ตอบปัญหา 5 ข้อยอดฮิต เกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้า

ประสบการณ์ใช้รถ | 8 ก.ย 2565
แชร์ 0

เกรท วอลล์ มอเตอร์ เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่จัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า ได้ออกให้ข้อมูลเกี่ยวกับปัญหา 5 ข้อของรถยนต์ไฟฟ้า ว่ามีวิธีแก้ปัญหาและจัดการอย่างไร

ตอบปัญหา 5 ข้อยอดฮิต เกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้า

ตอบปัญหา 5 ข้อยอดฮิต เกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้า

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเทรนด์การใช้รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ผู้คนมองหารถที่ใช้พลังงานไฟฟ้ากันมากขึ้นจากหลากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนด้านนโยบายจากทางภาครัฐและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่ให้กับผู้ผลิตและผู้บริโภค

โดยทาง เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้ออกมาไขข้อสงสัย 5 ข้อ ที่เป็นประโยชน์กับผู้ที่สนใจรถยนต์ไฟฟ้า และกำลังใช้รถยนต์ไฟฟ้าอยู่ในขณะนี้

อ่านเพิ่มเติม - เกรท วอลล์ มอเตอร์ พัฒนาแบตเตอรี่โซลิดสเตตสำเร็จ พารถยนต์ EV วิ่งไกลกว่า 1000 กม./ชาร์จ

ตอบปัญหา 5 ข้อยอดฮิต เกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้า

แบตเตอรี่คงเหลือมีไม่มาก ต้องเร่งค้นหาสถานีชาร์จเป็นการด่วน ต้องทำอย่างไร ?

เพิ่งสังเกตว่าแบตเตอรี่เหลืออยู่ไม่มาก และรถอาจจะดับในอีกไม่นาน ก็สามารถค้นหาจุดชาร์จใกล้ตัวได้อย่างง่ายดายกว่าในอดีต ผู้ใช้งานจึงสามารถใช้ Google Maps ค้นหาคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น EV charging, EV charging stations หรือ EV Charger 

หรือจะดาวน์โหลดแอปพลิเคชันที่ช่วยค้นหาสถานีชาร์จ ซึ่งบางแอปฯ สามารถเช็กความพร้อมในการให้บริการของแต่ละสถานี เช็กสถานะขณะชาร์จได้แบบเรียลไทม์ และเลือกจองคิวการชาร์จล่วงหน้าได้อีกด้วย อาทิ EVolt, EA Anywhere, PlugShare, MEA EV, EV Station PluZ, PEA VOLTA, GO TO-U รวมถึง G-Charge ที่สร้างความอุ่นใจให้ผู้ขับขี่ด้วยการรวบรวมพิกัดสถานีชาร์จทั่วประเทศไทยให้มาอยู่ในแอปเดียว

โดยเกรท วอลล์ มอเตอร์ ติดตั้งเครื่องอัดประจุไฟฟ้าแบบ DC Fast Charge กำลังสูง เริ่มต้นที่ 120 kW ให้บริการรถทุกยี่ห้อ เปิดทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง และสะดวกสบายด้วยการใช้งานผ่าน GWM Application ซึ่งผู้ใช้งานสามารถค้นหาสถานีชาร์จ จองเวลาในการชาร์จ และชำระค่าใช้จ่ายในการชาร์จได้เช่นกัน

ตอบปัญหา 5 ข้อยอดฮิต เกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้า

ในกรณีที่รถเกิดอุบัติเหตุหรือเกิดขัดข้องกลางถนน ทำเอารถติดยาว ต้องทำอย่างไร ?

สิ่งแรกที่ต้องทำเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน ไม่ว่าจะเป็นรถดับหรือรถเสียกลางถนนคือ การเปิดสัญญาณไฟฉุกเฉิน เพื่อแจ้งให้บรรดาผู้ขับขี่ที่ตามมาเข้าใจว่ารถของคุณกำลังประสบปัญหาอยู่ หลังจากนั้นแนะนำให้ดับเครื่องยนต์ไว้ประมาณ 20 นาที แล้วลองสตาร์ทเครื่องใหม่ หรือทำการรีเซ็ตระบบของตัวรถ และลองสตาร์ทรถอีกครั้ง

หากอาการยังไม่ดีขึ้น ให้รีบโทรติดต่อขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น 191 ตำรวจ, 1193 ตำรวจทางหลวง สายด่วน 1669 เจ็บป่วยฉุกเฉิน หรือโทรแจ้งบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน เป็นต้น ส่วนใครที่ทำประกันรถยนต์ไว้ สามารถโทรติดต่อบริษัทที่ทำประกันภัยรถยนต์อยู่ได้เลย

ตอบปัญหา 5 ข้อยอดฮิต เกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้า

ขับรถยนต์ไฟฟ้าลุยน้ำได้หรือไม่ จะเกิดอันตรายอะไรมั้ย ?

หากเป็นรถสันดาปจะมีระบบระบายอากาศหรือความร้อนที่เชื่อมต่อภายนอก ซึ่งเป็นช่องทางเสี่ยงทำให้น้ำสามารถเข้าสู่เครื่องยนต์ได้ในกรณีน้ำท่วมสูง

แตกต่างจากระบบของรถยนต์ไฟฟ้า ที่ได้รับการออกแบบตัวรถให้มีระบบปิด สามารถป้องกันความเสี่ยงเมื่อเกิดน้ำท่วมได้ดีกว่า ทั้งตัวมอเตอร์ แบตเตอรี่ และระบบชาร์จไฟ ทำให้รถยนต์ไฟฟ้ามีความเสี่ยงจากเหตุการณ์น้ำท่วมได้ลดลง 

ข้อควรพิจารณาก่อนขับรถลุยน้ำ คือสูงไม่เกิน 30 เซ็นติเมตร หรือประมาณฟุตบาทริมทาง หรือถ้าประมาณครึ่งล้อก็ยังพอลุยไหว แต่ถ้าน้ำท่วมสูงเลยขอบประตูรถเมื่อไหร่ไม่แนะนำให้ทำการขับขี่ต่อไป เพราะน้ำอาจเข้ามาในตัวรถจนทำให้ระบบต่าง ๆ ของตัวรถเสียหายหรือหยุดการทำงานได้

เนื่องจากทุกระบบของรถยนต์ไฟฟ้า จะใช้ไฟฟ้าเป็นพลังงานหลักในการทำงานและขับขี่ จึงควรระมัดระวังไม่ให้น้ำเข้าในตัวรถที่จะสามารถสร้างความเสียหายให้กับสายไฟและระบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ระบบแบตเตอรี่ ระบบมอเตอร์เกียร์ ระบบกล่องควบคุมเครื่องยนต์ ซึ่งถึงแม้ว่าระบบเหล่านี้จะมีการซีลกันน้ำไว้เป็นอย่างดีแล้วก็ตาม

ด้านแบตเตอรี่ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของรถยนต์ไฟฟ้านั้น จะมีการทดสอบ IP Rating (Ingress Protection) ซึ่งเป็นค่ามาตรฐานในการป้องกันของแข็งและของเหลวเล็ดลอดเข้าภายใน เพื่อไม่ให้เกิดการรั่วไหลของไฟฟ้าแรงสูงในกรณีที่รถจมอยู่ใต้น้ำ โดยค่ามาตรฐานสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยทั่วไปอยู่ที่ IP67 การันตีว่าสามารถป้องกันความเสียหายที่เกิดจากน้ำท่วมไม่เกิน 1 เมตรได้ ภายในเวลาไม่เกิน 30 นาที

สำหรับ ORA Good Cat นั้นได้รับมาตรฐาน IP67 เช่นกัน โดยแบตเตอรี่สามารถกันน้ำจากการแช่น้ำความลึกไม่เกิน 1 เมตรได้สูงสุด 30 นาที และยังสามารถกันฝุ่นได้อย่างสมบูรณ์ ทั้งยังสามารถขับลุยน้ำได้ลึกถึง 40 เซ็นติเมตรอีกด้วย

สำหรับการดูแลรถภายหลังจากลุยน้ำท่วมมา ควรแตะเบรกซ้ำๆ เพื่อไล่น้ำออกจากผ้าเบรกซัก 5-10 นาทีหรือในกรณีที่น้ำเข้าในตัวรถ ให้นำรถไปตากแดด เปิดกระโปรงรถ และเปิดประตูไว้เพื่อไล่ความชื้นออกจากรถให้เร็วขึ้น หากไม่มั่นใจ แนะนำให้นำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจเช็คทุกระบบดูอีกครั้งเพื่อความอุ่นใจในการขับขี่

ตอบปัญหา 5 ข้อยอดฮิต เกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้า

ชาร์จรถไฟฟ้าที่สถานีชาร์จแล้วไฟไม่เข้า หรือดึงสายชาร์จไม่ออก ต้องทำอย่างไร ?

ในช่วงแรก ๆ ของผู้ที่หันมาใช้งานรถไฟฟ้าจะมีความสับสนอยู่พอสมควรกับวิธีการชาร์จไฟ และตำแหน่งของพอร์ตชาร์จ ซึ่งผู้ขับขี่จะเริ่มคุ้นชินไปเองหลังจากใช้งานรถไปสักพัก

แต่หากอยู่ดี ๆ แล้วกลับชาร์จไฟไม่เข้านั้นอาจเป็นเพราะการเสียบหัวชาร์จที่ไม่สนิท ซึ่งแก้ไขง่ายๆ เพียงปลดล็อครถแล้วเสียบหัวชาร์จกลับเข้าไปใหม่ให้แน่นและสนิท จากนั้นกดล็อครถ ต่อด้วยกด Recharge ในแอปพลิเคชันถือเป็นการจบขั้นตอน

ส่วนการถอดสายชาร์จออกจากพอร์ตชาร์จนั้น ในรถหลายรุ่นจำเป็นต้องปลดล็อคประตูรถก่อน ขณะที่บางรุ่นต้องกดปลคล็อคพอร์ตชาร์จด้วย

ใน ORA Good Cat จะไม่มีปุ่มกดปลคล็อคพอร์ตชาร์จ เราต้องปลดล็อครถยนต์ก่อนจากนั้นค่อยดึงออก ส่วนสาเหตุที่ไม่สามารถถอดหัวชาร์จออกจากตัวรถได้ อาจเกิดจากกระบวนการสื่อสารระหว่างตัวรถกับเครื่องชาร์จไม่ถูกต้องตามมาตรฐานของตัวรถ เช่น หยุดชาร์จเองก่อนหมดเวลา

ดังนั้นแนะนำให้ล็อค - ปลดล็อค 3 รอบ เป็นการตัดระบบไฟฟ้าของรถ ก็จะสามารถถอดหัวชาร์จออกได้ แต่ถ้าหากยังไม่สามารถถอดได้ ให้ทำการตัดไฟฝั่งเครื่องชาร์จโดยการกดปุ่ม Emergency หรือ Off Breaker main ก็จะสามารถถอดหัวชาร์จออกได้ ทั้งนี้หากทำตามขั้นต้นแล้วยังไม่สามารถถอดหัวชาร์จออกจากตัวรถได้ ให้โทรติดต่อ Call Center ของผู้ให้บริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อดำเนินการแก้ไขในทางเทคนิคต่อไป

ข้อควรรู้ระหว่างการชาร์จ หากผู้ขับขี่ต้องการหยุดชาร์จ สำหรับการชาร์จที่ตู้สาธารณะนั้นจำเป็นต้องสั่งการหยุดชาร์จที่ตัวแอปพลิเคชันก่อนเพื่อให้ระบบของรถและตู้ชาร์จเชื่อมต่อเข้าขั้นตอนการสั่งหยุดจ่ายไฟ ขณะที่การชาร์จที่บ้านนั้นสามารถหยุดชาร์จได้ทันที

ตอบปัญหา 5 ข้อยอดฮิต เกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้า

รถไฟฟ้าต้องดูแลรักษาอะไรบ้าง ต้องเช็กระยะเหมือนรถยนต์ทั่วไปหรือไม่ ?

แม้รถยนต์ไฟฟ้าอาจจะไม่ต้องการการดูแลที่ยิบย่อยเท่ากับรถยนต์เครื่องสันดาป และมีชิ้นส่วนและอุปกรณ์ที่น้อยกว่ารถยนต์แบบทั่วไปหลายเท่า การเช็กระยะถือเป็นสิ่งที่ผู้ใช้งานทุกท่านยังต้องให้ความสำคัญ การเช็กระยะให้ตรงตามรอบจะช่วยยืดอายุการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าได้นานขึ้นและเพื่อการขับขี่ที่ไร้กังวล

ศูนย์บริการจะทำตรวจสอบการใช้งานและความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นได้กับมอเตอร์ แบตเตอรี่ ระบบชาร์จไฟ ระบบระบายความร้อน หม้อน้ำ เกียร์ ระบบส่องสว่าง และยางรถยนต์ ซึ่งโดยส่วนใหญ่รถยนต์ไฟฟ้ามีกำหนดเข้ารับบริการเช็กระยะกับศูนย์บริการทุก ๆ 12 เดือน หรือ 15,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) 

สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ORA Good Cat ของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ มีแพ็คเกจบำรุงรักษาตามระยะทางฟรี 5 ปี หรือ 75,000 กิโลเมตร ซึ่งครอบคลุมทั้งค่าแรงและอะไหล่สิ้นเปลือง (สำหรับลูกค้า Premiere Deal จะไม่ครอบคลุมแบตเตอรี่ 12 โวลต์ ใบปัดน้ำฝน ผ้าเบรก) โดยลูกค้าสามารถใช้รถได้อย่างอุ่นใจและไร้กังวลในทุกการขับขี่

ตลาดรถมือสอง มีรถมากมายให้เลือกในราคาที่ถูกใจ

แท็ก Great Wall Motors