1. เหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงขณะเครื่องเย็น
เหยียบคันเร่ง - ภาพประกอบจาก
Chobrod
ออกรถอย่างรุนแรงคงเคยเห็นไม่น้อยเลยทีเดียวและสิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือเวลาเครื่องยนต์เย็นซึ่งการสตาร์ทรถตอนเช้าโดยจอดทิ้งไว้ตากหมอกหรืออากาศเย็นทั้งคืนควรให้เวลารถอุ่นเครื่องบ้างเพราะน้ำมันเครื่องยังไปหล่อเลี้ยงส่วนประกอบภายในเครื่องยนต์ได้ไม่เต็มที่ เมื่อมีการออกตัวรุนแรงจะส่งผลให้ทำมันเครื่องและน้ำมันเกียร์ที่เย็นอยู่ไม่สามารถไหลได้ทัน มันอาจจะทำให้เครื่องยนต์เสียดาย ทางที่ดีคือควรค่อยๆไปนะคะ
2. ข้ามหลังเต่าไม่ซะลอความเร็ว
ข้ามหลังเต่า - ภาพประกอบจาก
Chobrod
จุดประสงค์ของเนินซะลอความเร็วคือซะลอความเร็ว รวมถึงหลุมบ่อด้วย และแน่นอนว่า ถ้าเห็นแล้วเร่งเข้าไปนั้นเป็นต้นเหตุให้ช่วงล่างเสื่อมเร็วกว่าปกติ ยิ่งขับด้วยความเร็วสูงยิ่งทำให้พังเร็วขึ้น โดยเฉพาะรถช่วงล่างเตี้ยแล้วควรระมัดเป็นพิเศษด้วยค่ะ
3. คิกดาวน์บ่อยเกิน
การคิกดาวน์คือ การเร่งความเร็วโดยเพิ่มน้ำหนักคันเร่ง จนกระทังเกียร์มีการเปลี่ยนอัตราทดไปยังตำแหน่งที่ต่ำกว่า จากเกียร์ 4 ไปเกียร์ 3 หรือแล้วแต่คนใช้ ซึ่งเรียกแรงบิตและแรงม้าให้รถพุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว แต่ ถ้าคิกดาวน์บ่อยๆ จะก่อให้เกิดผลเสียกับระบบเกียร์ในระยะยาว เนื่องจากชุดเฟืองรับแรงบิดที่เพิ่มขึ้นอย่างรุนแรง ส่งผลให้อายุการใช้งานสั้นลง ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ควรค่อยๆขับนะคะ
4. ลุยน้ำท่วมสูง
ในพื้นที่น้ำท่วม ไม่ว่ากรณีไหนทางที่ดีควรเลือกก็คือทางที่น้ำท่วมขังตื้นที่สุด เพราะน้ำท่วมสูงอาจถูกดูดเข้าไปห้องเครื่องยนต์ หากเข้าไปจะทำให้ก้านสูบหัก และอาจจะเข้าไปยังห้องเก็บเกียร์ได้อีกต่างหาก
5. ไม่สนใจไฟเตือนหน้าปัด
คน
ขับรถส่วนใหญ่จะไม่สนใจไฟเตือนบนหน้าปัด แต่มันเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ โดยเฉพาะไปสีเหลืองและแดง ซึ่งสีแดงมักจะหมายถึงระบบความสำคัญในการขับเคลื่อน ระบบความปลอดภัย ระหง่างทางถ้าเห็นมีตัวไหนสว่างขึ้นควรตรวจสอบกับคู่มือเพื่อดูว่าจะมีปัญหาอะไรไหม แต่หากไฟขึ้นรูปเครื่องยนต์นะคะ ควรนำรถเข้าอู่และศูนย์บริการทันทีเลยค่ะ เพราะว่า หากปล่อยไว้อาจจะมีอะไรที่ไม่ดีเกิดขึ้นก็ได้ ควรระมัดระวังในการเดินทางเพื่อตัวท่านเองนะคะ