MINI Cooper SE รถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นแรกจากมินิ พิสูจน์การใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าทางไกลข้ามจังหวัด เส้นทางกรุงเทพฯ - เขาใหญ่ แต่ละที่เป็นอย่างไร ใช้เวลาเท่าไหร่
มินิ ประเทศไทย นำสื่อมวลชนสัมผัสประสบการณ์ขับขี่รถยนต์พลังงานไฟฟ้าล้วนเพื่อการใช้งานจริงบนท้องถนน ไปกับ MINI Cooper SE รถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นแรกจากมินิ พิสูจน์การใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าทางไกลข้ามจังหวัด เส้นทางกรุงเทพฯ - เขาใหญ่
อ่านเพิ่มเติม - ฟอร์ด จัดทีมช่วยรถฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง มีรถทดแทนระหว่างซ่อม ส่งมอบรถถึงที่ฟรี
ในการทดสอบรถยนต์ MINI Cooper SE บนเส้นทางจริงในครั้งนี้ ที่ทำให้เราได้มีโอกาสเรียนรู้วิธีการใช้งานแอปพลิเคชั่น MINI Connected ซึ่งสามารถเช็คสถานะรถยนต์และรองรับการสั่งงานระยะไกลได้ และการใช้งานแอปพลิเคชั่นบริการจาก PEA VOLTA จากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ PEA, EleX จากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ EGAT, และ EA Anywhere จากบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ที่จะช่วยให้การค้นหาสถานีอัดประจุไฟฟ้า การตรวจสอบอัตราค่าบริการ การเติมเงินและชำระเงิน
ซึ่งสถานีประจุไฟฟ้าแบบ DC Fast Charge ตามเส้นทางไปเขาใหญ่มีดังนี้
มิติรถยังคงความคล่องตัวในสไตล์มินิ มาในโครงสร้าง 3 ส่วนเช่นมินิรุ่นอื่น ๆ ประกอบไปด้วยโครงสร้างตัวถัง หน้าต่างรอบด้านและหลังคารถ การออกแบบให้ล้ออยู่ใกล้กับกันชน หรือระยะแฮงค์โอเวอร์สั้น ฐานล้อกว้าง เป็นฟีลลิ่งแบบการขับโกคาร์ท สิ่งเหล่านี้ล้วนสื่อถึงดีเอ็นเอของ MINI
การออกแบบดูล้ำสมัย ส่วนฝาครอบที่ชาร์จไฟฟ้าอยู่เหนือล้อหลังด้านขวา ซึ่งเป็นตำแหน่งเดียวกับฝาถังน้ำมันของมินิ 3 ประตู บนฝาแสดงสัญลักษณ์ MINI Electric เพื่อสร้างความแตกต่างระหว่างการใช้เชื้อเพลิงน้ำมันและการใช้พลังงานไฟฟ้า ที่มีบริเวณกรอบไฟเลี้ยวด้านข้าง ประตูท้ายรถ กระจังหน้า และการใช้สี สะดุดตาด้วยแถบสีเหลืองรับกับฝาครอบกระจกข้างในสีเดียวกันที่ทำให้รถดูล้ำ ๆ
ดีไซน์กระจังหน้ามาในกรอบทรงหกเหลี่ยมสีดำขนาดที่ใหญ่ ไฟหน้าทรงกลมเอกลักษณ์ของมินิ ไฟท้ายลายธงยูเนียนแจ็ค ใต้ท้องรถที่มีแผ่นปิดเกือบรอบคัน มีส่วนช่วยลดแรงต้านของอากาศ ซึ่งเมื่อปราศจากท่อไอเสีย อากาศจึงสามารถไหลผ่านใต้ท้องรถไปยังท้ายรถได้ดี
ล้ออัลลอยน้ำหนักเบาขนาด 17 นิ้ว ลาย MINI Electric Corona พร้อมยางรันแฟลต พิเศษเฉพาะใน MINI Cooper SE
ภายในมาพร้อมเบาะผ้าสีดำ Carbon Black ลาย Double Stripe ระบบแอร์แบบ 2 โซน สามารถสั่งงานระยะไกลจากแอปพลิเคชั่น MINI Connected ตั้งเวลาเพื่อเปิดแอร์ล่วงหน้าได้
แผงหน้าปัดจอแสดงผลสีดิจิทัลขนาด 5.5 นิ้ว ในดีไซน์ Black Panel ด้านหลังพวงมาลัย ระบบสัมผัสขนาด 6.5 นิ้วบริเวณแผงคอนโซล ออกแบบมาเพื่อรองรับการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าโดยเฉพาะ เช่น จอ eDrive ที่แสดงข้อมูลเกี่ยวกับการใช้พลังงานและระยะทางที่วิ่งได้ โดยทวางดีไซน์เป็นทรงกลมที่ทำให้รู้สึกถึงความเป็น MINI
ขุมกำลังมอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 184 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 270 นิวตันเมตร เร่ง 0 ถึง 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 3.9 วินาที และ 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 7.3 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เซลล์แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนจำนวน 12 โมดูล ติดตั้งในรูปทรงตัว T บริเวณใต้รถ จุพลังงานไฟฟ้ารวม 32.6 กิโลวัตต์ชั่วโมง เคลมระยะวิ่ง 203-234 กิโลเมตรเมื่อไฟเต็มประจุ ตามมาตรฐาน WLTP
รองรับหัวชาร์จทั้ง AC และ DC แบบ Type 2 และหัวชาร์จ CCS Combo 2 รองรับสายชาร์จทั้งแบบมาตรฐานและสายชาร์จจาก MINI ELECTRIC Wallbox รองรับกำลังไฟได้สูงสุด 11 กิโลวัตต์ ชาร์จถึง 80 เปอร์เซ็นต์ภายใน 2.5 ชั่วโมง และชาร์จเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ภายใน 3.5 ชั่วโมง ส่วนระบบ DC Fast Charge ที่รองรับกำลังไฟได้สูงสุด 50 กิโลวัตต์ สามารถชาร์จถึง 80 เปอร์เซ็นต์ได้ภายในเวลา 36 นาที
รถสามารถตั้งค่าต่าง ๆ ตามสภาวะการขับขี่และรูปแบบการขับขี่ที่เฉพาะตัวของแต่ละบุคคล โดยมาพร้อมโหมดการขับขี่ 4 รูปแบบ ได้แก่ Sport, MID, GREEN, และ GREEN+ ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มระยะทางในการขับขี่
จากจุดสตาร์ท
จุดหมายแรก
ปั๊มน้ำมันบางจาก แก่งคอย
ชาร์จไฟฟ้า 20 นาทีคิดเป็นเงิน 104.68 บาท
จากการทดสอบ MINI Cooper SE คันที่ทดสอบ มีการแสดงผลระยะวิ่งที่ 172 กม. และจุดหมายแรกคือ ปั๊มน้ำมันบางจาก แก่งคอย (PEA VOLTA) ซึ่งเหลือระยะ 73 กม. ทดสอบการชาร์ระบบ DC การจ่ายไฟ 50 kW ได้ชาร์จไป 13.687 kW ในเวลา 20 นาทีคิดเป็นเงิน 104.68 บาท ได้ระยะวิ่งกลับมาที่ 152 กม. เพิ่มจากเดิม 79 กม.
จุดหมายที่สอง ปั๊มน้ำมันพีที ปากช่อง (EleX)
ชาร์จ 13 นาที ชาร์จไฟไป 10.981 kWh ค่าไฟ 82.36 บาท
ระยะทางก่อนออกจากจุดที่สอง
จุดหมายที่สอง ปั๊มน้ำมันพีที ปากช่อง (EleX) ระยะวิ่งเหลือ 74 กม. ใช้ระยะเวลาชาร์จ 13 นาที ชาร์จไฟไป 10.981 kWh ค่าไฟ 82.36 บาท ได้ระยะทาง 133 กม. เพิ่มจากเดิม 59 กม.
ระยะทางเมื่อถึงจุดชาร์จที่สาม
ชาร์จ 42 นาที ชาร์จไฟไป 8.55 kWh ค่าไฟ 55.58 บาท
โรงแรม เดอะ เภรี เขาใหญ่ (EA Anywhere)
จุดหมายที่สาม โรงแรม เดอะ เภรี เขาใหญ่ (EA Anywhere) ระยะวิ่งเหลือ 117 กม. ใช้ระยะเวลาชาร์จ 42 นาที ชาร์จไฟไป 8.55 kWh ค่าไฟ 55.58 บาท ได้ระยะทาง 153 กม. แบตเต็มประจุ ทั้งที่เคลมไว้ 217 กม. เราได้เตรียมวางแผนหาจุดชาร์จระหว่างกลับ
แต่วิ่งออกมาถึงสระบุรีแล้วก็พบว่าระยะทางบนหน้าปัดยังเหลือ 130 กม. จึงเดินทางกลับเข้ากรุงเทพระยะทางตามแผนที่ 159 กม. แบบไม่แวะชาร์จ พบว่าถึงกรุงเทพฯ MINI Cooper SE เหลือระยะทางอยู่ที่ 63 กม. แบบชิล ๆ
การเดินทางด้วย MINI Cooper SE ไปเขาใหญ่เราเสียค่าชาร์จไฟหมดทั้งสิ้น 242.62 บาท ต่อระยะทาง 310 กม. ค่าใช้จ่ายต่อกม. 0.8 บาท/กม.
จากการเทสต์ครั้งนี้ ทำให้เราพบว่าการชาร์จไฟยังพบความยากลำบากในการเลือกชาร์จไฟพอสมควร ต้องผ่านแอพฯ การเชื่อมต่อชาร์จไฟฟ้ายังคงต้องใช้โหลดและปรับการใช้งานตามแต่ผู้ให้บริการ รวมถึงขั้นตอนชำระเงินที่ยังคงไม่ค่อยสะดวกที่เลือกจ่ายผ่าน QR Code ไม่ได้เชื่อมต่อกับระบบ Internet Banking
บางจุดชาร์จไม่สะดวกต่อการรอที่ไม่มีจุดพักให้ผู้ขับ รวมถึงการบริการตนเองบางจุด ไม่มีที่บังแดด ในเวลาเที่ยงวันแต่ต้องมาเสียบชาร์จและถอดเก็บเป็นเรื่องที่เหนื่อยเอาการ นอกจากนี้ยังพบปัญหาด้านการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต ทั้งของผู้ใช้งานและตัวระบบตู้ชาร์จของผู้ให้บริการที่อาจมีปัญหาการเชื่อมต่อได้
แต่มั่นใจได้ว่าตอนนี้สถานีชาร์จเริ่มครอบคลุมตามเส้นทางสายหลัก และอยู่ร่วมกับปั๊มน้ำมัน ทำให้การขับรถยนต์ไฟฟ้า 100% ไม่ต้องมาคอยเตรียมตัว หรือวางแผนให้ยุ่งยากต่อการเดินทางอีกต่อไป
ด้าน MINI Cooper SE แม้ระยะเคลมจะอยู่ราว ๆ 200 กม. แต่เราก็พบว่าระยะเคลมนี้เป็นตัวเลขที่สามารถวิ่งได้จริง.... คำนวนระยะทางที่วิ่งได้อย่างแม่นยำ เป็นจุดที่แตกต่างจากรถยนต์ไฟฟ้าจากแบรนด์ฝั่งเอเชีย ที่ระยะทางวิ่งจริงจะทำได้น้อยกว่าที่แผงหน้าปัดแจ้งประมาณ 30% เลยทีเดียว ด้านสมรรถนะของรถเหลือเฟือกับการใช้งาน หากคุณได้สัมผัสก็จะเข้าใจได้ว่า MINI ก็คือ MINI
ตลาดรถมือสอง มีรถมากมายให้เลือกในราคาที่ถูกใจ