น้ำหนักเบา, พลังสุดขีด, อากาศพลศาสตร์ชั้นเทพ นี่คือรถสปอร์ตหรูแดนผู้ดีที่ผ่านการทำมือมากกว่า 300 ชม.
McLaren Senna
เปิดความลับของตลาดรถต่างประเทศโดยการเปิดตัวของ McLaren Senna ที่ตั้งชื่อตามตำนานนักแข่ง F1 อาอีร์ต็อง เซนน่า แชมป์โลก 3 สมัยกับ McLaren เป็นรถบนถนนที่เป็นที่สุดที่บริษัทได้ผลิตออกมา ดีไซน์เพื่อเป็นรถที่ตอบสนองและเข้าถึงได้มากที่สุดในชุด ตัวรถให้ความสัมพันธ์แท้จริงที่สุดระหว่างคนกับรถ และผลิตออกมา 500 คันทั่วโลก สนนราคาคันละ £750,000 (เกือบๆ 31 ล้านบาท)
จิตวิญญาณของอาอีร์ต็อง เซนน่ายังคงมีอยู่ที่ McLaren ตัวรถให้กำลัง 800PS (789bhp) กับแรงบิด 800 นิวตัน-เมตร (590 พาวด์-ฟุต) จากเครื่อง V8 เทอร์โบชาร์จคู่ 4.0 เหยียบจาก 0-100 กม./ชม.ที่ 2.8 วินาที ถึง 200 แค่ 6.8 วินาที และวิ่งควอร์เตอร์ไมล์ (402 เมตร) ได้ 9.9 วินาที
ดูเพิ่มเติม
>> McLaren จับมือ Pirelli เปิดตัวล้อแม็กและยางสำหรับฤดูหนาว
>> McLaren Speedtail รถรุ่นที่แรงที่สุดของค่าย
เจาะดีไซน์ McLaren Senna คาร์บอนไฟเบอร์จัดเต็ม
ดีไซน์อากาศพลศาสตร์
ผลกระทบที่มองเห็นได้ของรถคือสมรรถนะสุดขีดที่เท่าๆ กัน รูปทรงธรรมชาติได้รองรับภาษาดีไซน์ที่แข็งแกร่งซึ่งผสานกันไร้รอยต่อ แล้วนำอากาศไหลไปตามที่อากาศพลศาสตร์ต้องการ และการแสดงออกที่แข็งแรงที่สุดของปรัชญา “ปล่อยไปตามการใช้งาน” ของ McLaren โดยสัดส่วนแล้ว นี่คือ McLaren ไม่ใช่รถอื่น แต่ลายตัวถังเดี่ยวจากหน้าไปหลังจะไม่เกิดขึ้นถ้าผ่านไม่ไหลเข้าท่อรับอากาศหรือช่องแอร์
การควบคุมอากาศไหลเวียนที่ลงตัวเริ่มขึ้นเมื่ออากาศถูกจมูกรถ อากาศจะเข้าหาแผ่นแบ่งอากาศผิวหน้ารถ 4 แผ่น, หอกอากาศเชิงรุก, หอกอากาศรองแบบคงที่ แล้วไหลทะลุช่องระหว่างไฟหน้ากับไฟวิ่งกลางวัน (DRL) ก่อนจะเปิดใช้งานแต่ละส่วนตามลำดับ ดีไซน์ท้ายรถเกิดขึ้นจากอากาศพลศาสตร์กับการทำความเย็นทั้งหมด บานพับเคลื่อนที่ที่เด่นออกมาข้างหน้าบานเกล็ดขั้นบันไดพาอากาศออกไปทางท้ายรถและรอบข้างตัวถัง ทำให้พื้นที่แรงดันต่ำสร้างอากาศร้อนจากหม้อน้ำอุณหภูมิสูงกับช่องเครื่องยนต์ บานเกล็ดทำให้การไหลเวียนอากาศไม่กระทบกับประสิทธิภาพปีกหลังได้ ท่อไอเสียทรงผ่าเฉพาะสร้างการไหลเวียนแบบเดียวกัน ตำแหน่งกับมุมของท่อลดการรบกวนต่อปีกหรือดิฟฟิวเซอร์ท้ายรถ
ดีไซน์ภายนอกของ McLaren Senna
ท่อไอเสียแล่บออกมาจากท้ายรถที่ต่ำที่สุดในรถ McLaren บนถนน เตี้ยกว่ารุ่น Super Series รุ่นอื่น 18 ซม. ตรงข้ามกับแผงท้ายรถที่วางต่ำมาก ปีกหลักทำคาร์บอนไฟเบอร์องค์ประกอบเบิ้ลทำงานด้วยไฮโดรลิก ปัจจัยหลักในการสร้างดาวน์ฟอร์ซ วางไว้สูงจนสังเกตได้แล้วปรับดาวน์ฟอร์ซให้พอดีอย่างต่อเนื่องและคุมสมดุลอากาศพลศาสตร์ตามที่ต้องการ ปีกหลักหนักแค่ 4.78 กก. แต่ช่วยเหลือดาวน์ฟอร์ซได้ 100 เท่าของน้ำหนักตัวเอง
ดิฟฟิวเซอร์คู่ท้ายรถมีความโดดเด่นเช่นกัน ผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ชิ้นเดียว วางไว้ตั้งแต่ใต้เพลาหลังแล้วเพิ่มความสูงในการดันอากาศออกจากใต้รถ ทำให้เกิดพื้นที่แรงดันต่ำ แล้ว “ดูด” McLaren Senna ให้ติดพื้นถนน
การก่อสร้างจากคาร์บอนไฟเบอร์
McLaren บุกเบิกเทคโนโลยีคาร์บอนไฟเบอร์ใน F1 และโครงสร้างคาร์บอน Monocage III กลางรถ McLaren Senna มีต้นกำเนิดตั้งแต่ McLaren MP4/1 ในปี 1981 รถ F1 คันแรกที่ทำจากคาร์บอน Monocage III เป็นคาร์บอนไฟเบอร์ไร้โครงที่ผลิตโดย McLaren ครั้งแรกสำหรับรถถนน และมีชุดปีกกำแพงคู่ซึ่งให้โครงกันรถคว่ำในตัว Monocage III ถูกปรับให้สร้างโครงรถที่เบาที่สุดเท่าที่ทำได้และทำให้ McLaren Senna เป็นรถถนนที่เบาที่สุดที่ McLaren ผลิตมานับตั้งแต่ F1 ที่น้ำหนัก(แห้ง) 1,198 กก.
ประโยชน์ของคาร์บอนไฟเบอร์รู้สึกได้ตลอดในตัว McLaren Senna แผงตัวถัง ซึ่งมีความแข็งแรงเชิงโครงสร้างมากๆ เพื่อเกื้อต่อแรงอากาศพลศาสตร์เมื่อใช้ความเร็วสูงในสนามแข่ง มีความแข็งแกร่งและน้ำหนักเบา โดยรวมแล้ว แผงตัวถังคาร์บอนไฟเบอร์ของ McLaren Senna เบากว่า 60 กก.
ดีไซน์ภายนอกของ McLaren Senna
คาร์บอนไฟเบอร์กับ Alcantara ถูกใช้ตลอดทั้งห้องโดยสาร สะท้อนธรรมชาติเพื่อการใช้งานแบบมินิมอลของ McLaren Senna แดชบอร์ด, ประตู และองค์ประกอบที่มองเห็นได้ของ Monocage III ใช้คาร์บอนไฟเบอร์ที่เปิดเผยทั้งหมด Alcantara (หรือเลือกเป็นหนังได้) ห่อหุ้มถุงลมด้านข้างและการไม่ตกแต่งลายห้องโดยสารทำให้ลดน้ำหนักกับเผยการก่อสร้างของประตูสองหน้า แม้แต่แท่งอากาศในประตู ซึ่งมีสีเดียวกับแคลิเปอร์และหอกอากาศควบคุมด้านหน้า สามารถมองเห็นได้เพื่อประหยัดกรัมที่จำเป็น
ความแข็งแกร่งโดยธรรมชาติของ Monocage III ให้เสาค้ำหลังคาที่บางเบาทำให้มีมุมมองที่ดีมากผ่านกระจกหน้าที่กว้างลึกและรอบกันชนหน้า ทำให้ McLaren Senna เข้าโค้งได้สมบูรณ์แบบ เช่นเดียวกับเพิ่มทัศนวิสัยโดยทั่วไป การใช้ประตูขัดเงาแทนแผงคาร์บอนไฟเบอร์ทำให้มีแสงเฉิดฉายเข้าหาห้องคนขับมากขึ้น
ดีไซน์ภายนอกของ McLaren Senna
ผลิตสำหรับตัวเลือกของแต่ละคน
สเปค ‘By McLaren’ ห้าแบบได้ถูกผลิตโดยดีไซเนอร์ McLaren อย่างที่ฉายแสงออกมาให้ McLaren Senna ได้ดีที่สุด สีตัวถังแต่ละสี (Stealth Cosmos black, Trophy Kyanos blue, Trophy Mira orange, Vision Pure white และ Vision Victory grey) ถูกเติมเต็มด้วยหอกอากาศหน้ารถ, เนื้อกันชนหน้า, แคลิเปอร์, แท่งอากาศในประตู และลายพรุนบนเบาะในสีตรงข้าม ยังมีอีก 18 สีให้เลือกโดยไม่คิดราคาเพิ่ม กับ 16 สีเพิ่มเติมจากชุดสีของ McLaren Special Operations Defined นอกจากนี้ สีต่างๆ ไม่จำกัดสามารถผลิตได้ผ่านบริการ MSO Bespoke
นอกจากการเลือกธีมสีตัวถังสำหรับ McLaren Senna ลูกค้าสามารถมองหาสีอื่นๆ ในห้องโดยสารจาก By McLaren Designer ซึ่งเติมเต็มหนังสี Jet Black หรือ Carbon Black Alcantara และวัสดุห้องโดยสารคาร์บอนไฟเบอร์ที่มองเห็นได้ หอกอากาศกับเนื้อกันชนตามรหัสสี, โล่กันความร้อนในท่อไอเสียสีดำเงา, Satin Raw Metal หรือ Dark Stealth, พวงมาลัยคาร์บอนไฟเบอร์/ Alcantara และล้อแม็กอัลลอยหลอมน้ำหนักเบา 9 ก้านมีให้เลือกสามสีสามารถเลือกได้โดยไม่คิดเงิน
ล้อแม็กหลอมลายดาว 9 แฉกและแคลิเปอร์
Source: McLaren Automotive
ดูเพิ่มเติม
>> รู้ยังกับ 5 รถ Porsche ที่แพงสุดตลอดกาลถึงตอนนี้!!!
>> Lexus ES 300h (JP) 2019 รถรุ่นแรกในโลกที่ไม่มีกระจกข้าง!
ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้