ประกันรถไม่คุ้มครองอะไรบ้าง ? รู้ไว้ก่อนซื้อ

ประสบการณ์ใช้รถ | 11 ส.ค 2563
แชร์ 4

ไม่รู้ไม่ได้ กรณีแบบไหนที่ประกันรถไม่คุ้มครอง แม้จะเป็นประกันชั้น 1 ก็ไม่ได้ครอบคุลมไปทุกเรื่อง เพราะมันก็มีข้อยกเว้นอยู่เหมือนกัน คิดจะทำประกันรถยนต์ ต้องรู้

ประกันแต่ละประเภทให้ความคุ้มครองที่แตกต่างกันไป ซึ่งหากเป็นประกันชั้นบนสุดอย่างประกันชั้น 1 ก็ดูเหมือนจะครอบคลุมไปทั้งหมด แต่รู้หรือไม่ว่า ความจริงแล้วก็มีข้อยกเว้นอยู่  Chobrod จะพาไปดู 6 ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประกันภัยรถยนต์ที่ใคร ๆ อาจยังไม่รู้ หรือยังสงสัย ว่าถ้าเกิดเหตุเช่นนี้ ประกันจะรับคุ้มครองหรือไม่

1.ขับรถชน แต่ไม่มีใบขับขี่ ประกันคุ้มครองไหม?

หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา และผู้ใช้รถไม่มีใบอนุญาตตามกฎหมายกำหนด จะได้รับโทษทางแพ่งแถมยังอาจต้องเสียสิทธิ์การได้รับความคุ้มครองจากบริษัทประกันอีกด้วย แต่หากพิสูจน์แล้วพบว่า เราเป็นฝ่ายถูกและทำประกันรถยนต์ประเภท 1,2+,3+ เอาไว้ ทางบริษัทประกันจะจัดการค่าใช้จ่ายสำหรับการซ่อมแซมรถของเรา และจัดการเรียกร้องค่าเสียหายจากคู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิดแทน ในทางกลับกัน หากไม่ได้ทำประกันตามประเภทดังกล่าวเอาไว้ อาจจะเป็นการทำประกันชั้น 2 หรือ ชั้น 3 แบบธรรมดา เช่นนั้นผู้ขับขี่จะต้องไปเรียกร้องค่าเสียหายเองจากทางฝั่งคู่กรณี และหากไม่มีใบขับขี่ก็ต้องได้รับความผิดทางกฎหมายเช่นเดียวกัน

ประกันคุ้มครองไหม ? ถ้าไม่มีใบขับขี่
หากเป็นคนผิด ไม่มีใบขับขี่ คุณคิดว่าประกันจะคุ้มครองหรือเปล่า

หากเราเป็นฝ่ายผิด จะต้องดำเนินการตรวจสอบก่อนว่าทำไมถึงไม่มีใบขับขี่ เพื่อรับไว้พิจารณาการชดใช้ตามเงื่อนไขของบริษัท ดังนี้

  • ไม่มีใบขับขี่เพราะไม่เคยสอบ : บริษัทประกันจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายในทุก ๆ กรณี แต่จะรับผิดชอบชดเชยความเสียหายของบุคคลภายนอก ตามที่ระบุเอาไว้ตามกรมธรรม์นั้น ๆ กล่าวง่าย ๆ คือ บริษัท ประกัน จะต้องซ่อมให้คู่กรณีแต่ไม่ซ่อมให้ฝ่ายเรา
  • มีใบขับขี่แต่ไม่ได้พกพามาด้วย : ต้องมีการคัดสำเนาเพื่อยืนยัน ทางบริษัทประกันจะคุ้มครองทั้งรถและคู่กรณี
  • ใบขับขี่ถูกยึด : ต้องมีการคัดสำเนาเพื่อยืนยัน ทางบริษัทประกันจะคุ้มครองทั้งรถและคู่กรณี

สรุปคือ หากทำประกันชั้น 1, 2+ และ 3+ ถ้าเป็นฝ่ายถูก ถึงจะไม่มีใบขับขี่ ประกันก็จะทำหน้าที่เรียกค่าเสียหายกับทางคู่กรณีให้ แต่หากเป็นประกันชั้น 2 และ 3 ผู้เอาประกันจะต้องทำหน้าที่นี้เอง แต่ถ้าเป็นฝ่ายผิด ก็ต้องทำการตรวจสอบและพิจารณาอีกทีตามแผนประกันดุลยพินิจของทางบริษัท และอย่าเข้าใจผิดว่า การไม่มีใบขับขี่จะไม่ถูกดำเนินคดี เพราะยังไงก็ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายเป็นคนละเรื่องกับประกัน

2.นำรถไปลากจูงแล้วเกิดอุบัติเหตุ ประกันคุ้มครองไหม?

รถยนต์ ก ไปลากรถยนต์ ข ที่ขัดข้องไม่สามารถขับเคลื่อนได้ ในขณะที่ลากจูงอยู่นั้น โซ่ลากเกิดขาด รถยนต์ ข ไปชนกับรถยนต์ ค กรณีเช่นนี้คุณคิดว่าใครเป็นฝ่ายผิด?

คำตอบคือรถยนต์คันที่ผิดต้องรับผิดชอบคือรถยนต์ ก คันลากจูงเป็นฝ่ายผิด ต้องเป็นฝ่ายชดใช้ค่าเสียหายต่อชีวิต และทรัพย์สินให้รถยนต์ ค และที่หนักไปกว่านั้นคือบริษัทรับประกันภัยของรถยนต์ ก จะไม่จ่ายสินไหมทดแทนให้เนื่องจากเป็นข้อยกเว้นของกรมธรรม์ประกันภัยที่ระบุไว้ว่า การประกันภัยนี้ไม่คุ้มครองในเรื่องการใช้ลากจูงหรือผลักดัน เว้นเสียแต่ว่าที่ถูกลากจูง หรือถูกผลักดันได้ทำประกันภัยเพิ่มไว้กับบริษัทด้วย

รถลากจูง ประกันคุ้มครองหรือเปล่า ?
รถลากจูง เป็นข้อยกเว้นของกรมธรรม์ประกันภัย

แต่ถ้าเกิดความเสียหายต่อรถยนต์ ข ซึ่งเป็นคันที่ถูกลากจูง บริษัทประกันของรถยนต์ ข จะรับผิดชอบ เนื่องด้วยรถยนต์ ข เป็นคันที่ถูกลากไม่ได้เป็นคันที่ลาก ไม่ตกอยู่ในข้อยกเว้นของกรมธรรม์ โดยบริษัทประกันของรถยนต์ ข สามารถเรียกร้องความเสียหายจากผู้กระทำผิดนั่นคือฝ่ายรถยนต์ ก ได้อีกด้วย รู้แบบนี้แล้วใครที่คิดจะไปลากรถให้เพื่อนต้องคิดหนักๆ เพราะเป็นผู้หวังดีแต่ถ้าเกิดเหตุขึ้นมาจริงๆ แล้วกลับต้องเป็นคนรับผิดชอบทั้งหมด

ดูเพิ่มเติม
>> 
ประกันรถยนต์ 2563
>> เผย 8 เทคนิค ซื้อประกันรถยนต์ ต้องดูอะไรบ้าง ?

3.นำรถไปติดแก๊ส ประกันคุ้มครองไหม?

เพราะรถติดแก๊ส คือรถที่เสี่ยงต่อการเกิดเหตุเพลิงไหม้ได้สูง และเมื่อทำประกันทางบริษัทจึงอาจมีการคิดเบี้ยในส่วนนี้เพิ่มขึ้นมา ซึ่งจะแลกมากับทุนประกันที่เพิ่มขึ้นด้วย และนั่นคือเหตุผลสำคัญที่ผู้เอาประกันควรที่จะแจ้งกับทางบริษัทหากรถได้ติดต้ังระบบแก๊สเอาไว้ เพราะถ้าไม่ได้แจ้งอาจจะด้วยหวังไม่อยากเสียค่าประกันเพิ่ม แต่กลับโชคร้ายเกิดเหตุขึ้นมา ขอบอกไว้เลยว่าประกันรถไม่คุ้มครองแน่นอนเกี่ยวกับความเสียหายต่อระบบแก๊ส หรือความเสียหายที่เกิดขึ้นเพราะระบบแก๊ส

รถติดแก๊ส ประกันจะคุ้มครองหรือเปล่า ?
นำรถไปติดแก๊ส ต้องแจ้งกับทางบริษัท

แต่หากเป็นกรณีอื่นที่อยู่ในแผนคุ้มครอง ก็ยังคงให้ความคุ้มครองเช่นเดิมตามเงื่อนไขกรมธรรม์เดิม หากรถของคุณในตอนแรกที่แจ้งทำประกันไม่ได้ติดแก๊สไว้ แต่ในระยะของประกันเกิดไปดัดแปลงติดแก๊สเพิ่มขึ้นมา ต้องแจ้งกับทางบริษัทให้เรียบร้อยเพื่อแก้ไขและเปลี่ยนแปลงแผนการคุ้มครองที่ครอบคลุมมากขึ้น

4.แต่งรถ ใส่อุปกรณ์เพิ่ม ประกันคุ้มครองไหม?

สำหรับรสนิยมความชื่นชอบที่มีต่อรถของบางคน อาจจะมองว่าอุปกรณ์ที่มากับโรงงานบางครั้ง ยังไม่เพียงพอกับการใช้งานหรือยังไม่ถูกใจ เจ้าของรถบางคนก็อาจมีการเสริม เติม แต่งอุปกรณ์บางอย่างให้กับตัวรถบ้าง เช่น สำหรับรถกระบะที่ใส่โครงเหล็กหลังคา รถเก๋งที่ไปเปลี่ยนล้อแม็กซ์มาใหม่ เป็นต้น

ใส่อุปกรณ์เพิ่ม ประกันคุ้มครอง ถ้าแจ้งครบแต่แรก
ประกันจะคุ้มครองอุปกรณ์ตกแต่งเพิ่ม หากแจ้งไว้ครบถ้วนก่อนทำประกัน

อุปกรณ์ดังกล่าวเหล่านี้นั้น จะได้รับการคุ้มครองก็ต่อเมื่อติดตั้งก่อนทำประกัน แต่ถ้าทำประกันไปแล้วนำอุปกรณ์มาติดตั้งภายหลัง และไม่ได้แจ้งกับบริษัทประกัน แล้วเกิดอุบัติเหตุจนทำให้อุปกรณ์ที่ใส่เพิ่มมาเสียหาย ทางบริษัทจะไม่รับผิดชอบค่าเสียหายให้ต่ออุปกรณ์เหล่านั้นให้ กรณีที่ต้องการให้คุ้มครองอุปกรณ์เหล่านั้นด้วย ต้องแจ้งกับบริษัทประกันให้ทราบ ส่วนใหญ่แล้วบริษัทประกันจะให้คุณต้องจ่ายเพิ่มค่าเบี้ยเพื่อความคุ้มครองชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่เพิ่มมา

5. รถเสียหายจากการก่อการร้าย ประกันรถไม่คุ้มครองจริงไหม?

อย่าเข้าใจผิดว่าประกันชั้นหนึ่งจะคุ้มครองรถยนต์ของคุณจากทุกกรณี บางข้อยกเว้นหากเกิดเหตุจากภัยด้านก่อการร้าย ไม่ว่าจะโดยตรงหรือทางอ้อม ในเอกสารกรมธรรม์มีข้อยกเว้นในเรื่องนี้ไว้อยู่ ว่าถ้ารถยนต์เกิดเสียหายจากการก่อการร้าย ทางบริษัทประกันจะไม่จ่ายค่าสินไหมทดแทนใดๆ ให้เลย

การก่อการร้าย ประกันไม่รับคุ้มครอง
การก่อการร้าย คืออีกหนึ่งข้อยกเว้นของประกัน

เพราะฉะนั้นจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการใช้รถ จึงควรหลีกเลี่ยงสถานที่เสี่ยงในการเกิดเหตุก่อการร้าย ดีไม่ดีถ้าเกิดเหตุจนรถของคุณได้รับผลกระทบไม่ว่าจะมากหรือน้อยก็ตามแต่ คนที่จะต้องรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวนั้นคือเจ้าของรถ ประกันรถไม่คุ้มครอง มีไว้ไม่ได้ช่วยอะไรในกรณีแบบนี้

6. ชื่อผู้เอาประกันกับผู้ใช้รถจริงคนละคน ประกันคุ้มครองไหม?

ชื่อผู้เอาประกันควรเป็นชื่อเจ้าของตามเล่มทะเบียน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการคุ้มครองก็ยังติดอยู่ที่ตัวรถ หาใช่ผู้เอาประกันไม่ เช่นในกรณีที่มีการขายรถไปแต่อายุประกันยังคุ้มครองอยู่ ความคุ้มครองก็ยังมีผลอยู่จนกว่าจะหมดอายุกรมธรรม์แม้จะเปลี่ยนเจ้าของรถ แต่ถ้าตัวกรมธรรม์เป็นแบบระบุชื่อผู้ขับ เมื่อเกิดเหตุผู้ขับขี่ที่ไม่ใช่บุคคลตามที่ระบุชื่อไว้ในกรมธรรม์ และเป็นฝ่ายผิด หรือกรณีที่ไม่สามารถแจ้งคู่กรณีได้ จะมีค่าใช้จ่ายส่วนแรกที่ผู้เอาประกันจำเป็นต้องจ่ายเป็นจำนวน 6,000 บาทต่อความเสียหายตัวรถ และ 2,000 บาทต่อทรัพย์สินบุคคลภายนอก  

คนขับไม่ใช่เจ้าของรถ ประกันจะรับเคลมไหม
ถ้าคนขับ ไม่ใช่คนที่มีชื่อในประกัน จะต้องเสียค่าเสียหายส่วนแรกก่อน

แม้รถจะมีประกันใช่ว่าจะคุ้มครองทุกเหตุเมื่อเกิด มีบางเงื่อนไขในกรมธรรม์ที่ถูกซ่อนเอาไว้อยู่และเชื่อว่ามีน้อยมากที่ใครจะอ่านทุกตัวอักษรก่อนเซ็นสัญญา อีกทั้งบางกรณีก็กลายมาเป็นว่าประกันไม่รับคุ้มครองและต้องกลายมาเป็นเราเองอีกด้วยที่ต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นด้วยตัวเอง ดังเช่นกรณีทั้งหมดข้างต้นที่ ประกันอาจไม่รับคุ้มครอง ดังนั้นทางที่ดีที่สุดในการใช้รถใช้ถนน คือการขับรถด้วยความไม่ประมาท มีสติทุกครั้งเวลาอยู่หลังพวงมาลัย เพื่อการลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นสำหรับคุณ

ดูเพิ่มเติม
>> 
รถชน คนขับไม่ใช่เจ้าของรถ ประกันรับเคลมหรือเปล่า ?
>> ค่า Excess คืออะไร ? ทำประกันชั้น 1 ไว้ ยังต้องจ่ายอีกไหม ?

​ติดตาม ข่าวรถยนต์ใหม่ ได้ที่นี่
ติดตามเรื่อง รีวิวรถยนต์ใหม่ ได้ที่นี่
ติดตามเรื่อง ราคารถยนต์ใหม่ๆ ได้ที่นี่
เข้าดู ตลาดรถบ้าน ซื้อขายกันเองได้ที่นี่