หลาย ๆ คนอาจจะสงสัยว่า เมื่อเปลี่ยนยางรถ ควรเปลี่ยนยางรถยนต์พร้อมกันทั้ง 4 เส้น หรือไม่ ถ้าเปลี่ยนทีละเส้น จะส่งผลอะไรหรือเปล่า ที่นี่รวบรวมคำตอบมาฝากกัน
การดูแลรักษายางรถยนต์เป็นเรื่องสำคัญ ตั้งแต่การเติมลมยางอย่างสม่ำเสมอ การสลับยาง การตั้งศูนย์ถ่วงล้อ รวมไปถึงการเปลี่ยนยางรถที่ควรจะเปลี่ยนยางรถยนต์พร้อมกันทั้ง 4 เส้น โดยจะใช้ยางยี่ห้อ รุ่น และขนาดเดียวกัน แต่ถ้ามีงบประมาณไม่พอ สามารถเปลี่ยนยาง 2 เส้น แบบคู่หน้าหรือคู่หลังก่อนได้
หากกำลังสงสัยว่า ทำไมต้องเปลี่ยนยางรถพร้อมกันทั้ง 4 เส้น ? คำตอบคือ เพื่อให้ยางรถยนต์ทั้ง 4 เส้นมีสภาพเหมือนกันมากที่สุด หากยางแต่ละเส้นมีคุณภาพแตกต่างกัน จะส่งผลต่อการตอบสนอง ทำให้ควบคุมได้ยาก ไม่ราบรื่น จนอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนอันส่งผลต่อชีวิตและทรัพย์สินได้
แต่หากงบประมาณไม่พอ จะเปลี่ยนแค่ 2 เส้นก่อนก็ได้เช่นกัน โดยอาจจะเปลี่ยนเฉพาะคู่หน้าหรือคู่หลัง บางคนมักจะเปลี่ยนยางคู่หน้าก่อน เพราะมีโอกาสเสื่อมสภาพเร็วมากกว่า เนื่องจากต้องรับน้ำหนักเครื่องยนต์ และเผชิญกับสภาพถนนก่อนยางคู่หลัง แต่บางคนก็มักจะเปลี่ยนยางคู่หลังก่อน เพื่อการยึดเกาะถนนและเสถียรภาพในการขับขี่ที่ดีขึ้น
โดยปกติแล้วยางรถยนต์จะมีอายุการใช้งาน ประมาณ 2-5 ปี หรือราว ๆ 30,000 – 50,000 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับสภาพถนน สภาพอากาศ และลักษณะการใช้งาน หากมีการใช้งานหนัก ขับระยะไกลบ่อย ๆ บรรทุกหนัก ไม่ค่อยดูแลรักษา ลืมสลับยาง ก็อาจจะต้องเปลี่ยนยางรถไวก่อนกำหนด
แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าควรเปลี่ยนอย่างตอนไหน ? สามารถเช็กได้จากความลึกในร่องดอกยาง (หรือที่เรียกว่าสะพานยาง) ควรจะมีความลึกขึ้นต่ำ 1.6 มิลลิเมตร หากดอกยางสึกหรอเท่ากับสะพานยาง หน้ายางสึกหรอไม่เท่ากัน ผิวยางมีร่องรอยความผิดปกติ ยางบวม แก้มยางปูด แสดงว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนใหม่แล้ว
หากยางรั่ว จากสภาพถนนที่ย่ำแย่ หรือโดนวัตถุมีคม หรือเศษหินเจาะ สามารถซ่อมได้ด้วยการปะยางรถ ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนใหม่ แต่ถ้ายางมีรอยฉีกขนาดใหญ่ แก้มยางเกิดความเสียหายรุนแรง ผู้เชี่ยวชาญอาจจะพิจารณาเปลี่ยนยางให้แค่เส้นเดียว (กรณีที่ยางนั้นเพิ่งผ่านการใช้งานมาได้ไม่นาน) แต่ถ้าเป็นยางที่มีอายุการใช้งานยาวนาน ก็อาจจะได้เปลี่ยนใหม่ทั้ง 4 เส้น เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน
อ่านเพิ่มเติม >>