Subaru Ultimate Test Drive ทดสอบ Subaru Forester 2019 แบบโหด พร้อมความปลอดภัย EyeSight ที่เซฟตี้ได้จริง

ประสบการณ์ใช้รถ | 6 ส.ค 2562
แชร์ 4

ทดสอบ Subaru Forester 2019 รุ่นย่อยท็อปสุด 2.0 iS-EyeSight ระบบความปลอดภัยล่าสุดที่สามารถช่วยคุณได้ในยามฉุกเฉิน Subaru Forester 2019 2.0 iS-EyeSight ทำอะไรได้บ้างมารับชมกัน


The All-New Subaru Forester 2019 รุ่นย่อย 2.0 iS-EyeSight

บริษัท ทีซี ซุบารุ ประเทศไทย จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ Subaru อย่างเป็นทางการในประเทศไทย จัดกิจกรรม Subaru Ultimate Test Drive เพื่อทดสอบสมรรถนะ The All-New Subaru Forester 2019 รุ่นย่อย 2.0 iS-EyeSight ที่แสดงสมรรถนะอันยอดเยี่ยมในแบบซูบารุ และออปชั่น EyeSight ที่วันนี้พร้อมแล้วสำหรับประเทศไทย

จากเดิมระบบเบรก ก็เพิ่ม ABS กันล้อล็อกขึ้นมา ทำให้รถไม่ไถลสามารถควบคุมรถได้แม้จะกดเบรกเต็มแรง หรือจะเป็นการลดระยะเบรกด้วยระบบ EDB ที่กระจายแรงเบรกไปทั้งสี่ล้อ ในปัจจุบันระบบความปลอดภัยของรถยนต์ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องที่หลาย ๆ แบรนด์ก็เริ่มนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้ โดยจำกัดไว้ว่าเป็นเทคโนโลยีความปลอดภัยระดับ Advance ที่จะช่วยลดความผิดพลาดของผู้ขับได้ สำหรับซุบารุเองก็พร้อมแล้วกับ เทคโนโลยีความปลอดภัย EyeSight ที่ติดตั้งอยู่ใน The All-New Subaru Forester 2019 รุ่นย่อย 2.0 iS-EyeSight และได้เปิดให้สื่อมวลชนจำนวนหนึ่งได้เข้าทดสอบและทำความรู้จัก EyeSight มากขึ้น จะเป็นอย่างไรบ้างมารับชมกันได้เลยครับ


Subaru Ultimate Test Drive

Subaru Ultimate Test Drive ถูกจัดขึ้น ณ สนามปทุมธานีสปีดเวย์

การทดสอบในครั้งนี้ เป็นการให้สื่อมวลชนได้สัมผัสครั้งแรกกับ The All-New Subaru Forester 2019 รุ่นย่อย 2.0 iS-EyeSight ที่ประกอบขึ้นในประเทศไทย พร้อมกับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับระบบ EyeSight เพราะว่าซูบารุเองก็พร้อมส่งมอบให้ลุกค้าแล้ว หลังจากเปิดรับจองตั้งแต่งาน Motor Expo 2018 การทดสอบแบ่งออกเป็น 2 สถานีใหญ่


Subaru Forester 2019 กับการเข้าโค้งในทางลื่น wet skid pad

การทดสอบสมรรถนะในสนาม แบ่งออกเป็นสถานีต่าง ๆ

ด่านที่ 1 บนทางขรุขระทดสอบช่วงล่างของ Subaru Forester 2019 กระเทือนที่ส่งมาถึงพวงมาลัย ในการทดสอบสอบด่านนี้ The All-New Subaru Forester 2019 รุ่นย่อย 2.0 iS-EyeSight ทำได้เป็นอย่างดี แรงกระเทือนในห้องโดยสารน้อย พวงมาลัยไม่ดิ้นการทางขรุขระ ตั้งตรง แค่ประคองเบา ๆ หากเป็นการขับบนนถนนจริงทำให้ผู้ที่ขับมีอาการเหนื่อยน้อย

ด่านที่ 2 ทดสอบระยะเบรก ผู้ทดสอบเร่งรถที่ความเร็ว 60 กม./ชม. และกดเบรก ให้ตามจุดที่กำหนดจนรถหยุดสนิท จากการทดสอบกะระยะด้วยสายตาเมื่อกดเบรกเต็มแรง รถหยุดนิ่งในระยะประมาณ 30 เมตรหน่อย ๆ สั้นกว่าระยะกำหนดไว้เสียอีก

ด่านที่ 3 เข้าโค้งด้วยความเร็วสูง เป็นการทดสอบระบบ active torque vectoring ที่จะเห็นรถช่วยแก้อาการต่าง ๆ ทั้ง overstering และ understeering ที่เราใช้ความเร็วประมาณ 60 กม./ชม. ในโค้งลึกก็ไม่มีปัญหาเรื่องการควบคุม

ด่านที่ 4 เข้าโค้งในทางลื่น wet skid pad เป็นการการทดสอบเพิ่มเติมที่รถช่วยแก้อาการ overstering และ understeering ซึ่งไม่มีปัญหาเช่นกัน 

ด่านที่ 5 เปลี่ยนเลนฉุกเฉิน ทดสอบการเข้าโค้งเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน รถยังไปตามคนขับที่ควบคุมได้อย่างไม่มีอาการ

ด่านที่ 6 ขับผ่านสลาลอม ทดสอบการทรงตัวและอาการโยนของตัวรถเมื่อเข้าโค้ง

หากรถที่เข้าทดสอบจัดอยู่ในกลุ่มสปอร์ตก็นับว่าเหมาะสม แต่นี่คือ  Subaru Forester 2019 เป็นรถยนต์กลุ่ม SUV ที่มีขนาดตัวถังใหญ่และช่วงล่างช่วยกสูง นับว่ายอดเยี่ยมกับด่านทดสอบที่โหดแบบนี้ สมแล้วกับที่ตั้งชื่อ Ultimate Test Drive

ดูเพิ่มเติม
>> 
รวมโปรโมชั่นรถใหม่ อัปเดตเดือนสิงหาคม 2562
>> เทียบให้ชัด! วัดให้ชัวร์ New Mitsubishi Pajero Sport 2019 แต่ละรุ่นต่างกันอย่างไร


การทดสอบเปลี่ยนเลนกะทันหัน

การทดสอบเทคโนโลยีความปลอดภัย EyeSight

ระบบ Eyesight ที่ใช้กล้องสเตอริโอ 2 ตัว อยู่บริเวณเดียวกับกระจกมองหลัง นำภาพเข้าประมวลผลด้วยสมองกล มองเห็นวัตถุบนท้องถนนซึ่งจะจับภาพแบบสี 3 มิติ  ได้แก่ ระบบเบรกอัตโนมัติก่อนการชน (Pre-Collision Braking), ระบบถอนคันเร่งก่อนการชน (Pre-Collision Throttle Management), ระบบปรับความเร็วรถอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control), ระบบเตือนเมื่อการจราจรเคลื่อนที่ (Lead Vehicle Start Alert), ระบบเตือนเมื่อออกจากเลน (Lane Departure Warning) และระบบเตือนเมื่อขับรถส่าย (Lane Sway Warning)

ครั้งนี้เราได้ทดสอบ 2 ฟีเจอร์หลักได้แก่ ระบบปรับความเร็วรถอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control) และ ระบบเบรกอัตโนมัติก่อนการชน (Pre-Collision Braking)

ระบบปรับความเร็วรถอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control) ของซูบารุมาเหนือกว่าแบรนด์รถยนต์ญี่ปุ่นที่จำหน่ายในตอนนี้คือ สามารถเริ่มทำงานตั้งแต่ความเร็ว 0 กม./ชม. นั่นหมายความว่าเมื่อเปิดระบบแล้ว เพียงแค่คุณประคองพวงมาลัยให้อยู่ตรงเลน รถสามารถขยับและเบรกตามคันข้างหน้าได้ตลอด ลดความตรึงเครียดในการใช้สมาธิเร่งและเบรกรถยนต์ และหากรถหยุดเกิดสามวินาทีรถจะเบรกพร้อมใช้ฟังก์ชั่น auto hold เพียงแค่กด resume หรือกดคันเร่งระบบก็ทำงานต่อ


ระบบเบรกอัตโนมัติก่อนการชน (Pre-Collision Braking) หยุดได้อย่างปลอดภัยทุกครั้ง

ระบบเบรกอัตโนมัติก่อนการชน (Pre-Collision Braking) คืออีกทีเด็ดที่ได้ทดสอบ โดยเมื่อกล้อง Eyesight จับได้ว่ามีวัตถุด้านหน้า เมื่อคำนวนว่าเสี่ยงจะเกิดการชน ระบบจะส่งเสียงสัญญาณเตือน พร้อมสัญญาณไฟกะพริบที่หน้าปัด หากไม่ได้รับการตอบสนองจากผู้ขับระบบจะทำการเบรกถึงขั้นที่รถจอดสนิท ซึ่งทาง Subaru แนะนำว่าในความเร็วไม่เกิน 50 กม./ชม. ในการทดสอบก็ไม่มีการพลาด (ใช้ความเร็วประมาณ 30 กม./ชม.)


กล้อง Eyesight ทำหน้าที่เสมือนดวงตา

เมื่อการทดสอบเสร็จสิ้น สิ่งที่ผู้ทดสอบรู้สึกระบบ Eyesight มีความพร้อมเต็มที่ในการใช้งานจริงมาก ๆ ใช้งานง่าย และน่าจะเป็นตัวออปชั่นชูโรงให้แก่ Subaru ได้เป็นอย่างดี สำหรับ ระบบปรับความเร็วรถอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control) ถือเป็นแบรนด์ญี่ปุ่นแรกที่ทำลายข้อจำกัดของการใช้งานที่หลาย ๆ ค่ายมักจะใช้งานไม่ได้เมื่อความเร็วต่ำ อีกทั้งระบบเบรกอัตโนมัติที่เพียงช่วยได้ครั้งเดียวก็นับว่าคุ้มค่าสุด ๆ ลดการเสียเวลา ทรัพย์สิน รวมถึงการบาทเจ็บที่จะเกิดขึ้นกับมนุษย์ เอาจริง ๆ จะบอกว่าเทคโนโลยี Eyesight ถือเป็นระบบรถยนต์อัตโนมัติ Level 1 แล้วก็ว่าได้ 

แต่เพียงซูบารุยังขอใช้คำว่า "เทคโนโลยีความปลอดภัย" เพราะก็อยากให้เป็นการเสริมความปลอดภัยและให้ทุกคนตระหนักทุกครั้งที่อยู่หลังพวงมาลัยเช่นเดิม

EyeSight เทคโนโลยีความปลอดภัยล่าสุดจาก Subaru พร้อมใช้งานและมาเหนือกว่าแบรนด์ญี่ปุ่นค่ายอื่น

ดูเพิ่มเติม
>> รถรุ่นใดปลอดภัยสุด ๆ ในไทย การันตีด้วย 5 ดาว "ASEAN NCAP"
>> 
ทำความรู้จัก !! เทคโนโลยีความปลอดภัยระดับอัฉริยะจาก 7 ค่ายชั้นนำสายพันธุ์ญี่ปุ่น

ติดตามข่าวสารรถยนต์ คลิกที่นี่

ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดีเชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้