เคล็ดไม่ลับ อัพราคาให้รถมือสองขายได้กำไรงาม

5 เทคนิคที่จะทำให้เพื่อนๆ ขายรถบ้านมือสองได้กำไรงาม

หากจะขายรถยนต์มือสอง หลายครั้งเราก็คงจะคิดถึงการฝากขายกับเต็นท์รถ หรือประกาศขายตามเว็บไซต์ฝากขายรถบ้านมือสอง ซึ่งหลายครั้งรถก็ถูกกดราคาให้เราขายได้ถูกลง วันนี้ Chobrod เลยจะมาแนะนำเคล็ดไม่ลับให้กับเจ้าของรถที่กำลังจะขายรถบ้านมือสองให้มีกำไรงามๆ กันค่ะ เพราะนอกเหนือจากความนิยมของรุ่นรถยนต์ที่จะขายแล้ว ยังมีองค์ประกอบอื่นๆ ที่เป็นส่วนประกอบทำให้สามารถขายรถบ้านมือสองได้ราคาดี จะมีองค์ประกอบอะไรบ้างมาดูกันเลยค่ะ

1. ภายนอก-ภายในต้องดูดี ไม่เก่า หรือสกปรก

สภาพรถภายนอกยังต้องดูดี สวยเนี้ยบ สวยกริ๊บทุกตารางนิ้ว

ภายในก็ต้องสวยกริ๊บเช่นเดียวกับภายนอก เบาะนั่ง และหนังหุ้มพวงมาลัยต้องไม่สึก หรือขาด

ภาพลักษณ์ของรถยนต์ที่จะขาย คือ First Impression ที่จะทำให้คนอยากซื้อ หรือไม่อยากซื้อรถมือสองของเรา โดยภาพลักษณ์ภายนอกของรถยนต์ที่ดูดีจะช่วยดึงดูความสนใจจากคนที่กำลังมองหารถบ้านสวยๆ ราคาดีได้ รวมถึงควรเก็บตำหนิให้เรียบร้อยเสียก่อน เพราะหากมีรอยขีดข่วนหรือตำหนิมาก ราคาก็ยิ่งตกลงมาก นอกจากนี้ไม่เพียงแค่ภาพลักษณ์ภายนอกที่เนี้ยบ และสวยงามเท่านั้น แต่ภายในก็ต้องดูดีด้วยทั้งในส่วนของเบาะนั่ง คอนโซล พวงมาลัย วัสดุภายในที่ยังอยู่ในสภาพที่ดี และสะอาดจะช่วยให้ราคาของรถยนต์ขายได้มากขึ้น เพราะสะท้อนถึงความใส่ใจในการดูแลรักษารถยนต์ของเจ้าของรถ

ดูเพิ่มเติม
>> การตั้งราคาขายรถยนต์มือสองมีเกณฑ์อะไรบ้าง
>> ภาพรวมของตลาดรถยนต์มือสองในไทย พร้อมแนวทางก็ซื้อรถยนต์มือสอง

2. สีรถยอดนิยมช่วยเพิ่มราคาขึ้นได้อีก

หากเป็นสียอดนิยม หรือเป็นสีพิเศษเฉพาะรุ่นก็จะสามารถเพิ่มราคาได้อีก

บางคนอาจไม่รู้ว่าสีรถมีความสำคัญในการขายต่อด้วยเช่นกัน เพราะในการซื้อขายส่วนใหญ่คนมักจะเลือกซื้อสีที่เป็นสียอดนิยมของรุ่น ทำให้เป็นสีที่ขายได้ง่าย และขายดีที่สุด ซึ่งไม่เพียงแต่จะดึงดูดคนที่สนใจให้เข้ามาซื้อรถยนต์สียอดนิยมได้เท่านั้น แต่หากไปขายเต็นท์รถก็ไม่ถูกกดราคาลงอีกด้วย ฉะนั้นหากซื้อรถใหม่ควรเลือกรถที่เป็นสียอดนิยม หรือสี Signature ของรุ่นจะดีต่อการขายต่อมากที่สุด

3. รถอยู่ในระยะประกันสร้างความมั่นใจเพิ่มขึ้นได้อีก

รถยังอยู่ในระยะประกันช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อขึ้นอีกระดับ

การที่รถยนต์อยู่ในระยะประกัน หรือต่อประกันไว้เมื่อประกันใกล้หมด เป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อได้ เพราะแม้ว่าจะมีบางจุดของรถที่เป็นตำหนิก็สามารถเคลมกับศูนย์บริการได้ แต่เรื่องที่ต้องระวังก็คือต้องจ่ายเบี้ยประกันตรงตามเวลา ไม่มีการค้างค่าประกันเพราะหากมีการค้างค่าประกัน หรือจ่ายเบี้ยประกันไม่ตรงอาจจะทำให้เกิดปัญหาตามมาได้

4. เตรียมเอกสารการซื้อขายให้เรียบร้อย และครบถ้วน

เอกสารการซื้อขาย และเอกสารที่เกี่ยวกับรถต้องครบถ้วน

การเตรียมเอกสารการซื้อขาย อย่างเช่น หนังสือสัญญาการซื้อขาย เล่มทะเบียน และ Service Book ให้เรียบร้อยเป็นทำให้ผู้ซื้อมั่นใจในการซื้อขายกับเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีเล่ม Service Book ซึ่งจะแสดงให้เห็นความใส่ใจดูแลรถของเราได้เป็นอย่างดี ซึ่งตัวเล่ม Service Book นี้จะเป็นยืนยันถึงความสมบูรณ์ของเครื่องยนต์ และกลไกต่างๆ ให้กับลูกค้าได้ หรือหากไม่มี Service Book ควรเก็บใบเสร็จการเข้าเช็คระยะจากศูนย์บริการ หรืออู่ที่น่าเชื่อถือในช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งสำคัญต่อการรับประกันว่าเจ้าของรถดูแลรถได้เป็นอย่างดี มีการเช็คระยะตามกำหนด ซึ่งนี่คือตัวบ่งบอกถึงการเป็นรถที่มีคุณภาพดี

5. ตั้งราคาให้น่าสนใจ

ตั้งราคาน่าสนใจ มาพร้อมกับรายละเอียดของสภาพรถยนต์ที่ชัดเจน ช่วยให้ผู้ซื้ออยากทักมาสอบถามเพิ่มขึ้น

ในการขายรถยนต์การตั้งราคาที่ดี คือ ต้องตั้งราคาตามราคาตลาดกลาง ซึ่งสามารถเข้าไปดูราคากลางของตลาดได้ที่เว็บไซต์กรมการขนส่งทางบก นอกจากนี้ยังสามารถนำรถยนต์ไปประเมินราคาที่เต็นท์รถ รวมถึงเช็คราคาตลาดจากเว็บไซต์ประกาศขายรถยนต์ออนไลน์ ด้วยการกรอกข้อมูลปีที่ซื้อรถ ยี่ห้อ และรุ่น เพื่อหาข้อมูลราคาซื้อขายขั้นต้น จากนั้นลองตั้งราคาระหว่างราคาประเมิน กับราคาจากเว็บไซต์ ซึ่งราคาที่เราตั้งจะเป็นราคาที่เชิญชวนให้ผู้สนใจติดต่อเข้ามาสอบถาม หรือเจรจาต่อรองได้มากยิ่งขึ้น

สามารถประกาศขายรถบ้านมือสองได้ที่ตลาดรถChobrod.com นะคะ

สรุปแล้วก็คือเพียงแค่ดูแลรถให้ดี เก็บเอกสารเกี่ยวกับตัวรถให้ครบถ้วน ตั้งราคาดี และมีภาพดีดึงดูดให้คนสนใจเพียงเท่านี้ก็จะสามารถขายรถยนต์มือสองของเพื่อนๆ ให้ได้ราคาดี มีกำไรงามแล้วนะคะ หากสนใจฝากขายรถยนต์มือสอง สามารถเข้ามาดูรายละเอียดกันได้ที่ Chobrod.com นะคะ

ดูเพิ่มเติม
>> เทคนิคขายรถมือสอง ที่คุณอาจไม่เคยรู้
>> 7 คำถามยอดฮิตกับ "รถบ้านเจ้าของขายเอง" ที่ก่อนซื้อก่อนขายก็ต้องรู้