การตั้งราคาขายรถยนต์มือสองมีเกณฑ์อะไรบ้าง

ประสบการณ์ซื้อขายรถยนต์ | 9 ส.ค 2565
แชร์ 9

การขายรถมือสองใช่ว่าอยากจะขายราคาเท่าไหร่ก็สามารถตั้งได้ เพราะรถยนต์แต่ละรุ่นก็มีราคากลางในการจำหน่ายเช่นเดียวกัน แล้วเกณฑ์ในการกำหนดราคารถมือสองมีอะไรบ้าง

วิธีประเมินราคารถมือสอง

สำหรับคนที่จะประกาศขายรถยนต์มือสองโดยไม่ผ่านเต็นท์รถ แต่ไม่รู้ว่าจะตั้งราคาอย่างไรวันนี้ Chobrod มีคำตอบมาให้ค่ะ

สำหรับคนที่จะลงประกาศขายรถด้วยตนเองโดยไม่ผ่านเต็นท์รถ สามารถตั้งราคาได้อย่างหลากหลาย โดยการตั้งราคาของรถยนต์มือสองนั้นขึ้นอยู่กันสภาพของรถที่เพื่อนๆ นำไปลงประกาศ สำหรับการฝากขายในเต็นท์รถนั้นจะมีการหักค่าวางขายที่ 10% แต่สำหรับการประกาศขายรถยนต์บนอินเทอร์เน็ตนั้นสามารถกำหนดราคาได้ง่ายกว่า แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าราคาเท่าไหร่จึงจะเหมาะสม

เกณฑ์การตั้งราคาขายรถมือสอง

1. ราคากลางของตลาด

ยึดประกาศราคากลางของการขายรถยนต์ และรถจักรยานยนต์มือสองจากกรมการขนส่งทางบกเป็นแนวทางในการตั้งราคา

ยึดประกาศราคากลางของการขายรถยนต์ และรถจักรยานยนต์มือสองจากกรมการขนส่งทางบกเป็นแนวทางในการตั้งราคา

 ตัวอย่างราคากลางของรถยนต์มือสอง Range Rover ในแต่ละรุ่นปี

ตัวอย่างการตีราคารถมือสองราคากลางของรถยนต์มือสอง Range Rover ในแต่ละรุ่นปี

ทางกรมการขนส่งทางบกจะออกเกณฑ์ราคาของรถทุกรุ่น นอกจากนี้ยังสามารถสำรวจเพิ่มเติมสำหรับราคากลางของรถรุ่น และปี ที่จะวางขาย จากแหล่งซื้อ-ขายรถมือสองที่น่าเชื่อถือ เช็คอีกครั้งด้วยเครื่องมือช่วยประเมินราคารถ เพื่อให้ได้ราคาที่เป็นกลางที่สุด โดยราคากลางของรถยนต์ทุกรุ่นในปี 2561 ที่ทางกรมการขนส่งทางบกได้รวบรวมไว้ให้สามารถเข้าดูได้ที่ https://www.dlt-inspection.info

ดูเพิ่มเติม
>> ภาพรวมของตลาดรถยนต์มือสองในไทย พร้อมแนวทางก็ซื้อรถยนต์มือสอง
>> เทคนิคขายรถมือสอง ที่คุณอาจไม่เคยรู้

2. ประวัติรถ

ติดต่อประกันรถยนต์เพื่อเช็คประวัติการซ่อม และการจ่ายเบี้ยประกันในแต่ละเดือน

ติดต่อประกันรถยนต์เพื่อเช็คประวัติการซ่อม และการจ่ายเบี้ยประกันในแต่ละเดือน

ติดต่อตัวแทนประกันรถยนต์ เพื่อเช็คประวัติการซ่อม และการจ่ายเบี้ยประกันในแต่ละเดือน โดยประกันรถยนต์จะตรวจสอบ และมอบรายละเอียดเกี่ยวกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น รวมไปถึงประวัติการซ่อมแซมที่อาจหลงลืมให้ นอกจากนี้ประกันยังช่วยเช็คตัวเลขไมล์บนหน้าปัด ซึ่งสิ่งนี้เป็นตัวช่วยให้สามารถตั้งค่าเสื่อมสภาพของรถที่เหมาะสมได้

3. การปรับแต่งตัวรถ

การปรับแต่งตัวรถก็ส่งผลต่อการตั้งราคาขายเช่นเดียวกัน

การปรับแต่งตัวรถก็ส่งผลต่อการประเมินราคารถมือสอง

การแต่งรถที่นอกจากเรื่องของความสวยงาม หรือแต่งเพื่อโชว์อัตลักษณ์เฉพาะบุคคลแล้ว การแต่งรถให้มีน้ำหนักเบา ช่วยลดอัตราการเผาผลาญเชื้อเพลิง และช่วยให้ประหยัดน้ำมัน เป็นข้อดีเล็กๆ ที่ทำให้เพิ่มมูลค่าให้กับรถของเพื่อนๆ ได้ เพราะในยุคนี้ใครๆ ก็อยากได้รถที่ประหยัดน้ำมัน แต่ว่าถ้าติดถังแก๊ส LPG หรือ NGV กลับกลายจะเป็นการลดมูลค่าให้รถยนต์ลงนะคะ ฉะนั้นควรเช็คตัวเองดีๆ ว่าซื้อมาเพื่อใช้ หรือมีแพลนจะขายรถต่อในเวลาอันใกล้ไหม ไม่เช่นนั้นอาจขายได้ในราคาที่ต้องการไม่ได้

4. ติดแก๊ส

รถมือสองที่ติดแก๊ส ราคาขายต่อจะต่ำกว่ารถที่ไม่ติดแก๊ส เนื่องจากคนรับซื้อรถมือสอง ส่วนใหญ่ไม่ชอบรถติดแก๊ส เพราะเครื่องยนต์มีโอกาสสูงที่จะเสื่อมสภาพจากการใช้แก๊ส แม้ว่าจะไม่ใช่ในวันที่คุณนำรถไปขาย แต่ในวันข้างหน้าที่ลูกค้าซื้อไปแล้ว อาจจะเสื่อมสภาพ ยิ่งประเภท แก๊สแจ้งลงเล่มแล้ว ยิ่งราคาตกหนัก เลยครับ

รถมือสองที่ติดแก๊ส

รถมือสองที่ติดแก๊ส

5. เลขไมล์

เลขไมล์ คือปัจจัยที่สำคัญของการรับซื้อรถมือสอง เนื่องจากเลขไมล์บอกถึงการผ่านกรำศึกจากเจ้าของเก่า โอกาสเสื่อมสภาพจากการใช้งาน โดยเฉพาะ พวก เครื่องยนต์กลไก ต่างๆ  รถเลขไมล์เยอะ จึงมักจะถูกประเมิน ราคาลดลง  นั้นก็มาจาก เวลาคนซื้อรถมือสอง ก็จะมองว่า  รถเลขไมล์น้อย ย่อมน่าจะมีสภาพดีกว่า รถเลขไมล์เยอะ

6. สถานะการเงินของรถ

ตรวจสอบสถานะทางการเงินของรถว่าผ่อนหมดหรือยัง ซึ่งจะช่วยให้การเจรจาซื้อขายทำได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

ตรวจสอบสถานะทางการเงินของรถว่าผ่อนหมดหรือยัง ซึ่งจะช่วยให้การเจรจาซื้อขายทำได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

การขายรถให้ได้ราคาดีควรเป็นรถยนต์ที่ผ่อนหมดแล้ว และเป็นชื่อของเราจริงๆ เพราะการซื้อรถที่ยังผ่อนไม่หมดนั้นค่อนข้างเป็นเรื่องยากพอสมควร หากต้องมีการเจรจากับไฟแนนซ์ แล้วอีกอย่างเงินที่เราได้จากการขายรถก็อาจไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย เนื่องจากต้องนำไปโป๊ะไฟแนนซ์อีก ทางที่ดีควรใช้วิธีขายราคาดาวน์ และนำสัญญาผ่อนไปรีไฟแนนซ์ เพื่อให้ผู้ซื้อทำการผ่อนต่อจะดีที่สุด

7. ตั้งเป้าหมายราคาขาย

ตั้งราคาขายรถว่าต้องการเท่าไหร่ โดยคำนวนจาการหักค่าเสื่อมสภาพ 25% และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%

ตั้งราคาขายรถว่าต้องการเท่าไหร่ โดยคำนวนจาการหักค่าเสื่อมสภาพ 25% และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%

 

ดูว่าเราต้องการขายรถในราคาเท่าไหร่ แล้วตั้งเป้าหมายไปเลย หากต้องการขายให้ได้เงินเพิ่ม 10% สามารถคำนวณง่ายๆ ได้ดังนี้

หักค่าเสื่อม 25% จากราคาเดิม (รถขับหนึ่งปี) บวกภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ตัวอย่างเช่น

ราคาเดิม (รถอายุหนึ่งปี) 7 แสนบาท

ค่าเสื่อมสภาพ 25% = 175,000 บาท + ภาษีฯ 7% (12,2500 บาท) = 187,250 บ.

ดังนั้น 10% สำหรับต่อรองราคาจะอยู่ที่ 187,250 บาท

8. คู่มือประกอบรถ หรือ Service Book

นอกจากสภาพของรถยนต์ที่ดีแล้ว คู่มือประกอบรถ หรือ Service Book ยังเป็นสิ่งที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ชื้อรถได้

นอกจากสภาพของรถยนต์ที่ดีแล้ว คู่มือประกอบรถ หรือ Service Book ยังเป็นสิ่งที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ชื้อรถได้

ทั้งคู่มือประกอบรถ หรือ Service Book เป็นสิ่งที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ชื้อรถของเพื่อนๆ ได้ โดยประวัติการบำรุงรักษาจะถูกระบุอยู่ภายในหนังสือเล่มนี้ ซึ่งเมื่อมีการยืนยันประวัติที่ดีจากทั้งการจ่ายเบี้ยประกัน และการบำรุงรักษาแล้ว สิ่งนี้จึงจะช่วยให้การขายรถมือสองไม่ใช่เรื่องยากของการขาย

ดูเพิ่มเติม
>> 7 คำถามยอดฮิตกับ "รถบ้านเจ้าของขายเอง" ที่ก่อนซื้อก่อนขายก็ต้องรู้
>> ขายรถมือสอง ต้องทำยังไงไม่ให้เต้นท์ “กดราคา”

การซื้อขายรถไม่สามารถขายได้ตามใจ แต่ว่าจะมีข้อกำหนด และข้อจำกัดบางอย่างเพื่อให้สามารถตั้งราคาในระยะที่ไม่ห่างกันมากนัก หากเพื่อนๆ สนใจมองหาแหล่งประกาศขายรถยนต์มือสองสามารถเข้ามาโพสต์ประกาศได้ที่ตลาดรถ Chobrod.com ค่ะ