เปิดตัว Ford Ranger Raptor 2022 เจเนอเรชันใหม่ เครื่องยนต์เบนซิน 3.0 ลิตร EcoBoost V6 เทอร์โบคู่ 397 แรงม้า ท่อไอเสียปรับเสียงได้ ช่วงล่างเทพ โช้คอัพติดสมองกล FOX แบบไลฟ์วาล์ว Internal Bypass ขนาด 2.5 นิ้ว
อ่านเพิ่มเติม Ford Everest 2022 เจเนอเรชันใหม่ เปิดตัว 1 มีนาคมนี้
ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี เผยโฉม Ford Ranger Raptor 2022 เจเนอเรชันใหม่อย่างเป็นทางการ รถกระบะออฟโรดสมรรถนะสูงรุ่นที่สองพัฒนาขึ้นเพื่อพร้อมตะลุยทะเลทราย พิชิตภูเขาสูงชัน และทุกสภาพเส้นทางหฤโหดยิ่งกว่าเดิม
Ford Ranger Raptor 2022 ได้รับการพัฒนาโดยทีมฟอร์ด เพอร์ฟอร์แมนซ์ ให้เป็นที่สุดแห่งรถกระบะออฟโรดที่ทรงพลังที่สุดในตระกูลเรนเจอร์
การออกแบบให้มีรูปลักษณ์ภายนอกดุดัน ซุ้มล้อที่ใหญ่ขึ้นเพิ่มความกว้างของรถ ไฟหน้าใหม่รูปตัว C อันเป็นดีเอ็นเอของรถกระบะฟอร์ด ตัวอักษร F-O-R-D ขนาดใหญ่บนกระจังหน้า และกันชนที่เป็นอิสระจากกระจังหน้าเพื่อสร้างมุมไต่ที่มากขึ้น
ไฟหน้าแบบเมทริกซ์ แอลอีดี พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (Day-time running lights) แบบแอลอีดีช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการส่องสว่างขึ้นอีกระดับ ไฟเลี้ยวแบบไดนามิก ไฟสูงแบบตัดแสงและการปรับระดับแสงแบบอัตโนมัติ
ล้ออัลลอยใหม่ขนาด 17 นิ้ว มาพร้อมยางออลเทอร์เรน BFGoodrich KO2 ภายใต้ซุ้มล้อที่สะดุดตา ช่องลมข้างบังโคลนนอกจากความสวยงามและยังมีประโยชน์ด้านอากาศพลศาสตร์
บันไดข้างดีไซน์ใหม่ทำจากอะลูมิเนียม
ไฟท้ายแบบแอลอีดีกลมกลืนกับไฟหน้า กันชนหลังสีเทาเข้มมีบันไดเหยียบเพื่อขึ้นกระบะท้าย และชุดลากในตัวที่ติดตั้งในตำแหน่งสูงเพื่อเพิ่มมุมจากโดยรายละเอียดของอุปกรณ์แตกต่างกันไปในแต่ละตลาด
การออกแบบภายในใหม่ทั้งหมด ใช้เบาะที่นั่งแบบสปอร์ต ทั้งเบาะหน้าและหลัง ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากเครื่องบินรบ
การตกแต่งรายละเอียดด้วยสีส้ม ‘โค้ด ออเรนจ์’ บนแผงหน้าปัด การตัดขอบชิ้นส่วนหลัก ๆ ในห้องโดยสาร รวมถึงบนเบาะที่นั่งแบบสปอร์ต
พวงมาลัยหนังเกรดพรีเมียมจับกระชับมือพร้อมแถบบอกตำแหน่งองศาพวงมาลัยหรือ On-centre mark และแป้นแพดเดิลชิฟต์เคลือบแมกนีเซียม
แผงหน้าปัดความชัดเจนสูงขนาด 12.4 นิ้ว และหน้าจอแบบสัมผัสตรงกลางขนาด 12 นิ้ว แสดงผลการเชื่อมต่อและระบบความบันเทิงผ่านระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC 4A รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS และ Android ระบบเสียง Bang & Olufsen 8 ตำแหน่ง
ขุมกำลังใหม่ เครื่องยนต์เบนซิน 3.0 ลิตร EcoBoost V6 เทอร์โบคู่ ที่มอบกำลังสูงสุดถึง 397 แรงม้า ที่ 5,650 รอบต่อนาที และแรงบิด 583 นิวตันเมตร ที่ 3,500 รอบต่อนาที แต่ว่าในบางประเทศจะมีการปรับเปลี่ยนเป็น เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบคู่ 2.0 ลิตรที่ยังไม่ได้เปิดเผยตัวเลขกำลัง ซึ่งคาดว่าไทยก็อาจถูกปรับเครื่องด้วย
โดยในรายละเอียดเครื่องยนต์เบนซิน 3.0 ลิตร EcoBoost V6 เทอร์โบคู่ ใช้เสื้อสูบกราไฟต์ที่มีขนาดกะทัดรัด เมื่อเทียบกับเสื้อสูบเหล็กหล่อทั่วไปจะมีความแข็งแรงมากกว่าถึง 75 เปอร์เซ็นต์ และทนทานกว่าถึง 75 เปอร์เซ็นต์ พร้อมระบบป้องกันการรอรอบแบบที่ใช้ในรถแข่งเพื่อมอบอัตราเร่งทันใจ
มีระบบป้องกันการรอรอบ (Anti-Lag System - ALS) เป็นส่วนหนึ่งของโหมดบาฮา หน่วงการหมุนของเทอร์โบชาร์จเจอร์ที่ความเร็วสูงต่อไปอีกถึง 3 วินาที หลังปล่อยคันเร่ง รถจึงคืนความเร็วได้ทันใจขณะเร่งออกจากทางโค้ง หรือระหว่างการเปลี่ยนเกียร์
เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ซึ่งเกียร์แต่ละสปีดได้รับการตั้งค่าเฉพาะตัวแตกต่างกัน
ระบบท่อไอเสียควบคุมไฟฟ้าพร้อมโหมดปรับเสียงให้เลือกได้ถึง 4 โหมดให้มีความนุ่มนวลไปจนถึงเสียงกระหึ่มเร้าอารมณ์ได้ตามต้องการ โดยกดเลือกระดับความดังของท่อไอเสียได้ที่ปุ่มบนพวงมาลัย หรือเลือกโหมดการขับขี่ดังต่อไปนี้
แชสซีเพิ่มการประกอบและอุปกรณ์เสริมมากมายที่ เสาซี กระบะท้าย ล้ออะไหล่ ไปจนถึงโครงรถแบบพิเศษที่พร้อมรองรับแรงกระแทกจากกันชน ขายึดโช้ค และฐานยึดโช้คหลัง
ช่วงล่างออกแบบใหม่ทั้งหมด ด้วยปีกนกบนและล่างใหม่ที่ทำจากอะลูมิเนียมที่แข็งแรง แต่มีน้ำหนักเบา รวมถึงระบบกันสั่นสะเทือนที่มีระยะยืดยุบสูง พร้อมวัตต์ลิงก์ด้านหลังที่พัฒนามาเพื่อความเร็วสูงบนถนนขรุขระ
ระบบกันสะเทือน FOX แบบไลฟ์ วาล์ว Internal Bypass ขนาด 2.5 นิ้ว ที่ควบคุมสมองกล ช่วยลดการสะเทือนตามการเคลื่อนไหวของรถ นับว่าได้ว่าระบบกันสะเทือนนี้ล้ำสมัยที่สุดเท่าที่เคยใช้ นอกจากนี้น้ำมันในกระบอกโช้คผสม Teflon ที่ลดการเสียดสีลงได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์
ส่วนฮาร์ดแวร์ผลิตโดย FOX แต่ทีมฟอร์ด เพอร์ฟอร์แมนซ์ คือผู้รับหน้าที่ปรับจูนและพัฒนาโช้คอัพรุ่นนี้โดยผสมผสานการใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในงานด้านวิศวกรรม (Computer-Aided Engineering หรือ CAE) และการทดสอบรถในสถานการณ์จริง ตั้งแต่การปรับการทำงานของสปริงไปจนถึงการกำหนดความสูง การปรับแต่งวาล์ว และการออกแบบระดับการยืด-หดของโช้ค เพื่อสร้างความสมดุลที่สมบูรณ์แบบที่สุด โดยบุคลิกของช่วงล่างจะเชื่อมโยงกับการปรับโหมดขับขี่ด้วย
ระบบป้องกันการหดตัวค้าง (Bottom-Out Control) ของ FOX ที่ได้รับการพิสูจน์จากสนามแข่งช่วยสร้างแรงหน่วงสูงสุดในระยะ 25 เปอร์เซ็นต์สุดท้ายของการหดตัว เพื่อป้องกันไม่ให้โช้คค้างและช่วยชะลอการหดตัวของโช้คหลังเพื่อไม่ให้รถกระแทกแรงเกินไปขณะเร่งความเร็ว
แผ่นกันกระแทกใต้ท้องรถที่มีขนาดใหญ่เกือบ 2 เท่าของขนาดปกติที่ใช้กับ ฟอร์ด เรนเจอร์ ทำจากเหล็กหนา 2.3 มิลลิเมตร ประกอบเข้ากับแผ่นปิดใต้เครื่องยนต์และชุดเกียร์จึงช่วยปกป้องชิ้นส่วนสำคัญ อาทิ หม้อน้ำ ระบบบังคับเลี้ยว คานด้านหน้า อ่างน้ำมันเครื่อง และชุดเฟืองได้ดีเยี่ยม
ตะขอลากจูงคู่หน้าและหลังทำให้รถพร้อมลุยในเส้นทางออฟโรดทุกสถานการณ์
การขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะแบบตลอดเวลา โดยใช้ระบบเกียร์ไฟฟ้าใหม่ที่ปรับได้ 2 ระดับ และยังมาพร้อมระบบควบคุมเฟืองท้ายคู่หน้าและหลัง แบบ locking differentials ครั้งแรก
โหมดการขับขี่แต่ละโหมด จะควบคุมการตั้งค่าการทำงานส่วนต่าง ๆ ของรถโดยละเอียด ตั้งแต่เครื่องยนต์ เกียร์ ความไวในการใช้ระบบเบรกอัตโนมัติ (ABS) การประมวลผล การยึดเกาะถนน ความมั่นคง ระบบท่อไอเสีย พวงมาลัย การตอบสนองต่อการเร่งเครื่อง ไปจนถึงการแสดงผลและสีบนแผงหน้าปัดรถยนต์ และจอทัชสกรีน
โหมดการขับขี่ใหม่ มีให้เลือก 7 โหมด
โหมดการขับขี่ทางเรียบ
โหมดการขับขี่ออฟโรด
ฟีเจอร์ใหม่ ระบบควบคุมความเร็วสำหรับการขับขี่ออฟโรด (Trail Control) ทำหน้าระบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติสำหรับการขับขี่ออฟโรด ผู้ขับขี่สามารถเลือกความเร็ว (ไม่เกิน 32 กิโลเมตร/ชั่วโมง) รถจะควบคุมการเร่งความเร็วและการเบรก ผู้ขับขี่เพียงจดจ่อกับการบังคับควบคุมพวงมาลัยเพื่อฝ่าเส้นทางได้ง่ายขึ้น
และทั้งหมดนี้คือข้อมูลในการเปิดตัว Ford Ranger Raptor 2022 ซึ่งจะทำการเปิดตัวอีกครั้งในแต่ละประเทศ โดยกำหนดพร้อมขายคือปี 2023 โดยในส่วนของเครื่องยนต์จะมีโอกาสถูกปรับเหลือ 2.0 ลิตรเทอร์โบคู่ โดยขึ้นอยู่กับความเหมาะสมตามแต่ละประเทศที่มีข้อกำหนดแตกต่างกัน
ประเทศไทย คิดภาษีสรรพสามิตของรถยนต์เพิ่มขึ้นตามจำนวนซี.ซี. จากข้อมูลนี้มีโอกาสมากน้อยแค่ไหนที่จะเป็นเครื่องยนต์ 3.0 ลิตรที่ดูจากข้อมูลแล้วต้องบอกว่าสุด ๆ ก็น่าเสีย ส่วนในเครื่อง 2.0 ลิตรเทอรโบคู่นั้นจะมีทีเด็ดสู้ได้ไหมก็ต้องดูกันต่อไป
มร. เดฟ ดูวิทท์ ผู้จัดการฝ่ายออกแบบภายนอก Ford Ranger Raptor 2022 เจเนอเรชันใหม่ กล่าว
“ทุกส่วนประกอบออกแบบมาเพื่อ ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจเนอเรชันใหม่ โดยผ่านการวางแผนมาอย่างดี”
“เพียงแค่มองรูปลักษณ์ภายนอก คุณจะรับรู้ได้ทันทีว่ารถคันนี้เป็นรถยนต์ออฟโรดสมรรถนะสูง”
มร. เดฟ เบิร์น หัวหน้าวิศวกร ทีมฟอร์ด เพอร์ฟอร์แมนซ์ โครงการพัฒนา Ford Ranger Raptor 2022 เจเนอเรชันใหม่ กล่าว
“เรามุ่งมั่นที่จะนำเสนอรถกระบะสมรรถนะสูงตัวจริงด้วยฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจเนอเรชันใหม่” กล่าว “รถกระบะคันนี้จะมาพร้อมความเร็วที่เพิ่มขึ้น รูปโฉมที่สะดุดตา และอัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์ใหม่มากมาย จึงเรียกได้ว่าเป็นรถกระบะเกิดมาแกร่งที่สมบุกสมบันที่สุดเท่าที่ฟอร์ดเคยพัฒนา
“เครื่องยนต์เบนซิน 3.0 ลิตรทำให้ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจเนอเรชันใหม่ จะเป็นรถที่ตอบโจทย์คนรักรถออฟโรดสายฮาร์ดคอร์ที่ต้องการรถสมรถนะสูงอย่างแน่นอน” เดฟ กล่าว “อัตราเร่งที่ทรงพลังและสมรรถนะเต็มพิกัดของขุมพลังใหม่จะทำให้คุณสะใจแน่นอน”
“การพัฒนาระบบช่วงล่างใหม่ของ ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจเนอเรชันใหม่ ใช้ประโยชน์สูงสุดจากโช้คแบบ Live Valve ของ FOX ระบบช่วงล่างของรถปรับได้แบบเรียลไทม์เพื่อประสบการณ์การขับขี่ทางเรียบที่เหนือระดับ ในขณะที่ยังสามารถซับแรงกระแทกจากพื้นผิวขรุขระและทางลูกรังในการขับขี่แบบออฟโรดได้อย่างง่ายดาย ช่วยเรื่องการทรงตัวและการควบคุมรถให้ดียิ่งขึ้น”
“ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ได้รับแรงบันดาลใจจากรถแข่งบนทะเลทรายก็จริง แต่ก็นับเป็นรถเพื่อการเดินทางผจญภัยที่ตอบโจทย์การใช้งานแบบอเนกประสงค์ด้วย เราจึงสร้างฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจเนอเรชันใหม่ จากโรงงานให้เป็นรถกระบะออฟโรดเพื่อการเดินทางพร้อมลุยในทุกเส้นทางที่ปลอดภัย โดยที่คุณไม่ต้องปรับแต่งเพิ่มเติม”
“เราต้องการให้โหมดบาฮาเป็นตัวแทนขั้นสุดของการขับขี่ออฟโรดความเร็วสูง” “ฟีเจอร์นี้เรียกได้ว่าเป็นหัวใจสำคัญที่ลูกค้าฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจเนอเรชันใหม่ คาดหวัง”
“เรารู้ดีว่าลูกค้าคาดหวังที่จะเห็นฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจเนอเรชันใหม่ ที่มาพร้อมกับสมรรถนะที่ได้รับการพัฒนาขึ้นไปอีกขั้น แต่ผมคิดว่าลูกค้าอาจจะไม่ได้คาดหวังไปถึงการพัฒนาแบบก้าวกระโดดแบบที่เราได้พัฒนาให้กับรถคันนี้ ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจเนอเรชันใหม่ จะเป็นรถกระบะที่ขับสนุกจริง ๆ และผมเชื่อว่าสมรรถนะเหนือชั้นจะทำให้ลูกค้าตื่นเต้นเร้าใจแน่นอน
ตลาดรถมือสอง มีรถมากมายให้เลือกในราคาที่ถูกใจ
ดูเพิ่มเติม ราคาฟอร์ดเรนเจอร์ 2022