กฎหมายกำหนดสติกเกอร์ “e” และ “s” ติดท้ายรถประเภทใด ?

ราชกิจจานุเบกษาได้ประกาศกรมการขนส่งทางบก เรื่องการกำหนดกำลังมอเตอร์ไฟฟ้าของรถยนต์ไฟฟ้าและมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า รายละเอียดเป็นเรื่องการติดสติกเกอร์ “e” และ “s” บริเวณท้ายรถ เพื่อให้รถไฟฟ้าที่เป็นไปตามประกาศสามารถนำไปจดทะเบียนได้ โดยจะมีการติดที่ท้ายรถประเภทใดบ้าง ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในบทความนี้

สำหรับความหมายของกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้า ได้ถูกนิยมเอาไว้ว่า กำลังของมอเตอร์ไฟฟ้า หมายถึง กำลังพิกัด (Rated Power) หรือกำลังขับเคลื่อนรถให้มีความเร็วต่อเนื่องสูงสุด 30 นาที (Maximum 30 Minutes Power) ของมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้าและความเร็วสูงสุด จะถูกกำหนดตามประเภทของรถ ดังนี้ 

รถยนต์ไฟฟ้า

• รถยนต์รับจ้างระหว่างจังหวัด รถยนต์บรรทุกรับจ้างไม่เกิน 7 คน รถยนต์บริการธุรกิจ รถยนต์บริการทัศนาจร รถยนต์บริการให้เช่า รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล และรถยนต์สี่ล้อเล็ก มอเตอร์ไฟฟ้าจะต้องมีกำลังไม่น้อยกว่า 15 kW และมีความเร็วสูงสุดไม่น้อยกว่า 90 กม./ชม.
• รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คน แบบพิเศษ มอเตอร์ไฟฟ้าจะต้องมีกำลังไม่น้อยกว่า 100 kW 
• รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล และรถยนต์สี่ล้อเล็กรับจ้าง มอเตอร์ไฟฟ้าจะต้องมีกำลังไม่น้อยกว่า 4 kW และมีความเร็วสูงสุดไม่น้อยกว่า 45 กม./ชม. 
• รถยนต์รับจ้างสามล้อ และรถยนต์สามล้อส่วนบุคคล มอเตอร์ไฟฟ้าจะต้องมีกำลังไม่น้อยกว่า 4 kW และมีความเร็วสูงสุดได้ ไม่น้อยกว่า 45 กม./ชม. 

มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า

• รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล มอเตอร์ไฟฟ้าจะต้องมีกำลังไม่น้อยกว่า 250 kW และมีความเร็วสูงสุดไม่น้อยกว่า 45 กม./ชม.
• รถจักรยานยนต์สาธารณะ มอเตอร์ไฟฟ้าจะต้องมีกำลังไม่น้อยกว่า 250 kW แต่ไม่เกิน 4 กิโลวัตต์ และมีความเร็วสูงสุดได้ไม่น้อยกว่า 45 กม./ชม.

สติกเกอร์ “s”

รถยนต์ไฟฟ้าที่ไม่มีสัญลักษณ์ระบุว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้าจะต้องติดสติกเกอร์ “s” ประกอบด้วย

• รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน
• รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน
• รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล
• รถยนต์ 4 ล้อเล็กรับจ้าง

รถยนต์ไฟฟ้าประเภทดังกล่าวที่มีกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้าไม่ต่ำกว่า 4 kW และมีความเร็วสูงสุดได้ไม่ต่ำกว่า 45 กม./ชม. จะต้องติดสติกเกอร์ ตัวอักษร “s” เอาไว้บริเวณท้ายรถเพื่อให้มองเห็นประเภทของรถได้ชัดเจน

สติกเกอร์ “e”

รถยนต์ไฟฟ้าที่ไม่ได้มีสัญลักษณ์ระบุว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้าจะต้องติดสติกเกอร์ “e” คือ

• รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน 

รถไฟฟ้าประเภทดังกล่าวจะต้องติดสติกเกอร์ ตัวอักษร “e” ไว้ที่ท้ายรถ ให้สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ส่วนรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า และรถสามล้อไฟฟ้า ไม่จำเป็นต้องติดสติกเกอร์เหล่านี้

กฎหมายมีการกำหนดสติกเกอร์ “e” และ “s” ติดท้ายรถไฟฟ้า เพื่อให้รถยนต์และมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่เป็นไปตามประกาศสามารถนำไปจดทะเบียนได้ และให้ข้อกำหนดเกี่ยวกับรถที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าสอดคล้องกับมาตรฐานสากล

อ่านเพิ่มเติม >>

• เคลมประกันแล้วเบี้ยเพิ่ม เกิดจากอะไร ?
• วิธีเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้า ควรรู้อะไรก่อนซื้อ