เมื่อซื้อรถยนต์มือสองมาใช้งาน ควรทำประกันรถมือสองหรือไม่ มีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหน และหากจะทำประกัน รถ มือ สอง ควรเลือกอย่างไร จึงจะเหมาะสมกับรถที่ใช้ ?
รถยนต์มือสอง เป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อรถ แต่มีงบประมาณจำกัด เพราะรถยนต์บางรุ่นอาจขายถูกกว่าราคาเดิมถึง 30% - 50% เลยทีเดียว ซึ่งบางครั้ง คุณอาจได้รถมือสองรุ่นท็อปในราคาเทียบเท่ารถเก๋งรุ่น Entry ธรรมดา ยิ่งถ้าเลือกดี ๆ คุณอาจได้รถสภาพดี เลขไมล์น้อยไปใช้งาน นอกจากนี้ ยังอาจได้อุปกรณ์เสริมแถมฟรีมาด้วย
ทว่า คุณอาจจะต้องพบกับหลาย ๆ ปัญหาด้วยเช่นกัน เช่น ได้รถย้อมแมว มีตำหนิ หรือรถที่เคยเกิดอุบัติเหตุหนักมาใช้งาน รถที่ไม่มีการรับประกันอะไหล่ เมื่อชำรุด/เสียหาย ต้องเสียเงินค่าซ่อมเอง รวมถึงดอกเบี้ยไฟแนนซ์แพง จนต้องจ่ายค่างวดเทียบเท่ากับการผ่อนรถมือหนึ่ง ดังนั้น ก่อนจะซื้อรถยนต์มือสอง จึงต้องตรวจสอบ ทั้งประวัติรถยนต์ ประวัติผู้ขาย และเช็กสภาพรถ รวมถึงอ่านรายละเอียดเงื่อนไขในการซื้อ-ขายรถยนต์ให้เรียบร้อย
เมื่อได้รถยนต์มือสองมาใช้งานแล้ว อย่าลืมว่าต้องมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่อาจตามมา นอกจากค่าผ่อนงวดรถด้วย อาทิ ค่าซ่อมบำรุง ค่าเปลี่ยนอะไหล่ ค่าภาษี พ.ร.บ. ค่าน้ำมัน ค่าที่จอดรถ ค่าทางด่วน รวมถึงค่าทำประกัน รถ มือ สอง
แม้จะเป็นรถมือสอง ก็ควรทำประกันภัยรถยนต์เอาไว้ เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าคุณจะขับรถป้ายแดงมือหนึ่ง หรือรถมือสองก็ตาม แต่ในการทำประกันรถมือสอง ก็ต้องใช้หลายปัจจัยมาประกอบการพิจารณา ว่าควรเลือกทำประกันภัยชั้นไหนด้วย ไม่ว่าจะเป็น อายุการใช้งานของรถ และงบประมาณที่จ่ายไหว
ประกันภัยชั้น 1
ประกันภัยชั้น 1 เหมาะกับรถยนต์มือสองที่มีอายุการใช้งานน้อย ประมาณ 1-5 ปี ซึ่งถือว่าเทียบเท่ารถมือหนึ่งได้เลยทีเดียว โดยประกันประเภทนี้จะให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็น การคุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถยนต์ การคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลภายนอก รวมถึงการคุ้มครองรถยนต์ กรณีสูญหาย (ถูกขโมย) ไฟไหม้ หรือแม้กระทั่งประสบภัยธรรมชาติทุกรูปแบบ แต่จะมีค่าเบี้ยประกันแพงที่สุด
ประกันรถยนต์ชั้น 2 หรือ ประกันรถยนต์ 2+
หากคุณซื้อรถมือสองที่มีสภาพไม่เก่ามาก แต่ก็ไม่ได้ใหม่เอี่ยม อายุราว ๆ 5-7 ปีมาใช้งาน คุณอาจจะเลือกการทำประกัน รถ มือ สองชั้น 2 หรือ 2+ ที่มีการคุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถยนต์ การคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลภายนอก และการคุ้มครองเมื่อรถหาย ไฟไหม้ รวมถึงความเสียหายจากภัยน้ำท่วม (เฉพาะ 2+)
ประกันรถยนต์ชั้น 3 หรือ ประกันรถยนต์ 3+
กรณีที่รถมือสองของคุณมีอายุการใช้งาน 7 ปีขึ้นไป การเลือกทำประกันชั้น 3 และ 3+ อาจจะเหมาะมากกว่า ซึ่งจะมีการคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินบุคคลภายนอก และคุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถยนต์ (เฉพาะ 3+) โดยมีค่าเบี้ยประกันถูกที่สุดในบรรดาทุกประเภท
การทำประกันรถมือสอง ถือเป็นการซื้อความสบายใจ และความปลอดภัยทางการเงินให้เจ้าของรถ เพราะอุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา แม้คุณจะขับรถด้วยความระมัดระวังแล้วก็ตาม แต่ใช่ว่าผู้ร่วมทางจะไม่ประมาทเสียเมื่อไหร่
อ่านเพิ่มเติม >>