ชาร์จไฟรถยนต์ EV เสียเงินเท่าไหร่ ?

ด้วยราคาน้ำมันที่แรงไม่หยุด ประกอบกับนโยบายลดภาษีรถยนต์ประจำปีสำหรับผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า ทำให้รถยนต์ EV (Electric Vehicle) ได้รับความสนใจมากขึ้น เมื่อใช้รถยนต์ไฟฟ้า แน่นอนว่าผู้ใช้รถก็ต้องหันมาชาร์จไฟที่บ้านหรือใช้บริการสถานีชาร์จไฟแทนการเติมน้ำมันมากขึ้นด้วยเช่นกัน โดยปัจจุบัน สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ามีทั้งหมด 1,447 แห่งทั่วประเทศ ได้แก่ 

• EA Anywhere จำนวน 476 แห่ง
• MG จำนวน 120 แห่ง
• PTTOR EV Station PluZ จำนวน 108 แห่ง 
• PEA จำนวน 73 แห่ง 
• สนพ. และ EVAT จำนวน 68 แห่ง 
• EVOLT จำนวน 188 แห่ง 
• Elex by EGAT จำนวน 42 แห่ง 
• BMW จำนวน 42 แห่ง 
• Shage+ จำนวน 300 แห่ง 
• MEA จำนวน 22 แห่ง 
• ARUN+ จำนวน 8 แห่ง

ค่าใช้จ่ายในการชาร์จไฟรถยนต์ไฟฟ้า

อัตราค่าบริการของสถานีชาร์จไฟรถยนต์ไฟฟ้าแต่ละแห่งไม่เหมือนกัน โดยจะเริ่มต้นที่ 6.5 บาท/หน่วย ส่วนไฟบ้าน (TOU) จะอยู่ที่ 5.x บาท/หน่วย ในช่วง On Peak ดังตาราง

วิธีการจองเวลาชาร์จไฟรถยนต์ EV ล่วงหน้า (สำหรับ PTT EV Station)

1. เข้าไปที่ Play Store หรือ App Store แล้วดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน EV Station PluZ

2. ล็อกอิน (Login) หรือกดลงทะเบียน (Sign Up) แล้วรอยืนยันอีเมล

3. คลิกไปที่สัญลักษณ์รูป “แผนที่” แล้วกดสัญลักษณ์รูป “แว่นขยาย” เพื่อค้นหาสถานีชาร์จที่ต้องการ

4. เลือกสถานีชาร์จที่ต้องการ แล้วกดจองตรงคำว่า “Book Now” ในหัวชาร์จที่ต้องการใช้งาน 

5. เลือกช่วงเวลาที่ต้องการชาร์จ

6. ตรวจสอบข้อมูลการจอง และรูปแบบการชำระเงิน พร้อมกดยืนยันการจอง เป็นอันเสร็จสิ้น

7. หากต้องการตรวจสอบประวัติการจอง ให้กดไปที่สัญลักษณ์รูป “นาฬิกา”

เพื่อให้ชาร์จไฟรถยนต์ EV ได้แน่นอน และไม่เสียเที่ยวในการเดินทาง ลูกค้าต้องเข้าชาร์จภายใน 10 นาทีแรก ของรอบเวลาที่จอง โดยระบบจะคืนค่าจองเป็นส่วนลดให้ในรอบการจองนั้น หากเข้าใช้บริการเกิน 10 นาทีแรกของรอบเวลาที่จอง ระบบจะปลดล็อกรายการจอง สงวนสิทธิ์การคืนเงิน และให้สิทธิ์ลูกค้า Walk in แทน 

ทั้งนี้ เมื่อเสียสิทธิ์การจองไปแล้ว ลูกค้าที่จองยังสามารถเข้าชาร์จในรอบเวลานั้นได้ในฐานะลูกค้า Walk in แต่ต้องเรียงตามคิวด้วยเช่นกัน โดยระบบยังคงคืนค่าจองเป็นส่วนลดค่าชาร์จในรอบการชาร์จนั้นให้ 

อ่านเพิ่มเติม >>

• รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด vs รถยนต์ EV เลือกรุ่นไหนดี ?
• รถเก๋งรุ่นไหนดี 2022 คุ้มค่าน่าใช้ ราคาเป็นมิตร !