7 เรื่องที่จำเป็นต้องรู้ เมื่อคิดจะซื้อรถอีโคคาร์มือสอง

รถ Eco Car มือสอง

ในการจะซื้อรถ Eco Car มือสอง สิ่งที่จำเป็นต้องรู้มี 7 ข้อด้วยกัน ดังนี้

ข้อที่ 1 ทำความรู้จักกับตัวเองก่อนว่ารถ Eco Car มือสอง ตอบโจทย์ความต้องการของตัวเองหรือไม่

รถ Eco Car มือสอง มักจะเป็นรถยนต์ที่มีขนาดเล็กเน้นความคล่องตัว และมักจะได้รับความนิยมขับเป็นจำนวนมากภายในเมือง เราจึงต้องดูรถมือสองที่เราจะซื้อนั้นตรงกับความต้องการของเราในชีวิตประจำวันหรือไม่ เพราะถ้าสมมุติว่า เราเน้นการใช้งานที่สามารถพาผู้โดยสารไปกันได้หลายคน การซื้อรถ Eco Car ก็อาจจะไม่ตอบโจทย์ รวมไปถึงต้องดูสถานที่ที่เราต้องใช้รถยนต์ ระยะทางที่เราต้องขับ และลักษณะการใช้งานที่เหมาะสมกับรถ Eco Car ว่าตรงกับความต้องการของเราหรือไม่ เพื่อความคุ้มค่าในการตัดสินใจซื้อรถมือสองมาขับนั้นเองค่ะ

คำนวนค่าใช้จ่ายรถมือสองให้พร้อม

ข้อที่ 2 คำนวนค่าใช้จ่ายในการออกรถ ระหว่างใช้รถ รวมไปถึงค่างวดรถในแต่ละเดือนให้พร้อม

การซื้อรถ Eco Car มือสองนั้นเพื่อนๆ ต้องดูด้วยว่าความสามารถของเราในการรับมือกับค่าใช้จ่ายที่จะตามมาเราสามารถรับได้หรือไม่ เพราะเมื่อเราได้รถมาแล้วจะมีรายจ่ายตามมาตลอดอายุการใช้งาน ส่วนใหญ่แล้วมักจะมีค่าซ่อมบำรุงรออยู่หลักหมื่น โดยค่าซ่อมสำหรับเกียร์ธรรมดาไม่เกิน 30,000 บาท ส่วนเกียร์ออโต้ ประมาณ 40,000-60,000 บาท สาเหตุที่ให้เตรียมค่าซ่อมบำรุงให้พร้อมนั้นก็เพื่อความสบายใจของเพื่อนๆ นั้นเองค่ะ เพราะรถมือสองจะเป็นรถที่ใช้แล้ว อาจมีปัญหาเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ต้องเตรียมให้พร้อมด้วย เช่น ค่าพรบ. และค่าประกัน นอกจากนี้เพื่อนๆ ต้องอย่าลืมคำนวณค่าใช้จ่ายประจำอย่างการจ่ายงวดรถในแต่ละเดือนด้วยนะคะ ว่าเรามีความพร้อมในการรับมือค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยที่ไม่เดือดร้อนค่าใช้จ่ายอย่างอื่นหรือไม่ค่ะ

ดูเพิ่มเติม

>> ฝุ่นพิษปกคลุม ปอดคนกรุงเทพฯ พังทลาย? ฤาคนร้ายคือ “ดีเซล”

>> รวมโปรโมชั่นดีๆ จากค่ายรถยนต์ในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์นี้

ศึกษารถยนต์แต่ละรุ่น ก่อนตัดสินใจซื้อ

ข้อที่ 3 ศึกษารถยนต์มือสองแต่ละยี่ห้อที่เป็น Eco Car ทั้งหมดทุกรุ่น เป็นสิ่งที่ดี

การที่เราศึกษารถ Eco Car มือสองแต่ละห้อ แต่ละรุ่น จะทำให้เราได้รถตรงกับความต้องการของเรามากที่สุดได้ โดยแต่ละรุ่นจะมีลักษณะทั้งภายในและภายนอกต่างกัน จะทำให้เราเปรียบเทียบได้ชัดเจนว่ารุ่นไหนดีที่สุด และคุ้มค่าที่สุดนั้นเองค่ะ สำหรับรถ Eco Car ที่เป็นรถยอดนิยมในปัจจุบัน เช่น Nissan March, Honda Brio, Mitsubishi Mirage, Suzuki Swift, Toyota Yaris, Suzuki Celero, Mazda2 Skyactiv-G, Nissan Note เป็นต้น

เกียร์ธรรมดาจะมีความทนทานกว่าเกียร์ออโต้

ข้อที่ 4 รถ Eco Car มือสอง ถ้าเป็นเกียร์ธรรมดาจะมีความทนทานกว่าเกียร์ออโต้

เพื่อนๆ รู้ไหมว่ารถ Eco Car มือสองเกียร์ธรรมดาจะมีความทนทานค่อนข้างสูง ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องระบบเกียร์เท่าไหร่นัก ค่าใช้จ่ายในการดูแลต่ำ ใช้งานได้หลายแสนกิโลเมตร โดยรถที่มีเกียร์ธรรมดาจะนิยมนำไปทำเป็นรถซิ่ง หากใครชื่นชอบการขับเร็ว บรรทุกหนัก ผู้โดยสารหลายคน เกียร์ธรรมดาจะเป็นเกียร์ที่แนะนำเลยค่ะ

เลือกรถมือสองในสภาพเดิมให้มากที่สุด

ข้อที่ 5 เวลาเลือกซื้อรถ Eco Car มือสอง แนะนำให้เลือกรถที่อยู่ในสภาพเดิมมากที่สุด

เวลาเราเลือกซื้อรถมือสองสักคัน จะมีคันที่เป็นสภาพเดิม และที่ถูกแต่งมาเรียบร้อย เวลาเราเลือกซื้อจะแนะนำให้ซื้อรถมือสองที่เน้นสภาพเดิมๆ ไม่แต่ง ไม่ทำช่วงล่าง เพราะจะทำให้เราได้รถดีมากกว่ารถแต่งค่ะ

รถมือสองสภาพดีสามารถดูได้จากเจ้าของได้

ข้อที่ 6 การเลือกซื้อรถ Eco Car มือสองคุณภาพดี สามารถดูได้จากลักษณะของเจ้าของรถ

เจ้าของรถมือสองที่ลงขายนั้นสามารถบอกลักษณะของรถยนต์ได้เช่นเดียวกันนะคะ รถสภาพดีบางคันจะดูได้จากเจ้าของ ทั้งฐานะ การงาน บ้าน ที่จอดรถ การดูแลรักษา รวมไปถึงถ้าเป็นรถที่อยู่ต่างจังหวัดมักจะดีกว่ารถที่ขับในเมือง เพราะรถจะไม่ติด มีการใช้งานเครื่องยนต์แบบสบายๆ โอกาสเกียร์มีปัญหาจะน้อยกว่ารถในเมืองค่ะ

หากขับในเมือง เกียร์ออโต้จะประหยัดกว่าเกียร์ธรรมดา

ข้อที่ 7 หากใช้รถ Eco Car มือสองในเมืองแนะนำเป็นเกียร์ออโต้ เพราะจะประหยัดน้ำมันกว่าเกียร์ธรรมดา

ถ้าเพื่อนๆ คนไหน ในชีวิตประจำวันเน้นการขับรถในเมืองมากกว่าออกต่างจังหวัด แนะนำเป็นเกียร์ออโต้จะดีกว่า เพราะจะประหยัดน้ำมันและค่าใช้จ่ายได้มากกว่าค่ะ แต่ถ้าหากเน้นขับที่ต่างจังหวัด แนะนำเป็นเกียร์ธรรมดา จะเหมาะสมที่สุดค่ะ

รวมรถ Eco Car ของแต่ละค่าย

เป็นอย่างไรบ้างค่ะ กับ 7 เรื่องที่จำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับรถ Eco Car มือสอง ในวันนี้ การซื้อรถยนต์มือสองเป็นเรื่องที่ดีนะคะ เพราะจะทำให้เราได้ราคาที่คุ้มค้า และทำให้เราประหยัดไปได้อีกหลายแสนเลยค่ะ แต่ทั้งนี้ ในการใช้รถมือสองย่อมมีทั้งข้อดี และข้อเสีย แต่ในข้อเสียของรถยนต์มือสองทุกคันนั้น  เราก็สามารถป้องกัน และสามารถแก้ไขได้ โดยก่อนที่เราจะตัดสินใจซื้อนั้น เราต้องตรวจสอบสภาพรถยนต์ให้ละเอียดด้วยตนเอง หรือผู้เชี่ยวชาญที่พาดูรถด้วยได้นะคะ ทั้งนี้ เมื่อได้รถมือสองมาใช้งานแล้ว เราก็ต้องเตรียมค่าใช้จ่ายในส่วนซ่อมบำรุงรักษารถ และค่าเปลี่ยนอะไหล่ที่หมดอายุการใช้งานไว้ด้วยนะคะ เพราะรถมือสองนั้น อะไหล่ในบางคันมิอายุการใช้งานมานานมาก อาจต้องเปลี่ยนและมีค่าใช้จ่ายนั่นเองค่ะ

ดูเพิ่มเติม

>> Toyota ตั้งเป้าหมายยอดขาย 330,000 คันในปี 2562 พร้อมทั้งแถลงยอดขายในปี 2561 ที่ผ่านมา

>> สาวกค่ายดาวสามแฉกเตรียมตัวได้เลย Mercedes-AMG E53 4MATIC+ Coupe เปิดตัววันที่ 7 ก.พ.นี้