ข้อไหนที่คุณเคยทำ? กับ 7 พฤติกรรมแย่ๆ ที่ควรเลิกทำบนท้องถนน

ประสบการณ์ใช้รถ | 14 มิ.ย 2560
แชร์ 0

เมืองไทยมันร้อน คนใช้รถใช้ถนนก็ร้อนแม้แอร์รถจะไม่ได้เสีย ลองมานั่งคิดดูๆ ว่าที่ทุกวันนี้ทำไม ตามสังคมโซเชียลถึงมีพวกคลิปผู้ใช้รถลงมาต่อยตีกันบนท้องถนนมากขึ้น ซึ่งบางทีอาจจะมาจากเรื่องเล็กๆ จนลามมาเป็นเรื่องใหญ่โตตามคลิปที่เห็น

พฤติกรรมหรือนิสัยขับรถแย่ๆ บางพฤติกรรมอาจเป็นฉนวนเริ่มเป็นเหตุก่อวิทวาทกันบนท้องถนนตามคลิปที่เราเห็นกันอยู่บ่อยๆ ตามสื่อโซเชียล พฤติกรรมเหล่านั้นนอกจากจะเสียมารยาทกับเพื่อนที่ใช้รถใช้ถนนร่วมกันแล้วยังเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุกับคนอื่นอีกด้วย Chobrod.com มาบอกถึงพฤติกรรมการขับขี่บนท้องถนนที่ไม่ควรทำหรือถ้าทำอยู่ก็ “เลิกทำซะ” จะได้ไม่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่นและไม่มีใครด่าตามหลัง มีอะไรบ้างไปดูกัน

1. เห่อแตรรถ

พวกที่ชอบกดแตรรถลากยาวๆ ไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลย บางครั้งคนที่คุณต้องการจะบีบแตรใส่ เขายังไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ แต่กลับเป็นรถคันรอบข้างที่รู้สึกไม่ดีและงงว่านี่ “ฉันทำอะไรผิดไปหรือเปล่า” การใช้แตรรถยนต์เพียงแค่กดเสียงสั้นๆ เพื่อให้รถคันที่เราบีบแตรใส่รู้ตัวก็พอแล้ว เช่น รถคันหน้ากำลังจะเปลี่ยนเลนมาทางเลนของคุณ แต่คุณขับรถมาในความเร็วและกำลังจะผ่านไป แต่กลัวว่าคันหน้าจะไม่เห็นรถของเราที่วิ่งมา ถ้าเปลี่ยนเลนจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้คุณอาจจะบีบแตรสั้นๆ เพื่อเป็นการบอกรถคันหน้าว่า “มีรถกำลังมานะ อย่าเพิ่งเปลี่ยนเลน” เป็นต้น
 
ขณะขับรถ หลายคนชอบกดแตรบ่อยมาก
บางครั้งอารมณ์ก็มีผลต่อแตรที่กด

สมัยนี้โลกมันร้อน แค่บีบแตรใส่กันก็มีเรื่องกันได้แล้ว ใจเย็นลงสักหน่อยใช้แตรเมื่อจำเป็น เพื่อบอกรถคันที่เราต้องการให้รู้ตัวเท่านั้นพอ ไม่ต้องเห่อ บีบยาวๆ หรอก
 
2. ชอบขับจี้

ตามกฎจราจรแม้จะไม่ได้ระบุระยะห่างจากรถคันหน้าตอนขับรถไว้อย่างชัดเจนแต่ใน พรบ. จราจร มาตรา 40 ก็ระบุให้ผู้ขับขี่รถอยู่ห่างจากคันหน้าพอสมควรพอที่จะสามารถหยุดรถได้โดยปลอดภัย เมื่อจำเป็นต้องหยุดกระทันหัน
 
ขับจี้รถคันหน้ามากเกินไป เบรคไม่ทันก็เกิดอุบัติเหตุได้
ขับจี้รถคันหน้ามากเกินไป เบรคไม่ทันก็เกิดอุบัติเหตุได้
 
แต่มีพวกขับรถบางพวกที่มีนิสัยชอบขับจี้รถคันข้างหน้า เช่น จะให้รถคันข้างหน้าเปลี่ยนเลนและคันตัวเองจะไปได้หรือขับจี้เพื่อไม่ให้รถจากเลนอื่นมาแซง นิสัยแบบนี้เลิกซะเหอะ ถ้าขับมาเร็วๆ เกิดคันหน้าเบรคกระทันหันขึ้นมา รถตัวเองเบรคไม่ทันก็เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ขับรถให้อยู่ในตำแหน่งเผื่อระยะการเบรคของรถตัวเอง ไม่ต้องไปจี้ ถ้าสมมุติรถคันหน้าขับช้ากว่าก็อาจจะแค่ตีไฟสูงบอกก็พอ
 
>> พฤติกรรมที่ไม่ควรทำระหว่างขับรถยนต์ !!

3. เบรคกระทันหัน

ถ้านิสัยการขับรถข้อนี้มาเจอกับพวกชอบขับจี้รับรองว่า “บันเทิงแน่นอน” คันหลังขับจี้คันหน้าก็แสบเบรครถกระทันหันให้รถคันหลังต้องเหยียบเบรคหัวแทบทิ่ม แล้วแบบนี้จะไม่ให้เกิดการปะทะได้อย่างไร 
 
ท้ายรถหลังโดนชนเพราะเบรคกระทันหัน
เบรคกระทันหัน รถที่ตามมาเบรคไม่ทันเสี่ยงต่อการโดนชนสูง
 
การเหยียบเบรคกระทันหันเกิดมาจากขับรถชิดคันหน้ามากเกินไป พอคันหน้าเบรคเพื่อไม่ให้รถไปชนท้ายรถคันหน้าจึงต้องกดเบรคแบบกระชั้นชิด เว้นระยะสักหน่อยพอให้มีช่วงเบรคไม่เช่นนั้นรถของคุณอาจโดนชนที่ด้านหลังเอาง่ายๆ เพราะเมื่อคุณเบรคกะทันหัน รถคันข้างหลังของคุณจะกะระยะช่วงเบรคได้ไม่ดีพอที่จะไม่ให้เกิดการชน
 
>> เบรคแตก อันตรายใกล้ตัว รู้ไว้ รอดได้

4. กลัวการเปิดไฟเลี้ยว

ไม่รู้ทำไมคนประเภทนี้เป็นอะไรสัญญาณไฟเลี้ยว ผู้ผลิตรถเขาทำมาให้เพื่อช่วยในการขับขี่บอกรถคันอื่นๆ ว่ารถของตัวเองจะไปทางไหนแต่กลับไม่ชอบใช้ด้วยความมักง่ายคิดว่าคนอื่นจะต้องรู้กับตัวเองว่าจะไปทางไหน 
 
ไฟเลี้ยวของรถยนต์
ไฟเลี้ยวเปิดง่าย เปิดใช้งานทุกครั้งดีกว่า
 
โปรดจำไว้ว่าไม่มีใครจะมารู้ใจคุณหรอกว่าคิดอะไรอยู่แม้บนถนนโล่ง จะเลี้ยวขวา เลี้ยวซ้าย เปลี่ยนเลนไปทางไหน เปิดไฟเลี้ยวบอกชาวบ้านเขาบ้างเข้าจะได้รู้เตรียมตัวถูก ตามกฎจราจรถ้าต้องการจะเลี้ยวรถต้องเปิดสัญญาณก่อนถึงทางเลี้ยวไม่น้อยกว่า 30 เมตร
 
5. คิดจะออกก็ออก

นิสัยนี้เจอมากกับรถตู้โดยสาร แท็กซี่และพวกที่มั่นใจในตัวเองสูงเกินไป คิดว่าคนอื่นเขาต้องยอมเบรคเพื่อให้ตัวเองไปก่อน ค่อยๆ แหย่หัวรถออกมาทั้งที่รถที่อยู่ทางหลักมาด้วยความเร็วสูงต้องเบรคกระทันหันให้พวกขับรถแบบนี้ไปและถ้ารถที่เขามาทางหลักเบรคไม่ทันละจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าคุณเป็นผู้ขับรถสารต้องรับผิดชอบชีวิตคนอื่นๆ คุณมีปัญญาชดใช้เขาหรือเปล่า? หรือถ้าเป็นรถส่วนบุคคลขับรถในลักษณะนี้มันคุ้มไหมกับการสูญเสียที่แลกกับการรอแค่ไม่กี่วินาทีในจังหวะรถว่างค่อยไปแบบไหนปลอดภัยกว่ากัน 
 
ออกรถแบบไม่มองหน้ามองหลังบนท้องถนน
พวกที่คิดจะออกก็ออกไม่รอจังหวะรถว่างอาจชนเข้าสักวัน
 
6. ขับรถไม่รู้เลน

สายชิวไม่แคร์สื่อ ขับเพลินหรือติดแชทจนไม่รู้ว่ารถตัวเองกำลังขับคร่อมช่องทางเดินรถอยู่ รถคันที่ตามหลังก็เดาใจไม่ถูกว่าจะอยู่เลนไหน จะแซงก็ไม่กล้าแซงกลัวอยู่ดีๆ เปลี่ยนเลนกลับมาเลนเดิมไม่บอกไม่กล่าว เกิดชนขึ้นมาจะชิวไม่ออก 
 
ขับรถผิดแลน
ขับรถไม่รู้เลนมีผลทำให้เกิดการสับสนต่อผู้ใช้รถท่านอื่น
 
ถ้ารถคุณยังไม่มีระบบ Self-Driving หรือระบบขับเคลื่อนเองอัตโนมัติ 100%  อย่าขับรถชิวเล่นโทรศัพท์เพลินลืมมองทาง จนรถอยู่ในลักษณะคร่อมช่องเดินรถ อยู่ในช่องเดินรถที่ชัดเจนและความเร็วให้เหมาะสมกับช่องเดินรถด้วย ขับช้าอย่าแช่ซ้ายไม่ว่าจะขับเร็วแค่ไหนถ้ารถคันหลังมาเร็วกว่าก็ให้ไปก่อนไม่เดือดร้อนคนอื่น ไม่เสี่ยงอุบัติเหตุ 
 
รถแซงแถวแล้วยังขับสวนเลนบนท้อลถนน
พวกมักง่ายแซงแถวแล้วยังขับสวนเลนอีกครบปัจจัยการเกิดอุบัติเหตุ 
 
7.ไม่รู้จักมารยาทการต่อแถว

พวกชอบแทรก แบบนี้ก็มีให้เห็นกันประจำช่วงที่รถติดหนัก จะเจอพวกนี้บ่อยๆ ขับแซงแถวไปแล้วไปแทรกเอาข้างหน้า อาจทำให้รถคันที่โดนแทรกคิดในใจ “อ้าวนี่เสียเวลาต่อแถวตั้งนานเพื่ออะไร” รู้ว่าแทรกเก่งแต่ไม่ได้เท่หรอกนะ มีแต่คนเขาจะด่าให้ มารยาทในสังคมเรื่องการต่อแถวควรนำมาใช้กับการขับรถด้วยว่าไหม?
 
ทั้งหมดที่นำบอกกันเป็นตัวอย่างของลักษณะการขับรถที่ไม่ควรทำ ถ้าทุกคนที่ใช้รถใช้ถนนหันมาร่วมมือในการปฎิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด โดยยึดหลักไม่ทำให้คนอื่นเดือนร้อน หรือเอาเปรียบผู้อื่นโดยการทำผิดกฎจราจร เหนือสิ่งอื่นใดคือความมี “น้ำใจ” แก่เพื่อนร่วมทาง เชื่อว่าการจราจรบนถนนเมืองไทยจะต้องดีขึ้นและเราอาจจะไม่ต้องเห็นคลิปคนตีกันบนท้องถนนอีกต่อไป

>> อ่านเพิ่มเติม:
5 พฤติกรรมทำร้ายรถยนต์ของคุณแบบไม่รู้ตัว
4 ระบบช่วยขับขี่ให้ปลอดภัย ที่รถยุคนี้ "ต้องมี"
อันตรายถึงชีวิต!! หากดับเครื่อง ขณะคันเร่งค้าง!