พัง! พัง! พัง! กับพฤติกรรมทำร้ายรถได้ง่าย ๆ โดยไม่รู้ตัว

รถใคร ใครก็รัก เป็นเรื่องธรรมดาที่เจ้าของรถทุกคนจะต้องรักรถของตัวเอง แต่ก็มีเจ้าของรถอีกหลายคน ที่ไม่รู้ว่าพฤติกรรมบางอย่างอาจจะทำให้รถพังได้ เร็วกว่า ง่ายกว่า เสียเงินซ่อมบ่อยกว่า ไปดูกันว่าสิ่งที่กำลังจะพูดต่อไปนี้คุณกำลังทำอยู่หรือเปล่า กับ 6 พฤติกรรมทำร้ายรถ ที่คุณเองอาจไม่รู้ตัว

1. ละเลยไฟรูปเครื่องยนต์

สัญลักษณ์ไฟรูปเครื่องบนหน้าปัดรถของคุณ หรือ “Check Engine” มีความสำคัญทำหน้าที่เป็นตัวบอกอาการความผิดปกติในการทำงานของเครื่องยนต์  แม้ไฟรูปเครื่องยนต์นี้จะไม่ได้บอกความผิดปกติได้เฉพาะเจาะจงสักเท่าไร อาจจะเป็นการผิดปกติเพียงเล็กน้อย หรือปัญหาใหญ่สามารถเป็นได้ทั้งนั้น

สัญลักษณ์นี้ขึ้นเตือนต้องรีบนำรถเข้าไปตรวจเช็ค

แต่ก็ไม่ควรละเลยไฟดวงเล็ก ๆ ดวงนี้บนหน้าปัดรถของคุณ รีบนำรถเข้าตรวจเช็ดที่ศูนย์บริการจะดีกว่า เพื่อความแน่ใจอย่างน้อยแม้จะเป็นปัญหาเล็กๆ เกี่ยวกับระบบเครื่องยนต์ก็จะได้ไม่ลามกลายเป็นปัญหาใหญ่ ให้คุณต้องเสียเงินในกระเป๋าแพงกว่า ทั้งที่มีสัญญาณเตือนแต่แรกแล้ว

2. ละเลยการทำความสะอาดสีรถ

การปล่อยในรถสกปรกไว้นานๆ ไม่ล้างทำความสะอาด คราบสิ่งสกปรกเหล่านั้นอาจไปทำร้ายสีรถของคุณจนยากเกินจะแก้ไข พวกคราบขี้นก ขี้จิ้งจก ยางจากต้นไม้ ยางมะตอย สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นศัตรูตัวฉกาจต่อสีรถของคุณ อย่าคิดว่าคราบเหล่านั้นนานๆ ทีเข้าคาร์แคร์ก็ล้างออก ปล่อยไว้นานไป จนฝังลึกกลายเป็นรอยด่างบนสีรถของคุณได้เหมือนกัน อย่าละเลยที่จะล้างรถของคุณให้บ่อยกว่าเดิม อย่างน้อยสักสัปดาห์ละครั้งก็ยังดี

3. ละเลยการเปลี่ยนของเหลวตามอายุการใช้งาน

น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรก น้ำมันเฟืองท้าย ทุกจุดที่มีของเหลว ล้วนแต่เป็นส่วนสำคัญช่วยในการทำงานของคุณ น้ำมันตามจุดต่างๆ เข้ามาช่วยในการทำงานมีความสำคัญและมีช่วงระยะที่ต้องเปลี่ยนตามกำหนด คุณอาจทำลายรถของคุณโดยไม่รู้ตัวได้

หมั่นเปลี่ยนถ่ายของเหลวในรถตามระยะ

ถ้าละเลยการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องยนต์ เมื่อถึงระยะเวลาที่ต้องเปลี่ยน อาจทำให้การทำงานของเครื่องยนต์ผิดปกติ หรือถ้าน้ำมันเบรกขาด อยู่ในปริมาณที่น้อยกว่ามาตฐานที่ระบบต้องการ อาจทำให้การเบรกรถของคุณทำงานได้ไม่ 100% เป็นต้น ดังนั้นพวกของเหลวตามจุดต่างๆ ของรถควรได้รับการตรวจเช็กอย่างสม่ำเสมอเพื่อการทำงานที่เต็มประสิทธิภาพ

4. ละเลยการตรวจสภาพยางรถยนต์

ส่วนสำคัญอีกสิ่งหนึ่งที่ส่งผลต่อการใช้งานรถและความปลอดภัยของตัวคุณเอง อย่าละเลยกับส่วนนี้เป็นอันขาด เมื่อถึงระยะที่จะต้องเปลี่ยนก็ควรรีบเปลี่ยน รวมถึงเมื่อยางของคุณถูกใช้งาน วิ่งมาเป็นแสนกิโลแล้วแม้จะในเวลาไม่นานก็ควรถึงเวลาเปลี่ยนเช่นกัน

ตรวจสภาพยางรถยนต์เพื่อให้มั่นใจทุกครั้งเวลาขับขี่

นอกจากนี้หลังจากที่ขับรถไปเหยียบ หินก้อนใหญ่ๆ  หรือถนนที่สภาพอาจไม่เป็นมิตรกับรถคุณเท่าไรนัก ก็ควรรีบตรวจสอบทุกครั้งว่ามีอาการยางบวมขึ้นมาหรือเปล่า เพราะอาการยางบวมจะเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายมาก

5. ละเลยเข้าเช็กระยะตามกำหนด

ระยะการตรวจเช็กที่ถูกกำหนดจากศูนย์บริการ เพื่อที่จะช่วยตรวจสอบ ดูแลรถของคุณให้อยู่ในสภาพปกติทุกการใช้งาน หรือถ้ามีอาการผิดปกติระยะเริ่มต้นของตัวรถก็ยังสามารถแก้ไขได้ทันเวลา ไม่ให้เกิดความเสียหายใหญ่โต ลุกลามพาเสียเงินมากกว่าที่ควรจะเป็น พยายามเข้าตรวจสอบตามระยะที่ศูนย์บริการกำหนด อย่าละเลยเอาไว้ก่อน จนสุดท้ายต้องทิ้งรถไว้ศูนย์นานเพราะซ่อมปัญหาใหญ่

6. ละเลยการขับรถอย่างทะนุถนอม

คนที่ชอบขับรถประเภท “เท้าหนัก” ทั้งหลายอาจไม่รู้ตัวว่าการขับรถเร่งเครื่อง ออกตัวแรงๆ เหยียบคันเร่งหนักๆ พฤติกรรมเหล่านั้นคือตัวทำลายรถของคุณ ทั้งเครื่องยนต์และระบบเกียร์ การใช้รถบนถนนที่สภาพย่ำแย่แต่ยังขับใช้งานเปรียบเสมือนสภาพถนนปกติ ก็จะพาให้ช่วงล่าง “พัง!!” เร็วขึ้นเช่นกัน

นิสัยการขับรถที่รุนแรง อาจทำให้รถคุณพังเร็วขึ้น

เปลี่ยนมาขับรถให้นุ่มนวลเป็นมิตรกับรถของคุณสักนิดออกตัวให้ปกติ อย่าเร่งเครื่องแรงๆ ออกตัวกระชาก เมื่อเจอถนนขรุขระ ก็ลดความเร็ว ขับให้ช้าลง พยายามเลี่ยงหลุม บ่อ ขนาดใหญ่เพราะมันไม่ค่อยถูกกับช่วงล่างของรถคุณสักเท่าไรนัก

เพียงแค่ใส่ใจให้กับการใช้รถให้มากขึ้น ทำตามคำแนะนำที่เรานำมาฝาก เลิกละเลยเรื่องง่ายๆ ทั้ง 6 ข้อเหล่านี้ก็จะช่วยยืดอายุการใช้งานส่วนต่างๆ ของรถคุณได้มากขึ้นแล้ว ลองนำไปใช้กันดู แล้วรถที่รักของคุณก็จะอยู่กับคุณไปได้อีกนาน

ดูเพิ่มเติม
>> 4 ขั้นตอน เพื่อท่านั่งขับรถที่เหมาะสม “ขับปลอดภัยแถมไม่ปวดหลัง”
>> สำรวจ 7 พฤติกรรมการขับรถสุดอันตราย! ที่หลายคนชอบทำ

เข้าดู ตลาดรถบ้านซื้อขายกันเอง ได้ที่นี่