แนะนำฮอนด้ามือสอง ซีดาน รุ่นใดน่าสนใจมากที่สุด

ประสบการณ์ซื้อขายรถยนต์ | 1 ต.ค 2567
แชร์ 9

Honda แบรนด์รถยนต์ชั้นนำจากแดนปลาดิบที่ขึ้นชื่อในการผลิตรถยนต์ส่วนตัวประเภทซีดาน 4 ประตู จนได้รับความนิยมในตลาดรถเมืองไทยเป็นอย่างมาก ในราคาเริ่มต้นเพียง 500,000 บาท เท่านั้น

Honda ค่ายรถยนต์ชั้นนำการันตีฝีมือระดับโลกที่มีชื่อเสียงในการผลิตรถยนต์นั่งส่วนบุคคลโดยเฉพาะในรุ่นซีดาน 4 ประตู ที่มีสมรรถนะดีเยี่ยมผ่านเครื่องยนต์ที่มีความแข็งแกร่ง ผสานกับการดีไซน์โครงสร้างตัวถังที่ให้ความสปอร์ตโดนใจผู้ใช้งาน ทั้งนี้ Honda เริ่มก่อตั้งบริษัทเป็นครั้งแรกในปี 1949 ในประเทศญี่ปุ่น ก่อนที่ต่อมาจะเริ่มมีการทำตลาดรถยนต์ในต่างประเทศในหลากหลายเซกเมนท์โดยเฉพาะในประเทศไทยที่ฮอนด้ามีการทำตลาดรถยนต์ทั้งในรูปแบบรถแฮทช์แบ็ค 5 ประตู , รถอีโคคาร์ , รถ SUV ครอสโอเวอร์ , และรถยนต์นั่งส่วนบุคคลประเภทซีดาน 4 ประตู ที่ได้รับความสนใจจากนักขับในเมืองไทยเป็นอย่างมากทั้งจาก Honda Accord , Honda Civic และ Honda City สำหรับตลาดรถเมืองไทย Honda มือสองเป็นที่ยอมรับจากนักขับชาวไทยถึงฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกที่ครอบครัน พร้อมทั้งทางเลือกรุ่นย่อยที่มีให้เลือกใช้งานในหลากหลายเซกเมนท์ อีกทั้งยังมีราคาจำหน่ายที่ไม่สูงมากนักเมื่อเปรียบเทียบกับรถจากค่ายอื่นในเซกเมนท์เดียวกัน

1.Honda Civic รุ่น 1.8 EL 2020

  • ราคารถใหม่ Honda Civic รุ่น 1.8 EL ราคา 964,000 บาท
  • ราคารถฮอนด้ามือสอง รุ่น Civic 1.5 EL เริ่มต้นที่ประมาณ 500,000 บาท ถึง 600,000 บาท

Honda Civic รุ่น 1.8 EL 2020
Honda Civic รุ่น 1.8 EL 2020

Honda Civic รุ่น 1.5 EL รถยนต์นั่งส่วนบุคคลรุ่นที่ได้รับความนิยมจากนักขับในประเทศไทยเป็นอย่างมาก ด้วยเป็นรถรุ่นที่เริ่มทำการเปิดตัวในปี 2021-ปัจจุบัน หรือ เจนเนอเรชั่นที่ 11 นั่นเองสภาพรถจึงไม่เก่ามากนักและยังคงถือเป็นรถซีวิครุ่นใหม่ที่มีการทำตลาดอยู่ อีกทั้งยังได้รับการออกแบบภายนอกให้โดดเด่นสะดุดตาโดนใจผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้นทั้งจากกระจังหน้าแบบโครเมียมขนาดใหญ่รับกับไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ LED พร้อมระบบปิดไฟอัตโนมัติหลังดับเครื่องยนต์ ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวในตัวปรับพับได้ด้วยไฟฟ้า ไฟท้ายแบบ C Line ส่วนภายในได้รับการดีไซน์สุดพรีเมียมในโทนสีดำ ติดตั้งพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นพร้อมปุ่มรับ-วาสายโทรศัพท์ และปุ่มควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัย หน้าจอแดชบอร์ด MID แบบ TFT ติดตั้งปุ่ม Push Start ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ มอบความบันเทิงผ่านหน้าจอระบบสัมผัส ขนาด 7 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay วิทยุ FM/AM พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB/AUX และMP3 ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน VTEC Turbo Charger ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 178 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 240 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมโหมดการขับขี่ให้เลือก 3 โหมด

2.Honda Civic รุ่น 1.5 EL+ 2021

  • ราคารถใหม่ Honda Civic รุ่น 1.5 EL ราคา 1,009,900
  • ราคารถฮอนด้ามือสอง รุ่น 1.5 EL+ เริ่มต้นที่ประมาณ 700,000 ถึง 800,000 บาท

Honda Civic รุ่น 1.5 EL+ 2021
Honda Civic รุ่น 1.5 EL+ 2021

Honda Civic รุ่น 1.5 EL+ รถยนต์นั่งส่วนบุคคลในประเภทซีดาน 4 ประตู อีกรุ่นหนึ่งที่ได้รับความนิยมจากนักขับชาวไทบเป็นอย่างมาก เริ่มวางตลาดจำหน่ายในปี 2021 ที่ผ่านมา ถือเป็นรถซีวิคอีกรุ่นหนึ่งที่ยังคงทำตลาดอยู่ ชูจุดเด่นด้วยการติดตั้งไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ LED พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่กลางวันแบบ DRL และไฟตัดหมอกด้านหน้าแบบ LED และไฟท้ายแบบ C Line อันเป็นเอกลักษณ์ของรถรุ่นนี้ กระจกมองข้างปรับพับได้ด้วยไฟฟ้า ภายในได้รับการดีไซน์ในโทนสีดำพร้อมห้องโดยสารที่มีขนาดใหญ่มากยิ่งขึ้น ติดตั้งฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกครบครันทั้งจากหน้าจอแสดงผลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ ระบบควบคุมประตูอัจฉริยะ หน้าจอระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว พร้อมระบบ Advance Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay ระบบสั่งการด้วยเสียง Siri ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน รหัส L15BG VTEC Turbo Charger ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 178 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 240 นิวตัน-เมตร ที่ 1,700-4,500 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมโหมดการขับขี่ให้เลือกได้ 3 โหมด

3. รถ Honda รุ่น City 1.0 RS 2019

  • ราคารถใหม่ honda city รุ่น 1.0 RS ราคา 739,500 บาท
  • ราคารถฮอนด้ามือสอง รุ่น City 1.0 RS โฉม 2019 เริ่มต้นที่ประมาณ 400,000 บาท ถึง 600,000 บาท

Honda รุ่น City 1.0 RS 2019
Honda รุ่น City 1.0 RS 2019

Honda City รุ่น 1.0 RS ซิตี้คาร์รุ่นท็อปสุดในไลน์การผลิตฮอนด้าซิตี้ที่ได้เริ่มวางตลาดจำหน่ายในปี 2019 นับเป็นรถซีดาน 4 ประตู ขนาดเล็กที่ถูกดีไซน์ให้มีความคล่องตัวสูง ตอบโจทย์การใช้งานภายในเมือง อีกทั้งยังมีอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ต่ำอีกด้วย Honda City รุ่น 1.0 RS ติดตั้งฟีเจอร์เสริมมากมาย อาทิ กระจังหน้าแบบ Gloss Black ไฟหน้าแบบมัลติรีเฟล็กเตอร์ LED ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่กลางวัน DRL แบบ LED และไฟตัดหมอกคู่หน้า กันชนหน้าติดตั้งชุดแต่งแบบ RS สปอยเลอร์หลังแบบ Gloss Black ภายในห้องโดยสารเรียบหรูตกแต่งด้วยสีดำ Piano Black ติดตั้งพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและแป้นเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ Paddle Shift หน้าจอแสดงผลการขับขี่แบบ MID พร้อมมาตรวัดเรืองแสงสีแดง ติดตั้งระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ ระบบอินโฟเทนเมนท์หน้าจอระบบสัมผัส ขนาด 8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมฟีเจอร์สั่งการด้วยเสียงเป็นภาษาไทย Siri ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.0 ลิตร ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT 7 สปีด

4. Honda city รุ่น SV 2019

  • ราคารถใหม่ honda city รุ่น SV ราคา 665,000 บาท
  • ราคารถมือสอง honda รุ่น city SV โฉม 2019 เริ่มต้นที่ประมาณ 500,000 บาท ถึง 600,000 บาท

Honda city รุ่น SV 2019
Honda city รุ่น SV 2019

honda city รุ่น SV ซิตี้คาร์จากฮอนด้าที่ได้รับการปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ให้โดดเด่นสะดุดตาโดนใจผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น เริ่มวางตลาดจำหน่ายในปี 2019 จึงมีสภาพที่ไม่เก่ามากนักเพราะเป็นรถซิตี้รุ่นที่ยังคงทำตลาดอยู่ เสริมด้วยการติดตั้งฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกครบครันทั้งจากไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ LED พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่กลางวัน DRL แบบ LED และไฟตัดหมอกคู่หน้า ส่วนด้านหลังติดตั้งไฟท้ายแบบ LED กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวในตัวปรับพับได้ด้วยไฟฟ้า ส่วนห้องโดยสารก็ได้รับการปรับให้มีขนาดที่กว้างขวางมากยิ่งขึ้นพร้อมเฉดสีตกแต่งภายในแบบทูโทนสีโอเวอรี่และสีดำ เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังและหนังสังเคราะห์ เบาะนั่งฝั่งคนขับปรับระดับได้ด้วยไฟฟ้า เสริมด้วยการดีไซน์วัสดุตกแต่งคอนโซลหน้าแบบเปียโนแบล็ค ติดตั้งระบบอินโฟเทนเมนท์บนหน้าจอระบบสัมผัส ขนาด 8 นิ้ว แบบ Advance Touch รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน Apple CarPlay และ Android Auto ฟังก์ชั่นสั่งการด้วยเสียงในภาษาไทย Siri โดยได้รับการติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.0 ลิตร ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT 7 สปีด

5. Honda Accord รุ่น 1.5 Turbo EL 2019

  • ราคารถใหม่ honda accord รุ่น 1.5 Turbo EL ราคา 1,475,000 บาท
  • ฮอนด้ามือสอง รุ่น accord 1.5 Turbo EL ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 700,000 บาท ถึง 900,000 บาท

Honda Accord รุ่น 1.5 Turbo EL 2019
Honda Accord รุ่น 1.5 Turbo EL 2019

Honda Accord รุ่น 1.5 Turbo EL ซีดาน 4 ประตูที่ได้รับความนิยมจากผู้ขับขี่ชาวไทยเป็นอย่างมากด้วยมีโครงสร้างตัวถังที่มีความแข็งแกร่ง เปิดตัวทำตลาดในประเทศไทยเมื่อปี 2019 จึงเป็นรถที่มีสภาพดีและยังคงได้รับการทำตลาดอยู่ อีกทั้งยังได้รับการติดตั้งฟีเจอร์อำนวยความสะดวกจำนวนมากทั้งจากไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่กลางวันแบบ DRL ที่ติดตั้งเอาไว้รับกับกระจังหน้าแบบโครเมี่ยมรมดำดีไซน์สุดแปลกคล้ายคลึงกับรูปตัว V ในแนวยาวตั้งแต่ฝากระโปรงมาจรดกับแนวกันชนด้านล่างสุดช่วยเพิ่มความมีเอกลักษณ์ให้กับรถรุ่นนี้ได้เป็นอย่างดี ภายในตกแต่งอย่างประณีตด้วยเฉดสีทูโทนดำ-ครีม เบาะนั่งปรับได้ด้วยไฟฟ้า ติดตั้งระบบปรับอากาศแบบอัตมัติ พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบ 3 ก้าน พร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่พร้อมมาตรวัดเรืองแสงแบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว หน้าจอทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว รองรับ Apple Carplay , Android Auto และ เชื่อมต่อข้อมูลไร้สายผ่านสัญญาณบลูทูธ พร้อมหน้าจอแสดงผลเหนือคอนโซลหน้าแบบ Head-Up-Display ขนาด 6 นิ้ว ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบชาร์จ ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 192 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 260 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-5,000 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT

6. Honda Accord รุ่น 2.0 Hybrid Tech 2019

  • ราคารถใหม่ Honda Accord รุ่น 2.0 Hybrid Tech ราคา 1,799,000 บาท
  • รถฮอนด้ามือสอง รุ่น Accord 2.0 Hybrid ราคาเริ่มต้นประมาณ 700,000 บาท ถึง 900,000 บาท

Honda Accord รุ่น 2.0 Hybrid Tech 2019
Honda Accord รุ่น 2.0 Hybrid Tech 2019

Honda Accord รุ่น 2.0 Hybrid Tech ถือเป็นรถรุ่นท็อปสุดในไลน์การผลิตรถแอคคอร์ดเริ่มวางตลาดจำหน่ายในประเทศไทยราวปี 2019 ชูจุดเด่นด้วยการเป็นรถซาลูนที่ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ไฮบริด Atkinson-Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ขนาด 2.0 ลิตร ประสานการทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าจำนวน 2 ตัว และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน เมื่อทำงานร่วมกันแล้วให้กำลังสูงสุดถึง 215 แรงม้า ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ E-CVT เสริมด้วยการดีไซน์ภายนอกที่ให้ความรู้สึกสปอร์ตได้เป็นอย่างดีผสานกับการติดตั้งไฟหน้าแบบ LED ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่กลางวัน DRL แบบ LED และไฟตัดหมอกคู่หน้า ภายในได้รับการตกแต่งด้วยสีดำ เบาะนั่งคนขับและผู้โดยสารปรับระดับได้ด้วยไฟฟ้า ติดตั้งพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง ระบบอินโฟเทนเมนท์หน้าจอระบบสัมผัสแบบ Advanced Touch ขนาด 8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน และหน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ MID แบบ TFT

ดูเพิ่มเติม