับ ระบบจำลองเกียร์ 7 สปีด และระบบ Active Sound Control เพื่อสร้างเสียงเครื่องยนต์และให้ความรู้สึกการเปลี่ยนเกียร์ที่เฉียบคม โดยระบบจะจำลองแรงกระชากจากการ "คิกดาวน์" และพฤติกรรม "fuel cut" เพื่อถ่ายทอดอารมณ์การขับขี่แบบรถสันดาปมาสู่ยุค EV ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ตลาดรถมือสอง มีรถมากมายให้เลือกในราคาที่ถูกใจ