สรุปยอดขายรถปี 2564 จบที่ 759,119 หดตัวลง 4.2% เผยปี 2565 คาดการณ์ตลาดอยู่ที่ 860,000 คัน

ตลาดรถยนต์ในประเทศ | 27 ม.ค 2565
แชร์ 0

โตโยต้า มอเตอร์ ออกแถลงสรุป ตลาดรถยนต์ไทยในปี 2564 ยอดขายรถจบที่ 759,119 หดตัวลงเล็กน้อยจากปี 63 ผลต่อเนื่องจาก Covid-19 เผย คาดการณ์ยอดขายรถอยู่ที่ 860,000 คันเพิ่มขึ้น 13.3% เริ่มฟื้นตัวชัด

สรุปยอดขายรถปี 2564

สรุปยอดขายรถปี 2564

มร. โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แถลงสถิติการจำหน่ายรถยนต์ปี 2564 พร้อมคาดการณ์ตลาดรถยนต์ไทยปี 2565 เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2565 ในการแถลงข่าวผ่านช่องทางออนไลน์

“ปี 2564 ถือเป็นอีกปีที่เศรษฐกิจและสังคมไทยเผชิญความท้าทายจากสถานการณ์โควิด-19  อย่างไรก็ตาม จากความมุ่งมั่นพยายามของภาครัฐและบุคลากรทางการแพทย์ เราเชื่อว่าสถานการณ์กำลังจะก้าวเข้าสู่ภาวะคลี่คลาย ในส่วนของโตโยต้า เรายังคงเดินหน้าให้การสนับสนุนผ่านโครงการ ‘โตโยต้าเคียงคู่ไทย สู้ภัยโควิด-19’ โดยผนึกกำลังความร่วมมือกับผู้แทนจำหน่ายและผู้ผลิตชิ้นส่วนทั่วประเทศในการมอบรถยนต์ โตโยต้าและสิ่งของจำเป็นให้กับหน่วยงานราชการและบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า โดยเรามุ่งหวังที่จะก้าวข้ามผ่านความท้าทายครั้งนี้ไปด้วยกัน”

อ่านเพิ่มเติม - BMW 520d M Sport M Performance Edition ปี 2022 จองเอาชุดแต่งราคาพิเศษ 8 หมื่นบาท มีจำกัด 80 คันทางออนไลน์

สรุปยอดขายรถปี 2564

สรุปยอดขายรถปี 2564

Lexus NX450h+
Lexus NX450h+ 

เผยโตโยต้า ประเทศไทย เตรียมพร้อมกับรถ EV 

โดยทาง มร. ยามาชิตะ ได้พูดถึงการรับลูกจากทางบริษัทแม่จากญี่ปุ่น ที่ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ครบทั้ง 30 รุ่น ภายในปี 2573 โดยรวมไปถึงรถซีรีส์ bZ จำนวน 5 โมเดล และในปี 2564 ได้เปิดตัว Lexus UX300e ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ และ Lexus NX450h+  ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊กอินไฮบริด 

Toyota bZ4X
Toyota bZ4X

ในปี 2565 โตโยต้าเตรียมเปิดตัว Toyota bZ4X ซึ่งถือเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของซีรีส์ bZ ออกสู่ตลาดภายในปีนี้ พร้อมกับส่งเสริมให้ใช้ชิ้นส่วนในประเทศมากขึ้น พร้อมผลักดันไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ EV

สรุปยอดขายรถปี 2564

เผยสถิติ ยอดขายรถยนต์ 2564

    มร. ยามาชิตะ กล่าวว่า “อย่างที่ทุกท่านทราบกันดีว่าปี 2564 เป็นปีที่สถานการณ์โรคโควิด-19 ยังคงส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังเกิดปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนการผลิต เช่น ปัญหาชิปขาดตลาด ด้วยเหตุนี้ ยอดขายรวมภายในประเทศจึงอยู่ที่ราว 759,119  คัน หรือลดลง 4.2% เมื่อเทียบกับปี 2563”

สถิติการขายรถยนต์ในปี 2564

ยอดขายปี 2564

การเปลี่ยนแปลงเทียบกับปี 2563

ปริมาณการขายรวม

759,119 คัน

- 4.2%

รถยนต์นั่ง

251,800 คัน

-8.4%

รถเพื่อการพาณิชย์

507,319 คัน

-1.9%

รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง)

393,476 คัน

-3.9%

รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง)

341,452 คัน

-6.4%

มร. ยามาชิตะ เผยถึงยอดขายของโตโยต้าในปีที่ผ่านมาว่า “สำหรับยอดขายของโตโยต้าในปี 2564 นั้น ยอดขายรวมของเราอยู่ที่ประมาณ 239,723 คัน หรือลดลง 1.9% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และเรายังคงครองส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับ 1 หรือเท่ากับ 31.6% ของยอดขายรถยนต์ทั้งหมด ซึ่งหากว่ากันตามตรง ถือว่าต่ำกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ แต่ถ้าเราดูยอดขายของปีที่แล้วจะเห็นได้ว่าสถานการณ์ของเราเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 เป็นต้นมา 

สืบเนื่องมาจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ดียิ่งขึ้น ตลอดจนการดำเนินกิจกรรมทางการตลาดที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตแบบใหม่ เช่น การขายผ่านช่องทางออนไลน์ ถ้าเราลองดูที่ยอดขายของโตโยต้าในระหว่างช่วงไตรมาสที่ 2 ถึงไตรมาสที่ 4 จะเห็นได้ว่าส่วนแบ่งทางการตลาดของเราอยู่ที่ 32.5% ซึ่งเป็นระดับที่ไกล้เคียงกับในปี 2562 หรือช่วงก่อนที่โรคโควิด-19 จะระบาด โดยในส่วนของยอดขายของไฮลักซ์ รีโว่ นั้น มีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 39.1% ซึ่งสูงกว่าของปี 2562 ในขณะที่ เอทีฟ และ ยาริส นั้น ก็สามารถครองอันดับ 1 ในตลาดรถ อีโคคาร์"

“ในส่วนของตลาดรถยนต์อเนกประสงค์ โตโยต้ามียอดขายรวมทั้งปีเป็นอันดับ 1 ถึง 2 ปีซ้อน ด้วยยอดขายที่สูงเป็นประวัติการณ์ของโคโรลลา ครอส ส่วนฟอร์จูนเนอร์เองก็มียอดขายเป็นอันดับ 1 ในตลาดรถกระบะดัดแปลงต่อเนื่องมาเป็นเวลา 10 ปี ในขณะเดียวกัน คัมรี ก็ครองอันดับ 1 ในตลาดรถยนต์ขนาดกลาง ส่วนไฮเอซก็ครองอันดับ 1 ตลอดกาลเช่นกันสำหรับในตลาดรถตู้ ซึ่งเราขอแสดงความขอบคุณต่อลูกค้าคนสำคัญและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่านที่ได้สนับสนุนเราเป็นอย่างดีเสมอมา”

สรุปยอดขายรถปี 2564

สถิติการขายรถยนต์ของโตโยต้าในปี 2564

ยอดขายปี 2564

การเปลี่ยนแปลงเทียบกับปี 2563

ส่วนแบ่งตลาด

ปริมาณการขายโตโยต้า

239,723 คัน

-1.9%

31.6%

รถยนต์นั่ง

62,403 คัน

-8.4%

24.8%

รถเพื่อการพาณิชย์

177,320 คัน

+0.7%

35.0%

รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง)

151,501 คัน

+1.2%

38.5%

รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง)

128,639 คัน

-1.0%

37.7%

สรุปยอดขายรถปี 2564

แนวโน้มยอดขายรถยนต์ไทยในปี 2565

มร. ยามาชิตะ กล่าวถึงแนวโน้มอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในปี 2565 ว่า “เป็นไปได้ว่าโควิด-19 จะยังคงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย อย่างไรก็ดี เราคาดการณ์ว่า อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยจะกลับคืนสู่สภาวะปกติอย่างค่อยเป็นค่อยไปพร้อมๆ กับการฟื้นตัวของภาคเศรษฐกิจโดยรวมทั้งหมด นอกจากนี้ ประชาชนเองก็เรียนรู้วิธีการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับสถานการณ์โรคโควิด-19 ให้ได้อย่างปลอดภัยแล้ว ส่วนปัญหาชิ้นส่วนการผลิตขาดตลาดก็จะค่อยๆ คลี่คลายลงเช่นกัน เราคาดหวังว่าอุตสาหกรรมยานยนต์จะกลับคืนสู่สภาวะปกติและคาดการณ์ว่ายอดขายรถยนต์ในปี 2565 จะอยู่ที่ 860,000 คัน หรือเพิ่มขึ้น 13.3% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว”

ประมาณการยอดขายรถยนต์ในประเทศปี 2565

ยอดขายประมาณการปี 2565

เปลี่ยนแปลงเทียบกับปี 2564

ปริมาณการขายรวม

860,000 คัน

+ 13.3%

รถยนต์นั่ง

292,500 คัน

+ 16.2%

รถเพื่อการพาณิชย์

567,500 คัน

+ 11.9%

 มรยามาชิตะ กล่าวเสริมว่า “สำหรับโตโยต้า เราตั้งเป้ายอดขายอยู่ที่ 284,000 คัน หรือเพิ่มขึ้น 18.5% โดยครองส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 33%”

สรุปยอดขายรถปี 2564

ประมาณการยอดขายรถยนต์โตโยต้าในปี 2565

ยอดขายประมาณการปี 2565

เปลี่ยนแปลงเทียบกับปี 2564

ส่วนแบ่งตลาด

ปริมาณการขายโตโยต้า

284,000 คัน

+ 18.5%

33.0%

รถยนต์นั่ง

81,000 คัน

+ 29.8%

27.7%

รถเพื่อการพาณิชย์

203,000 คัน

+ 14.5%

35.8%

รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง)

175,932 คัน

+ 16.1%

40.6%

รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง)

149,000 คัน

+ 15.8%

39.8%

สรุปยอดขายรถปี 2564

ปริมาณการส่งออกรถยนต์และการผลิตของโตโยต้าในปี 2564

"ในด้านการส่งออกรถยนต์ ในปี 2564 โตโยต้าได้ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปไปราว 292,000 คัน หรือเพิ่มขึ้น 35.5% จากปี 2563 โดยยอดรวมการผลิตรถยนต์สำหรับการขายภายในประเทศและการส่งออกในปี 2564 มีจำนวนทั้งสิ้น 514,000 คัน หรือเพิ่มขึ้น 16.1% จากปี 2563"

ปริมาณการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปและการผลิตของโตโยต้าในปี 2564

ปริมาณในปี 2564

เปลี่ยนแปลงเทียบกับปี 2563

ปริมาณการส่งออก

292,000 คัน

+ 35.5%

ยอดผลิตรวมทั้งส่งออกและการขายในประเทศ

514,000 คัน

+ 16.1%

สรุปยอดขายรถปี 2564

เป้าหมายการส่งออกรถยนต์และการผลิตของโตโยต้าในปี 2565

"สำหรับเป้าหมายการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปของโตโยต้าในปีนี้ เราคาดว่าความต้องการของตลาดต่างประเทศจะเพิ่มสูงขึ้น โดยเราตั้งเป้าปริมาณการส่งออกรถยนต์อยู่ที่ 371,000 คัน หรือเพิ่มขึ้น 27.2% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และเราตั้งเป้าการผลิตรถยนต์ทั้งหมดของปี 2565 อยู่ที่ ราว 647,000 คัน หรือเพิ่มขึ้น 25.9% จากปีที่ผ่านมา"

เป้าหมายการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปและการผลิตของโตโยต้าปี 2565

ปริมาณในปี 2565

เปลี่ยนแปลงเทียบกับปี 2564

ปริมาณการส่งออก

371,000 คัน

+ 27.2%

ยอดผลิตรวมทั้งส่งออกและการขายในประเทศ

647,000 คัน

+ 25.9%

สรุปยอดขายรถปี 2564

สรุปยอดขายรถปี 2564

ทิศทางการดำเนินธุรกิจของโตโยต้าในประเทศไทย    

มร.ยามาชิตะ กล่าวถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจของโตโยต้าในประเทศไทยว่า “ปีนี้เป็นปีที่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมาครบ 60 ปี และเรากำลังเตรียมพร้อมก้าวเข้าสู่อนาคตที่สดใสยิ่งขึ้น พร้อมปรับเปลี่ยนตัวเราเองสู่การ ‘เป็นผู้นำพาการขับเคลื่อนยุคใหม่เพื่อเสริมสร้างความสุขของผู้คน และความยั่งยืนของสังคม’ เราขอให้คำมั่นว่าจะมอบความสุขให้กับประชาชนชาวไทยและ ‘เติบโตเคียงคู่ไปกับสังคมไทย’ ผ่านการนำเสนอยานยนต์เพื่อการขับเคลื่อน ตลอดจนบริการและโซลูชั่นส์ต่างๆ เพื่อส่งเสริมการขับเคลื่อนด้วยเช่นกัน โดยเราได้ออกแบบโลโก้ฉลองครบรอบ 60 ปีที่มาพร้อมกับแท็กไลน์ ‘Move Your World’ หรือในภาษาไทยคือ ‘ร่วมขับเคลื่อนอนาคต’ เพื่อสะท้อน ‘พลังและการขับเคลื่อนไปข้างหน้า’ แสดงให้เห็นว่าในอนาคต โตโยต้าจะนำเสนอยานยนต์พลังงานไฟฟ้าเพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ตลอดจนสร้างสรรค์เทคโนโลยีการเชื่อมต่อเพื่อให้ลูกค้าได้รับการบริการที่ยอดเยี่ยมสมบูรณ์แบบ”

สรุปยอดขายรถปี 2564

“ด้วยความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเศรษฐกิจ ยกระดับคุณภาพชีวิต และส่งเสริมความสุขที่ยั่งยืนให้กับประเทศไทย เรายังจะร่วมเสริมสร้างสังคมและสิ่งแวดล้อมโดยสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน โตโยต้าจะเดินหน้าผลักดันภารกิจของเราในการขับเคลื่อนสังคมไทยสู่ ‘ยุคแห่งการพัฒนาอย่างยั่งยืน’ ผ่านการดำเนินงานหลักในด้านต่างๆ ภายใต้กรอบของเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ทั้งหมดนี้เราอยากขอแสดงความขอบคุณจากใจจริงอีกครั้งต่อภาครัฐ ลูกค้าผู้มีอุปการคุณ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่านที่ได้สนับสนุนเราอย่างดีตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา” มร. ยามาชิตะ กล่าวในท้ายที่สุด

ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนธันวาคม 2564

1.)  ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 91,010 คัน ลดลง 12.6%          

อันดับที่โตโยต้า

27,150 คัน

ลดลง 18.2%

ส่วนแบ่งตลาด 29.8%

อันดับที่ 2 อีซูซุ

18,801 คัน

ลดลง 18.0%

ส่วนแบ่งตลาด 20.7%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า

11,556 คัน

เพิ่มขึ้น 14.7%

ส่วนแบ่งตลาด 12.7%

 2.) ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 31,917 คัน ลดลง 16.3%                    

อันดับที่ 1 ฮอนด้า

8,763 คัน

เพิ่มขึ้น 4.6%

ส่วนแบ่งตลาด 27.5%

อันดับที่โตโยต้า

7,347 คัน

ลดลง 16.6%

ส่วนแบ่งตลาด 23.0%

อันดับที่ 3 ซูซูกิ

2,776 คัน

ลดลง 14.8%

ส่วนแบ่งตลาด 8.7%

 3.) ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 59,093 คัน ลดลง 10.4%       

อันดับที่โตโยต้า

19,803 คัน

ลดลง 18.8%

ส่วนแบ่งตลาด 33.5%

อันดับที่ 2 อีซูซุ

18,801 คัน

ลดลง 18.0%

ส่วนแบ่งตลาด 31.8%

อันดับที่ฟอร์ด

4,117 คัน

ลดลง 10.4%

ส่วนแบ่งตลาด 7.0%

4.) ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน  (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV) 

ปริมาณการขาย 42,785 คัน ลดลง 16.9% 

อันดับที่ 1 อีซูซุ

16,908 คัน

ลดลง 21.6%

ส่วนแบ่งตลาด 39.5%

อันดับที่ 2 โตโยต้า

16,733 คัน

ลดลง 16.8%

ส่วนแบ่งตลาด 39.1%

อันดับที่ฟอร์ด

4,117 คัน

ลดลง 10.4%

ส่วนแบ่งตลาด 9.6%

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน: 6,280 คัน

โตโยต้า 2,459 คัน – อีซูซุ 1,990 คัน – มิตซูบิชิ 872 คัน – ฟอร์ด 707 คัน – นิสสัน 252 คัน

 5.) ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 36,505 คัน ลดลง 17%

อันดับที่อีซูซุ

14,918 คัน

ลดลง 20.5%

ส่วนแบ่งตลาด 40.9%

อันดับที่โตโยต้า

14,274 คัน

ลดลง 18.0%

ส่วนแบ่งตลาด 39.1%

อันดับที่ฟอร์ด

3,410 คัน

ลดลง 8.8%

ส่วนแบ่งตลาด 9.3%

สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – ธันวาคม 2564

1.) ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 759,119 คัน ลดลง 4.2%            

อันดับที่ 1 โตโยต้า

239,723 คัน

ลดลง 1.9%

ส่วนแบ่งตลาด 31.6%

อันดับที่ 2 อีซูซุ

184,160 คัน

เพิ่มขึ้น 1.6%

ส่วนแบ่งตลาด 24.3%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า

88,692 คัน

ลดลง 4.7%

ส่วนแบ่งตลาด 11.7%

2.) ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 251,800 คัน ลดลง 8.4%

อันดับที่ 1 ฮอนด้า

76,886 คัน

ลดลง 0.7%

ส่วนแบ่งตลาด 30.5%

อันดับที่ 2 โตโยต้า

62,403 คัน

ลดลง 8.4%

ส่วนแบ่งตลาด 24.8%

อันดับที่มาสด้า

19,800 คัน

ลดลง 20.3%

ส่วนแบ่งตลาด 7.9%

 3.) ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 507,319 คัน ลดลง 1.9% 

อันดับที่อีซูซุ

184,160 คัน

เพิ่มขึ้น 1.6%

ส่วนแบ่งตลาด 36.3%

อันดับที่ 2 โตโยต้า

177,320 คัน

เพิ่มขึ้น 0.7%

ส่วนแบ่งตลาด 35.0%

อันดับที่ฟอร์ด

32,329 คัน

เพิ่มขึ้น 8.3%

ส่วนแบ่งตลาด 6.4%

4.) ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV) 

ปริมาณการขาย 393,476 คัน ลดลง 3.9%

อันดับที่ 1 อีซูซุ

167,180 คัน

ลดลง 0.8%

ส่วนแบ่งตลาด 42.5%

อันดับที่ 2 โตโยต้า

151,501 คัน

เพิ่มขึ้น 1.2%

ส่วนแบ่งตลาด 38.5%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด

32,329 คัน

เพิ่มขึ้น 8.3%

ส่วนแบ่งตลาด 8.2%

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน : 52,024 คัน

โตโยต้า 22,862 คัน – อีซูซุ 16,439 คัน – มิตซูบิชิ 6,619  คัน – ฟอร์ด 5,025 คัน –  นิสสัน 1,079 คัน 

5.) ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 341,452 คัน ลดลง 6.4%

อันดับที่ 1 อีซูซุ

150,741 คัน

ลดลง 6.0%

ส่วนแบ่งตลาด 44.1%

อันดับที่ 2 โตโยต้า

128,639 คัน

ลดลง 1.0%

ส่วนแบ่งตลาด 37.7%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด

27,304 คัน

เพิ่มขึ้น 11.4%

ส่วนแบ่งตลาด 8.0%

 ตลาดรถมือสอง มีรถมากมายให้เลือกในราคาที่ถูกใจ

แท็ก Toyota