เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย เริ่มต้นด้วยการเปิดตัวรถยนต์รุ่น EQS รถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบคันแรก พร้อมแผนการประกอบรถยนต์รุ่นนี้ในประเทศ เตรียมพร้อมจำหน่ายในปี 2565 รวมถึงแผนการลงทุนด้านยานยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการดำเนินงานของโรงงานผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า
มร. โรลันด์ โฟล์เกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย)
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย แจ้งนโยบายจากจากระดับโลก เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี และกลยุทธ์ในการก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มตัวทั่วโลกภายในทศวรรษนี้
Mercedes Benz EQS
โดย เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย เริ่มต้นด้วยการเปิดตัวรถยนต์รุ่น EQS รถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบคันแรก พร้อมแผนการประกอบรถยนต์รุ่นนี้ในประเทศ เตรียมพร้อมจำหน่ายในปี 2565 รวมถึงแผนการลงทุนด้านยานยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการดำเนินงานของโรงงานผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ทั้งรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ต่อยอดจากความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ PHEV เพื่อผลักดันให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยก้าวไปในทิศทางเดียวกันกับเทรนด์ยานยนต์โลก
มร. โรลันด์ โฟล์เกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย)
ตามนโยบายระดับโลกของเมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี พร้อมเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มตัวภายในทศวรรษนี้เพื่อก้าวสู่อนาคตที่ปราศจากมลพิษ โดยกำลังเปลี่ยนจากกลยุทธ์ “ไฟฟ้านำ” (electric first) เป็น “ไฟฟ้าเท่านั้น” (electric only) และนับจากปี 2568 เป็นต้นไป รถยนต์ใหม่ที่เราจะเปิดตัวจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น
อ่านเพิ่มเติม - เมอร์เซเดส-เบนซ์ ไทย พร้อมผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเต็มตัว ส่ง EQS เป็นรุ่นแรก
รถยนต์ไฟฟ้าที่ เมอร์เซเดส-เบนซ์ มี จะอยู่ภายใต้โครงสร้างรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ 3 แบบ ได้แก่ MB.EA, AMG.EA และ VAN.EA นี่คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับแบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์ทั่วโลกรวมทั้งในประเทศไทย
สอดคล้องไปกับแผนบรรเทาสภาวะอากาศระยะยาวของรัฐบาลไทยที่ต้องการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนและการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ภายในปี 2593 และ 2608 ตามลำดับ
นอกจากนี้คอนเฟิร์มแล้วว่า ประเทศไทยเป็น 1 ใน 7 ที่ตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่และโรงงานประกอบรถยนต์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ จากทั่วโลก เพราะมั่นใจในศักยภาพของตลาด และเล็งเห็นความสำคัญของการถ่ายทอดเทคโนโลยีรวมไปถึงทำงานร่วมกับภาครัฐในการใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นปัจจัยหนึ่งในการขับเคลื่อนประเทศ
อีกหนึ่งปัจจัยที่เลือกไทยเพราะ แรงงานไทยก็เป็นแรงงานที่มีฝีมือ การตั้งโรงงานประกอบรถยนต์และผลิตแบตเตอรี่ในไทยด้วยมาตรฐานการผลิต โดยเฉพาะมาตรฐานการทดสอบแบตเตอรี่ในระดับสูงสุด จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้เติบโตรุดหน้า ตอบรับเทรนด์ e-mobility ของโลก และยังประโยชน์ให้กับทั้งประเทศไทย ซัพพลายเออร์ไทย และคนไทยอย่างต่อเนื่องในอนาคต
เมอร์เซเดส-เบนซ์ เองก็มีสายสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและยาวนานกับประเทศไทย ย้อนกลับไปไกลถึงปีพ.ศ. 2448 มีรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์คันแรกเข้ามาในประเทศไทย จากนั้นเมอร์เซเดส-เบนซ์จับมือกับบริษัท ธนบุรีประกอบรถยนต์ ในฐานะผู้จำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2493 หรือกว่า 70 ปีมาแล้ว
ปัจจุบันการประกอบรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ในประเทศไทยครบ 100,000 คันไปตั้งแต่ปี 2559 เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังได้ริเริ่มให้มีโรงงานผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้าของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ภายใต้การดูแลของบริษัท ธนบุรี เอ็นเนอร์ยี่ สตอเรจ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด (TESM) ซึ่งเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่ที่ได้รับอนุญาตจากเมอร์เซเดส-เบนซ์แต่เพียงผู้เดียว
โดยโรงงานแห่งนี้ มีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการผลิตแบตเตอรี่ทั้งสำหรับรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดรุ่นต่าง ๆ อาทิ รุ่น C-Class, E-Class และ GLC รวมถึงรุ่น S 580 e ที่เพิ่งเปิดตัวล่าสุด และแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์รุ่น EQS ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% คันแรกจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่จะมีการประกอบในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ
ตลาดรถมือสอง มีรถมากมายให้เลือกในราคาที่ถูกใจ