นวัตกรรมยังคงเดินไปข้างหน้าอยู่ตลอด การออกแบบรถยนต์มันให้คุณค่ามากกว่าเดินทางไปแล้ว เพราะยุคใหม่ต้องตอบโจทย์ทั้งไลฟ์สไตล์ ความปลอดภัย ประสิทธิภาพการใช้งาน ความสะดวกสบาย นอกจากนั้นแล้วยังต้องแข่งกันเองในการหาวิธีประหยัดต้นทุนในกระบวนการผลิตระหว่างค่ายรถยนต์ต่างๆ การซื้อรถยนต์คันหนึ่งจึงไม่ต่างกับการลงทุนดีๆนี่เอง เราลงทุนซื้อรถยนต์เพื่อแลกคุณค่าอะไรหลายๆอย่างที่ได้จากมัน จึงไม่เป็นเรื่องแปลกสักเท่าไหร่ที่รถยนต์จะกลายเป็นสิ่งแสดงฐานะทางสังคมไปด้วย ฉะนั้นการจะครอบครองรถสักคันสิ่งที่เรามองข้ามไม่ได้เลยคือการดูแลรักษารถมันให้มีอายุการใช้งานคุ้มค่ายาวนาน แม้หากขายต่อเพื่อเทิร์นรถคันใหม่ก็ยังได้ราคาที่ดี บทความนี้จะช่วยให้ท่านดูแลรถเบื้องต้นด้วยตัวเองง่ายๆ
วิธีดูแลรถยนต์เบื้องต้นง่ายๆด้วยตัวเองเพื่ออายุการใช้งานยาวนานขึ้น
ภายในตัวรถ
- ระวังสิ่งสกปรก เพราะวัสดุบางอย่างเปื้อนภายในรถแล้วทำความสะอาดยาก ท่านอาจจะต้องน้ำตาตกในตอนขายออกเพื่อเปลี่ยนคันใหม่ ท่านต้องใส่ใจให้ดีโดยเฉพาะบริเวณเบาะกำมะหยี สายคาดเบลท์ คอนโซล
- พารถของท่านไปดูดฝุ่นบ้าง จะบ่อยแค่ไหนอันนี้ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของท่าน จัดระเบียบเบาะหลังให้นั่งได้ บางคนใช้เบาะหลังเป็นที่เก็บของ ขวด กระดาษ อะไรทิ้งได้ก็ควรทิ้ง
- เรื่องของกลิ่นภายในรถก็สำคัญ น้ำยาดับกลิ่นมีให้ท่านเลือกหลายยี่ห้อควรมีติดรถ บางทีกลิ่นมันก็มาจากตัวท่านเองไม่ก็ผู้โดยสาร บางครั้งเราก็หิวรีบด่วนเลยกินอะไรรองท้องภายในรถทำให้ภายในรถท่านมีกลิ่น
ภายนอกตัวรถ
- หมั่นล้างรถทำความสะอาดหน้าปัดกันฝนเป็นประจำ อาจจะถี่น้อยลงเมื่อเข้าช่วงหน้าฝน
- ขับรถอย่างระวังหรือชะลอความเร็วเมื่อเจอทางฝุ่น กิ่งไม้ข้างทาง รถของท่านอาจได้รับรอยขีดข่วนจากเศษหิน กิ่งไม้
- พยายามจอดรถในที่ร่ม เพื่อไม่ให้ภายในรถร้อนมากเกินไปและช่วยรักษาสภาพภายนอกรถได้ด้วย
- มองหาผ้าคลุมรถกรณีจอดรถไว้ในโรงรถนานๆ เพื่อรักษาสภาพภายนอกให้ดูใหม่อยู่เสมอ
- เลี่ยงการเบรกรถกะทันหันเพราะจะทำให้ยางสึกหรอ หมั่นเช็คสภาพยางและเปลี่ยนยางเมื่อหมดอายุการใช้งาน
- สังเกตลมยางรถเสมอ ตอนเติมลมไม่ควรให้มีความชื้นเข้าไปเพราะมันจะทำลายยางได้ ขณะวิ่งไม่ควรให้ยางร้อนเกินไปควรจอดพักเพื่อให้ยางได้ปรับสภาพความดันภายในให้กลับสู่ภาวะปกติ
- หมั่นตรวจเช็คฝาถังน้ำมัน และทำความสะอาด
เครื่องยนต์
- ไม่ควรจอดรถไว้นานเกินโดยเฉพาะช่วงที่อากาศเย็น ควรสตาร์ทรถเพื่อถนอมเครื่องบ้างไม่เช่นนั้นเครื่องยนต์ท่านอาจเสียหาย และยังช่วยให้แบตเตอรี่ดึงไฟมาใช้อยู่เรื่อยๆเพื่อไม่ให้มันเสื่อมสภาพ
- ไม่ควรเร่งเครื่องยนต์ทันทีตอนสตาร์ทรถเมื่อเครื่องยนต์เจอกับสภาพอากาศเย็น ควรค่อยๆเร่งหลังเวลาผ่านไป 10 - 15 นาที เพราะเครื่องยนต์ในไทยไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ใช้งานในเมืองหนาว
- สังเกตอัตราการกินน้ำมันหากรถไม่มีระบบช่วยบันทึกให้ท่านจดไว้ในแต่ละวัน คอยสังเกตสิ่งผิดปกติว่ามีน้ำมันลดลงผิดปกติหรือไม่
- ไม่ควรบรรทุกของหนักเกินกว่าสภาพรถจะรับได้ในแต่ละรุ่น
- สังเกตและเปลี่ยนน้ำมันเครื่องบ่อยๆ เพื่อรักษาสภาพการทำงานให้ไหลลื่นของเครื่องยนต์และป้องกันคราบตกตะกอน
- เปลี่ยนหัวเทียนเมื่อขับมาได้ระยะทาง 45,000 – 64,000 กิโลเมตร ตามแต่คำแนะนำในแต่ละรุ่น
- คอยสังเกตหม้อน้ำรถยนต์อยู่ตลอด และเติมน้ำสะอาดผสมน้ำยาหล่อเย็นในสัดส่วนครึ่งต่อครึ่งหรือตามที่คู่มือแนะนำในแต่ละรุ่น
- คอยเติมน้ำกลั่นแบตเตอรี่ไม่ให้ลดลงต่ำเกินไป
- เปลี่ยนวาล์ว PCV หลังขับไปได้ระยะทาง 48,000 กิโลเมตร ซึ่งย่อมาจาก Positive Crankcase Ventilation เป็นวาล์วที่ติดตั้งเพื่อลดปริมาณก๊าซ hydrocarbon ที่เกิดจากเผาไหม้ในห้องเผาไหม้ กลับเข้าไปในท่อร่วมไอดี (intake manifold) เพื่อไม่ให้ก๊าซมันหลุดออกไปนอกบรรยากาศ
- คอยเช็คกระปุกน้ำมันเบรก สังเกตว่าช่องน้ำมันเบรกจะมีระดับ MAX และ MIN น้ำมันเบรกควรอยู่ในระดับ MAX เสมอ
ยังไงก็แล้วแต่นี่เป็นเพียงคำแนะนำการดูแลรถยนต์เบื้องต้นเท่านั้น ท่านสามารถทำได้ด้วยตัวเองเพื่อรักษาสภาพรถยนต์และเครื่องยนต์ให้มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น หลีกเลี่ยงไม่ให้ท่านไปเจอกับสถานการณ์ไม่พึงประสงค์ นอกจากนี้แล้วท่านจะต้องนำรถยนต์ของท่านเข้าไปตรวจเช็คกับศูนย์รถยนต์ของท่านเป็นประจำ หมั่นดูแลสุขภาพรถของท่านเพื่อความปลอดภัยของท่านเอง
ดูเพิ่มเติม ::
>> 10 เคล็ดลับง่าย ๆ เพื่อรถกระบะคันโปรด ดูเหมือนใหม่อยู่เสมอ
>> วิธีดูแลรถให้แอร์เย็นฉ่ำ
>> วิธีการดูแลและรักษาระบบเบรค