ส่อง 5 รถรุ่นฮิตใน “ตลาดรถ” ตัวไหนกินน้ำมันจุกว่ากัน

ประสบการณ์ใช้รถ | 4 ก.ค 2562
แชร์ 4

Chobrod พาไปเปิดกระโปรงหน้า 5 รถรุ่นนิยมในตลาดรถบ้านเรา หาคำตอบการกินน้ำมัน มันกินจุกินน้อยแค่ไหน

น้ำมันเเพงเราไม่ต้องกลัว มี 5 รถรุ่นฮิตใน “ตลาดรถ” ประหยัดน้ำมันที่สุด

น้ำมันเเพงเราไม่ต้องกลัว มี 5 รถรุ่นฮิตใน “ตลาดรถ” ประหยัดน้ำมันที่สุด

อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะทำให้คนสนใจกับการเลือกซื้อรถยนต์คันใหม่ หนึ่งในเหตุผลคงหนีไม่พ้นว่ารถยนต์คันนั้น "ประหยัดน้ำมัน" มากน้อยแค่ไหน เพราะเราต้องยอมรับว่าปัญหาราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในบ้านเราหรือแม้แต่ทั่วโลกก็ตามมันค่อนข้างจะพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ขณะเดียวกันผู้คนทั้งโลกก็ต้องมีความจำเป็นในการเดินทางด้วยการใช้ "รถยนต์" ดังนั้น น้ำมันจึงเป็นเรื่องที่ต้องคำนึง

ประกอบกับทิศทางการใช้รถยนต์ไฟฟ้าก็ยังไม่กระจายครอบคลุมในหลายๆ ประเทศ และรวมถึงประเทศไทยด้วยเช่นกัน ที่ตลาดรถในกลุ่มนี้ยังคงไม่ได้รับความนิยมมากนักแม้จะอยู่ในช่วงการกระตุ้น พัฒนา ในทิศทางของรถยนต์ไฟฟ้าเองก็ตาม มันจึงทำให้หากใครที่จะเลือกซื้อเลือกหารถยนต์คันใหม่ในตลาดรถบ้านเรา ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์มือหนึ่งป้ายแดง หรือรถยนต์มือสองใช้แล้วก็ตาม ก็ยังคงมีตัวเลือกส่วนใหญ่คือรถยนต์น้ำมันเชื้อเพลิงอยู่

ไปดูกันว่า 5 รถยนต์รุ่นฮิตทั้งในตลาดรถไทยและตลาดรถเมืองนอก โรงงานผลิตแต่ละรุ่นเคลมการกินน้ำมันไว้เท่าไหร่

ไปดูกันว่า 5 รถยนต์รุ่นฮิตทั้งในตลาดรถไทยและตลาดรถเมืองนอก โรงงานผลิตแต่ละรุ่นเคลมการกินน้ำมันไว้เท่าไหร่ 

ดังนั้น เพื่อเป็นการค้นหาว่ารถยนต์แบรนด์ไหน รุ่นใดบ้าง ที่ใช้แล้วประหยัด มีอัตราการสิ้นเปลืองที่พอจะ "รับได้" โดยเฉพาะกับรถรุ่นนิยมของตลาดผู้บริโภคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทั้งโตโยต้า ฮอนด้า หรือมิตซูบิชิเองก็ตาม รถยนต์รุ่นไหนบ้างที่ใช้แล้วประหยัดน้ำมันมากกว่ากัน Chobrod จึงขอนำเสนอเป็นข้อมูลให้ผู้อ่านได้พิจารณา ไปเริ่มกันได้เลย

1. Mitsubishi Mirage ตัวนี้กินแค่ 23 กม./ลิตร

รุ่นแรกที่ขอนำเสนอคือ Mitsubishi Mirage โดยเฉพาะกับตัว Attrage ที่เปิดขายในตลาดรถเราไปเมื่อปี 2017 แลยังคงเป็นเครื่องยนต์บล็อกเดียวกันนี้ที่ขายในปัจจุบัน นั่นคือ เครื่องยนต์เบนซินแบบ 4 สูบ  MIVEC ความจุ 1.2 ลิตร ให้สมรรถนะสูงสุด 78 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมระบบ INC (Idle Neutral Control)  ที่ตัดระบบส่งกำลังไปยังเพลาขับอัตโนมัติในขณะที่รถยนต์หยุดนิ่ง และเหยียบเบรคในตำแหน่งเกียร์ D ช่วยลดภาระการทำงานของเครื่องยนต์  ซึ่งผลนี้เองมันทำให้การกินน้ำมันของเจ้า  Mitsubishi Mirage ค่อนข้างต่ำมากทีเดียว โดยโรงงานเคลมเอาไว้ว่ามันกินน้ำมันอยู่ที่ 23.3 กิโลเมตรต่อลิตร เท่านั้นสำหรับตัว Attrage และ ตัว Mirage จะกินน้ำมันที่ 23.8 กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งถือว่าต่ำอย่างมากทีเดียว

หากสนใจราคารถมือสอง Mitsubishi Mirage ดูได้ที่นี่

 Mitsubishi Mirage และ Attrage ตัวเล็กกินน้อย และเดินทางได้ไกลขึ้น

 Mitsubishi Mirage และ Attrage ตัวเล็กกินน้อย และเดินทางได้ไกลขึ้น 

2. Toyota Corolla ดีสุดด้วยพลังไฮบริด กินน้ำมัน 30 กม./ลิตร

ตัวนี้อยากจะนำเสนอเพราะสำหรับหากเราว่ากันเฉพาะตัวใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเข้าตลาดรถได้ไม่นาน ทั้ง 4 เครื่องยนต์ของ Toyota Corolla เวอร์ชั่นตลาดรถต่างประเทศและก็อาจจะเข้ามาในประเทศในบางรุ่นด้วย และสำหรับรถรุ่นนี้ก็มีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด เริ่มจากตัว 1.เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบชาร์จ 1.2 ลิตร มีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยอยู่ที่ 19.2 กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งเครื่องยนต์บล็อกนี้ จะให้กำลังสูงสุดที่ 114 แรงม้า แต่ก็ไม่ชัดเจนว่าจะเข้ามาเมืองไทยหรือไม่ 2. เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร ที่จะใส่ไว้ในตัวรุ่นซีดานที่คาดหมายว่าจะเป็น Toyota Corolla ที่เข้าไทย และสำหรับเจ้าเครื่องยนต์ตัวนี้จะมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 18.2 กิโลเมตรต่อลิตร 3.เครื่องยนต์ไฮบริด 1.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า ตัวเครื่องยนต์บล็อกนี้ของ Toyota Corolla น่าสนใจทีเดียว เพราะด้วยระบบส่งกำลังไฟฟ้าของมอเตอร์ที่เสริมแรงเข้ามา มันก็ช่วยให้อัตราการสิ้นเปลืองลดลงไปอีก โดยกินน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่แค่ 30.3 กิโลเมตรต่อลิตรเท่านั้น ขณะที่สำหรับ 4..เครื่องยนต์ไฮบริด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 180 แรงม้า จะกินมากหน่อยแต่ก็ไม่มากเกินไปเพราะมีอัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ราว 27 กิโลเมตรต่อลิตร

หากสนใจราคารถมือสอง Toyota Corolla ดูได้ที่นี่

Toyota Corolla ถ้าเป็นตัวไฮบริดแล้วล่ะก็ รับรองเดินทางได้ไกลมากขึ้น

Toyota Corolla ถ้าเป็นตัวไฮบริดแล้วล่ะก็ รับรองเดินทางได้ไกลมากขึ้น

Toyota Corolla ถ้าเป็นตัวไฮบริดแล้วล่ะก็ รับรองเดินทางได้ไกลมากขึ้น 

กระนั้นก็ตาม สำหรับรุ่นที่วิ่งกันอยู่ในท้องถนนเมืองไทย ซึ่งแน่นอนว่าในตระกูลนี้ของโตโยต้า ย่อมต้องเป็นเจ้า Toyota Corolla Altis โดยปัจจุบันพบว่ามันมีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยอยู่ที่ 15-16 กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งทั้งในกลุ่มเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.6 ลิตร และตัวเครื่องยนต์ 1.8 ลิตรเองเหมือนกัน

3. Honda Civic sedan 1.5L ตามมาตรฐาน 16 กม./ลิตร

เมื่อเอ่ยถึงโตโยต้า ก็จะไม่เอ่ยถึงค่ายคู่แข่งอย่างฮอนด้าเพื่อเปรียบเทียบก็คงผิดถนัด และแน่นอนว่าเราจะต้องเทียบกันกับ Honda Civic sedan 1.5L เท่านั้น สำหรับตัวนี้เป็นเรือธงของฮอนด้าที่ฮิตไม่น้อยในตลาดรถบ้านเรา และสาเหตุที่เราเลือกรุ่นนี้มาเปรียบเทียบก็เพราะมันถูกเปิดตัวสู่ตลาดรถเมื่อปี 2016 หรือเป็นโฉมใหม่ล่าสุดที่วิ่งบนถนนก่อนจะมีการเปิดตัวใหม่ในปีนี้สำหรับเป็นตัวลุยตลาดรถ 2020 และมันก็ทำให้คอรถยนต์มองว่าสวยงามดีทีเดียว อีกทั้งความนิยมยังรวมไปถึงตลาดต่างระเทศด้วยเหมือนกัน โดยมันใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร และมีอัตราการกินน้ำมันทีดีอยู่ไม่น้อย โดยมีอัตราเฉลี่ยอยู่ที่ 16.33 กิโลเมตรต่อลิตร

หากสนใจราคารถมือสอง ฮอนด้า ซีวิค 2021 ดูได้ที่นี่

อีกหนึ่งรุ่นฮิตในบ้านเรา Honda Civic sedan 1.5L ก็มีอัตรากินน้ำมันที่ถือว่ายังพอรับได้

อีกหนึ่งรุ่นฮิตในบ้านเรา Honda Civic sedan 1.5L ก็มีอัตรากินน้ำมันที่ถือว่ายังพอรับได้

อีกหนึ่งรุ่นฮิตในบ้านเรา Honda Civic sedan 1.5L ก็มีอัตรากินน้ำมันที่ถือว่ายังพอรับได้ 

ดูเพิ่มเติม
>> 
บางจากผนึก “อีซูซุ-โตโยต้า”กระตุ้น “กระบะ” หันมาใช้ดีเซล B20 มากขึ้น
>> จริงหรือไม่ ?! เติมน้ำมันผิดชีวิตพลิกผันจากเสียแค่หลัก “พัน” กลายเป็นหลัก “แสน”

4. Honda Fit/Jazz กินเบาๆ 15 กม./ลิตร

มาต่อกันที่ตัวยอดฮิตอีกคันในตลาดรถเมืองไทยและตลาดรถเอเชีย และเรายังอยู่กับค่ายฮอนด้า นั่นคือ  Honda Jazz หรือ  Honda Fit ที่เรียกกันในตลาดรถต่างประเทศ สำหรับรถยนต์รุ่นนี้เป็นที่นิยมอยู่มากเพราะดีไซน์ที่ทันสมัยเหมาะกับคนรุ่นใหม่และคนเมืองดีทีเดียว สำหรับบล็อกเครื่องยนต์ในรุ่นนี้จะเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ที่เป็นตัวเอกของค่ายรถฮอนด้า และมันกินน้ำมันในอัตราที่น่าสนใจโดยเฉพาะกับตัวปีใหม่ๆ เพราะมีค่าเฉลี่ยน้ำมันอยู่ที่ 15-16 กิโลเมตรต่อลิตรเช่นกันกับพี่ใหญ่ของมันอย่าง Honda Civic

เห็นตัวเล็กๆ อย่างนี้ แต่ Honda Jazz ก็กินน้ำมันสูสีกับรุ่นพี่อย่าง Civic เลยทีเดียว

เห็นตัวเล็กๆ อย่างนี้ แต่ Honda Jazz ก็กินน้ำมันสูสีกับรุ่นพี่อย่าง Civic เลยทีเดียว

เห็นตัวเล็กๆ อย่างนี้ แต่ Honda Jazz ก็กินน้ำมันสูสีกับรุ่นพี่อย่าง Civic เลยทีเดียว 

5. Toyota Yaris sedan อีโคคาร์ตัวฮิตกินน้ำมัน 16 กม./ลิตร

กับรุ่นสุดท้ายที่เราอยากจะนำเสนอ นั่นคือรถยนต์อีกรุ่นของค่ายโตโยต้าที่เหมาะกับคนเมืองอย่าง Toyota Yaris sedan ซึ่งก็ออกมาแต่ละรุ่นก็ได้รับกระแสตอบรับที่ดีในตลาดรถ เพราะขึ้นชื่อว่าโตโยต้าก็ได้คะแนนความชอบจากผู้บริโภคชาวไทยอยู่แล้ว และสำหรับ Toyota Yaris sedan นั่นหากเป็นรถยนต์รุ่นใหม่จะถูกจัดให้เข้าไปอยู่ในหมวดของอีโคคาร์ ซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นรถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่จะว่าประหยัดหรือเปล่านั้น คำตอบคือจากการใส่เครื่องยนต์แบบเบนซิน  4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว Dual VVT-i ขนาด 1.2 ลิตร ตรงตามสเป็กต์รถยต์อีโคคาร์ทุกอย่าง แต่ที่น่าสนใจคือมันมีอัตราค่าเฉลี่ยการกินน้ำมันอยู่ที่ 16.88 กิโลเมตรต่อลิตร อันเป็นตัวเลขที่เคลมมากจากโรงงงาน

หากสนใจราคารถมือสองToyota Yaris ดูได้ที่นี่

Toyota Yaris sedan ก็กินน้ำมันอยู่ที่ค่าเฉลี่ย 16 กิโลเมตรต่อลิตร

Toyota Yaris sedan ก็กินน้ำมันอยู่ที่ค่าเฉลี่ย 16 กิโลเมตรต่อลิตร

Toyota Yaris sedan ก็กินน้ำมันอยู่ที่ค่าเฉลี่ย 16 กิโลเมตรต่อลิตร

ทั้งหมดถือเป็นรถยนต์หลายกลุ่มที่เรานำมาเสนอเพื่อให้ผู้อ่านได้เก็บเอาไว้เป็นข้อมูลสำคัญ แต่ภาพรวมของรถยนต์ทั้ง 5 รุ่นถือได้ว่าเป็นที่นิยมอยู่ไม่น้อย เพราะสังเกตได้จากการเปิดตัวรถยนต์ทั้ง 5 รุ่นแต่ละครั้งก็ได้รับกระแสตอบรับที่ดีและให้ได้รับความสนใจอย่างมากในตลาดรถบ้านเรา และแน่นอนว่าอีกหนึ่งองค์ประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์คันใหม่ ก็คือเรื่องการกินน้ำมันนี้เอง ที่เราต้องคิดให้ดีก่อนจะหารถยนต์มาเก็บไว้ใช้งาน อ้อ แล้วต้องไม่ลืมว่า อัตราการบริโภคน้ำมันก็ขึ้นอยู่กับ "แรงเหยียบ" บนแป้นคันเร่งของแต่ละบุคคลด้วย แน่นอนว่าหากเร่งแรงมันก็ต้องซดน้ำมันอยู่แล้ว 

ติดตามข่าวสารรถยนต์ คลิกที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้

Cop