จากเหตุการณ์ออกนโยบายของรัฐบาลที่ปรับเปลี่ยนช่วงเวลาการใช้งานรถบรรทุกบนท้องถนนของรัฐบาลนั้น เกิดเป็นประเด็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะกลุ่มบุคคลที่รับผลกระทบเรื่องนี้และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ล่าสุดทางสหพันธ์การขนส่งฯ ออกมาคัดค้าน พร้อมให้เหตุผลว่าจะส่งผลกระทบแก่หลายฝ่าย
หากใครที่ได้ติดตาม สถานการณ์การอภิปรายในสภาช่วงที่ผ่านมานี้ คงจะได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารบ้าง ถึงเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการจัดการทางคมนาคม ที่ทางรัฐบาลออกมาเปิดเผยและประกาศว่าจะนำมาปรับใช้ ทั้งเรื่องของการควบคุมความเร็ว การส่งเสริมน้ำมันดีเซล B20 การส่งเสริมแกร็บถูกกฎหมาย เป็นต้น ซึ่งนโยบายเหล่านี้ได้รับกระแสการตอบรับทั้งแง่บวกและลบ เป็นสัญญาณให้รัฐบาลเข้าใจว่าทุกอย่างต้องมีการดำเนินที่ค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป ยังไม่สามารถตัดสินและออกกฎออกมาใช้งานได้อย่างเด็ดขาด ณ ตอนนี้เช่นเดียวกับอีกหนึ่งนโยบาย ที่ทางสหพันธ์กรมการขนส่งออกมาคัดค้านไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล ถึงเรื่องของการปรับเปลี่ยนเวลาวิ่งของรถบรรทุก โดยเปิดเผยว่าการปรับเปลี่ยนกฎนี้จะส่งผลกระทบต่อหลายภาคส่วน พร้อมขอให้ผู้ออกนโยบาลทบทวนและไตร่ตรองใหม่อีกครั้งก่อนจะประกาศบังคับใช้จริง โดยรายละเอียดถึงเรื่องนี้เป็นอย่างไรบ้าง เราลองมาวิเคราะห์กันดู
รัฐบาลกำลังวางแผนแก้ไขปัญหารถติดแบบเร่งด่วน
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นโยบายที่คิดแก้ไขปัญหาจราจร โดยปรับเวลาการเดินรถของรถยรรทุกขนาด 10 ล้อขึ้นไป ให้เข้าเขตพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล เฉพาะช่วงเวลา 24.00 - 04.00 น. เท่านั้น จากเดิมเวลา 10.00 - 15.00 น. เพื่อสอดรับกับนโยบายของนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ต้องการแก้ไขปัญหาจราจร โดยเผยว่านโยบายดังกล่าวเป็นเรื่องที่ต้องเร่งและศึกษาให้ชัดเจนภายใน 1 เดือน พร้อมอ้างอิงว่าโมเดลนี้เป็นนโยบายที่ต่างประเทศบังคับใช้กันหมดแล้ว และถึงเวลาที่ทางประเทศไทยจึงควรนำมาปรับใช้สักที
ดูเพิ่มเติม
>> ปรับเพิ่มความเร็วรถ 120 กม./ชม. แก้ปัญหารถติดได้จริงหรือ?
>> พวกขับช้าแช่ขวาเตรียมโดนจับ พร้อมเพิ่มความเร็ว 120 กม./ชม.บนทางหลวง
นายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยออกมาเปิดเผยว่าทางขนส่งเข้าใจแนวคิดของนโยบายจากรัฐบาลเรื่องนี้ แต่แผนปรับเปลี่ยนเวลาดังกล่าวจะกระทบกับผู้ประกอบการรถบรรทุกทุกภาคส่วนตั้งแต่กระบวนการผลิต จนไปถึงกระบวนการขนส่งไปยังผู้บริโภค โดยให้เหตุผลรองรับว่าการขนส่งสินค้าของเหล่ารถบรรทุกเหล่าได้ทำการขนส่งในเวลาดังกล่าวมานาน 30-40 ปีแล้ว หากมีการปรับเปลี่ยนอย่างกะทันหันจะส่งผลกระทบต่อระบบการทำงานแน่นอน เพราะกระบวนการขนส่งและผู้บริโภคจำเป็นต้องใช้สินค้าในช่วงกลางวันดังนั้นหากถ้าขนส่งในช่วงการคืนจะทำให้เสียเวลาการขนส่งเพิ่มอีก 1 วัน เพื่อให้มีสินค้าส่งในวันถัดไปได้ทัน ส่งผลให้การขนส่งสินค้ามีความล่าช้าและมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอย่างการทำงานล่วงเวลาเป็นต้น หรือถ้าหากให้ปรับเป็นส่งสินค้าล่วงหน้า ก็ไม่ใช่ทุกรายการที่จะสามารถทำได้ เพราะบางอย่างในสายการผลิตมีการกำหนดเวลาและอายุการใช้งานของสินค้าเอาไว้ หากจะต้องปรับตัวตามนโยบายใหม่ อาจจะต้องมีการปรับโครงสร้างในสายการผลิตและการขนส่ง ซึ่งแน่นอนว่ามีเรื่องของเวลาและค่าใช้จ่ายเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งนั่นก็จะกลายเป็นปัญหาที่ทางรัฐบาลเองก็คงไม่ได้เข้ามาช่วยเหลือในส่วนของฝ่ายผู้ประกอบการ
มีรถบรรทุกจดทะเบียนในไทยกว่า 1 ล้านคันทั่วประเทศในปัจจุบัน
นายอภิชาติได้เผยอีกว่า ในปัจจุบันมีการจดทะเบียนรถบรรทุกทั่วประเทศประมาณ 1 ล้านกว่าคัน แบ่งเป็นรถบรรทุกที่สิ่งให้บริการในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลประมาณ 30-40% หรือคิดเป็น 3-4 แสนคัน อีกส่วนจะสิ่งเส้นทางจากท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ไปยังพื้นที่ภาคเหนือ-ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ ซึ่งบางครั้งจำเป็นต้องใช้เส้นทางผ่านพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑลด้วย โดยรถบรรทุกที่วิ่งในช่วงกลางวันนั้น ส่วนใหญ่จะขนส่งสินค้าประเภทอุปโภค บริโภค น้ำมัน และปูนซีเมนต์และนั่นอาจเป็นปัญหาหากต้องบังคับกฎให้ครอบคลุม เพราะรถบรรทุกที่จำเป็นที่ต้องเข้าเมืองกรุงเทพฯ นั้น อาจเป็นเพียงรถที่ใช้เส้นทางเพื่อเป็นทางผ่านเท่านั้น อีกทั้งสินค้าที่จัดส่งก็จำเป็นที่ต้องไปถึงมือผู้บริโภคตามเวลา ถ้าหากให้ส่งช่วงเวลากลางคืนก็ต้องเสียเวลาจัดการตารางการขนส่งใหม่ เพราะปลายทางเองก็เปิดทำการช่วงกลางวันแทบจะทั้งสิ้นก็ว่าได้
จากการอ้างอิงของรัฐบาลที่กล่าวว่าที่ต่างประเทศมีการนำนโยบายนี้มาใช้แล้วในหลายพื้นที่ หากจากพิจารณาและหาข้อมูลจะพบว่าไม่ใช่ทุกพื้นที่ที่แก้ปัญหาเรื่องนี้เพียงแค่การปรับเวลาวิ่งเพียงเดียว อย่างเช่นที่สิงคโปร์ การจำกัดรถบรรทุกเข้า-ออกพื้นที่เขตเมืองด้วยการกำหนดเลขทะเบียนรถให้วิ่งในวันคู่-วันคี่ เพื่อเป็นการกระจายและรักษาของโครงสร้างของระบบการขนส่ง ไม่ใช่เป็นการห้ามรถบรรทุกวิ่งในเวลาที่กำหนดขึ้นมาเอง ดังนั้นจึงควรพิจารณาและหาข้อมูลจากหลาย ๆ แหล่งเพื่อสร้างแนวทางที่เหมาะสมในการปรับเปลี่ยนและกำหนดนโยบายใหม่ที่จะไม่กระทบต่อส่วนอื่นจนสร้างผลเสียมากกว่าผลดี
ขนส่งชี้การแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ต้องได้รับความร่วมจากหลายฝ่าย
การจะปรับเปลี่ยนนโยบายเรื่องนี้ ขนส่งกล่าวแนะนำกับรัฐบาลว่าจะเป็นที่จะต้องเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเช่นสหพันธ์ฯ สภาอุตสาหกรรม หอการค้า กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กรมทางหลวง (ทล.) และตำรวจ ประชุมหารือร่วมกันเพื่อหาทางออกที่ดีและเหมาะสมมากกว่านี้ รวมไปถึงเรื่องการแก้ปัญหารถติดที่ได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่ายไม่ใช่แก้ที่รถบรรทุกเพียงอย่างเดียวแล้วจะได้ผล ดังนั้นจึงให้รัฐบาลกลับไปทบทวนแนวคิดถึงเรื่องนี้อีกครั้ง เพื่อความลงตัวและสร้างความสะดวกแก่ทุกภาคส่วนอย่างเท่าเทียม
ขนส่งไม่ตกลงสิ่งนี้ ค้านนโยบายรถบรรทุกวิ่งช่วงกลางคืน เผยกระทบหลายภาคส่วน
ยังไม่ทันจะได้วางแนวทางนโยบายอย่างเป็นรูปร่างที่ชัดเจนก็มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาแจ้งว่าไม่เห็นด้วยเสียแล้ว เห็นทีทางรัฐบาลอาจจะต้องศึกษาและทำการบ้านเพิ่มเติม หากยืนยันที่จะปรับและกำหนดนโยบายให้เป็นไปตามรูปแบบที่เสนอดัังกล่าว คงต้องหาข้อมูลมาชี้แจงและอภิปรายให้ชัดเจนว่าแนวคิดที่นำเสนอไปจะช่วยแก้ปัญหาได้จริงอย่างอย่างยั่งยืน พร้อมหาแนวทางช่วยเหลือฝ่ายที่ได้รับผลกระทบจริงเพื่อผลักดันให้นโยบายสามารถดำเนินการต่อไปได้อย่างที่ตั้งใจไว้ได้โดยดี
ดูเพิ่มเติม
>> ดีเดย์ส.ค.62 กล้อง 30 ตัวประจำแยกเมืองกรุง จับ "ฝ่าไฟแดง"
>> กฎข้อบังคับสิงห์รถบรรทุกต้องรู้ !!
ติดตามข่าวสารรถยนต์ คลิกที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้