ปั้ ม น้ํา รถยนต์ มีหน้าที่ระบายความร้อนของเครื่องยนต์ หากเกิดการเสื่อมสภาพหรือชำรดจึงควรเปลี่ยนใหม่ ไม่ควรปล่อยไว้ เพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน
ปั้มน้ำรถยนต์ (Water Pump) มีหน้าที่ระบายความร้อนของเครื่องยนต์ โดยจะเข้าไปควบคุมการไหลเวียนของสารหล่อเย็นไปยังเครื่องยนต์อย่างต่อเนื่อง ทำให้เครื่องยนต์ไม่ร้อนจนเกินไป ซึ่งปั๊มน้ำจะมีการหมุนเวียนน้ำไปถึง 1.7 ล้านลิตรต่อการวิ่ง 1 แสนกิโลเมตร เมื่อใช้งานไปนาน ๆ จึงเกิดการชำรุดหรือเสื่อมสภาพเป็นเรื่องธรรมดา หากปั้ ม น้ํา รถยนต์ เสีย สามารถสังเกตจากอาการต่าง ๆ ได้ดังนี้
ปั้ ม น้ํา รถยนต์ มีหน้าที่ระบายความร้อนของเครื่องยนต์
หากระดับน้ำในหม้อพักน้ำค่อย ๆ ลดลงหรือหายไปอย่างรวดเร็ว โดยจะมีหยดน้ำไหลซึมออกมาจากบริเวณซีลแกนปั๊มน้ำและช่องระบายอากาศ เป็นไปได้ว่า ปั้ ม น้ํา รถยนต์ รั่ว ควรรีบเปลี่ยนใหม่ให้เร็วที่สุด
เมื่อพบว่าปั๊มน้ำรถยนต์มีเสียงดัง แสดงว่าลูกปืนแตกหรือสึกหรอจนทำให้ประสิทธิภาพในการหมุนของปั๊มน้ำรถยนต์ลดลง ทำให้หมุนได้ไม่เสถียร ติด ๆ ดับ ๆ ควรรีบเปลี่ยนใหม่ทันที หากปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้ชิ้นส่วนอื่น ๆ เกิดการชำรุดตามได้
เป็นไปได้ว่าสายพานอาจจะขาด จนทำให้ตัวปั๊มน้ำไม่หมุน ควรรีบเปลี่ยนใหม่ให้เร็วที่สุด เพราะเมื่อปั๊มน้ำไม่ทำงาน เครื่องยนต์จะเกิดการสะสมความร้อนนั่นเอง
อาการ ปั๊ม น้ํา รถยนต์ เสีย เกิดจากหลายสาเหตุ
ควรตรวจเช็กสายพานให้ดีว่าอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้หรือไม่ หากมีการชำรุด ฉีกขาด หรือเสื่อมสภาพควรเปลี่ยนใหม่ทันที นอกจากนี้ ยังควรเช็กระดับน้ำในหม้อน้ำ-หม้อพักเป็นประจำ หากพบว่ามีการลดลงอย่างผิดปกติ หรือมีน้ำไหลซึมออกมาจากช่องระบายอากาศหรือซีลแกนปั๊มน้ำ ควรนำเข้าศูนย์หรืออู่ให้ช่างเปลี่ยนใหม่ให้ เพื่อความปลอดภัยในการใช้รถ
เมื่อ ปั้ ม น้ํา รถยนต์ เสีย ควรเปลี่ยนใหม่ทันที
เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายระหว่างการใช้รถใช้ถนน เจ้าของรถจึงควรเปลี่ยนปั้ ม น้ํา รถยนต์ ทุก ๆ 2 แสนกิโลเมตร นอกจากนี้ ยังควรเปลี่ยนถ่ายน้ำในหม้อน้ำ ทุก ๆ 4 หมื่นกิโลเมตร เพื่อป้องกันไม่ให้ปั๊มน้ำและหม้อน้ำเสื่อมสภาพเร็วจนเกินไป
อ่านเพิ่มเติม