7 เรื่องที่เป็นที่สุด ในประวัติศาสตร์วงการรถยนต์

ประสบการณ์ใช้รถ | 22 ส.ค 2562
แชร์ 0

รวบรวมเรื่องราวถึงความเป็นที่สุดที่เคยถูกบันทึกเอาไว้ในประวัติศาสตร์ในวงการรถยนต์ ที่คุณอาจยังไม่เคยรู้ กับสาระดี ๆ ที่น่าสนใจ แล้วคุณจะได้รู้ว่ามีหลายเรื่องที่อาจจะทึ่งกับสถิติที่ได้ถูกบันทึกเอาไว้

ถ้าหากตั้งคำถามว่าชอบรถคันมากที่สุด หรือถามว่าในสายตาของคุณคิดว่ารถคันไหนสวยที่สุด ทุกคนคงเลือกตอบตามความคิดเห็นส่วนตัว เพราะนี่เป็นเรื่องของความชอบส่วนบุคคล แต่ถ้าหากตั้งคำถามที่ต้องการคำตอบจากการอ้างอิงข้อมูลที่มีการบันทึกเอาไว้อย่างเป็นทางการ ยังมีอีกเรื่องราวที่คุณเองก็อาจจะยังไม่เคยรู้และไม่เคยสงสัยมาก่อนก็ได้ ดังเช่นเรื่องราวต่อจากนี้ที่เราพร้อมจะนำเสนอ ถึงความเป็นที่สุดของที่สุดในวงการรถยนต์ ที่มีการบันทึกเอาไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ แต่ละรุ่นจะเป็นที่สุดของอะไรกันบ้าง ห้ามพลาดเด็ดขาด

1. รถยนต์ที่เก่าที่สุดในโลก : La Marquise

La Marquise รถยนต์ที่เก่าที่สุดในโลกขับเคลื่อนด้วยแรงดันไอน้ำ

La Marquise รถยนต์ที่เก่าที่สุดในโลกขับเคลื่อนด้วยแรงดันไอน้ำ

เริ่มกันที่ประวัติศาสตร์การก่อกำเนิดรถยนต์ ด้วยตำแหน่งรถยนต์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกและยังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์มากที่สุดจนถึงตอนนี้ La Marquise รถยนต์สัญชาติฝรั่งเศสที่ถูกผลิตขึ้นในปี ค.ศ. 1884 เคลื่อนที่โดยใช้กลไกของแรงดันไอน้ำ ที่จะต้องจุดไฟเครื่องจักรไอน้ำทิ้งไว้ก่อน 45 นาที เพื่อสร้างแรงดันที่จะทำให้รถสามารถใช้การได้ มีถังเก็บน้ำที่ด้านหน้าแหละด้วนหลังบริเวณใต้ที่นั่งคนขับ สามารถขับเคลื่อนด้วยความเร็วเฉลี่ย 32 กม./ชม. ทำความเร็วสูงสุดได้ 60 กม./ชม. ในปัจจุบันรถเก่าคันนี้ยังคงถูกถนอม รักษาสภาพเอาไว้อย่างไม่มีร่องรอยตำหนิใด ๆ ล่าสุด La Marquise ได้ถูกนำมาประมูลแล้ว และกลายเป็นรถที่นักสะสมหลายคนต่างหมายตาจับจองเป็นเจ้าของกันถ้วนหน้า

2. รถยนต์ที่มีมูลค่าประมูลสูงที่สุด : 1962 Ferrari 250 GTO

1962 Ferrari 250 GTO ถูกประมูลไปด้วยราคาสูงถึง 2,200 ล้านบาท

1962 Ferrari 250 GTO ถูกประมูลไปด้วยราคาสูงถึง 2,200 ล้านบาท

อ่านข้อแรกไปและได้ยินว่ามีการประมูลอย่าเพิ่งคิดว่ารถที่เป็นตำนานรถคันแรกอย่าง La Marquise จะสร้างมูลค่าการประมูลได้สูงที่สุด เพราะความเก่าไม่ได้เป็นเพียงปัจจัยเดียวที่จะสร้างคุณค่าให้กับรถ เพราะคนที่ยอมเสียเงินต้องพิจารณาหลาย ๆ อย่างว่าการตั้งราคาสูงขนาดนี่้นั้นเหมาะสมหรือไม่ อย่างเช่นรถเก่าสุดยอดความคลาสสิกอย่าง 1962 Ferrari 250 GTO ที่มีมูลค่าการประมูลเริ่มต้นอยู่ที่ราคา 35 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 1,145 ล้านบาท และปิดการประมูลที่เป็นการซื้อขายแบบ Private Sale ราคาจึงกล่าวอ้างอย่างไม่เป็นทางการอยู่ที่ 70 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นราคาเท่าตัวจากราคาที่ตั้งไว้นั่นเอง

1962 Ferrari 250 GOT รุ่นพิเศษ หมายเลขตัวถัง 3413

1962 Ferrari 250 GOT รุ่นพิเศษ หมายเลขตัวถัง 3413 

ปัจจัยที่ทำให้ 1962 Ferrari 250 GOT มีราคาสูงมาก ๆ ถึงขนาดนี้ เพราะเป็นรถที่ถูกผลิตออกมาเพียงแค่ 36 คันเท่านั้นบนโลกนี้ และคันที่ถูกนำมาประมูลมีหมายเลขตัวถังเป็น 3413 ที่หมายถึงคันที่ 3 ในสายการผลิต และพิเศษไปอีกเมื่อมันหนึ่งใน 7 คันที่มาพร้อมกับชุดแต่งพิเศษ และนั่นทำให้มูลค่าของรถคันนี้สูงไปจนถึงชนิดที่ว่าสามารถซื้อเจ็ทส่วนตัวได้เลยทีเดียว

ดูเพิ่มเติม
>> ย้อนดูที่มา 6 เทคโนโลยีรถยนต์ ที่ใช้มาจนถึงปัจจุบัน

>> เผยที่มา 7 สัญลักษณ์รถยนต์หรู รู้หรือไม่โลโก้เหล่านี้มีหลักการออกแบบอย่างไร?

3. รถยนต์ที่แพงที่สุด : Bugatti La Voiture Noire

ราคาของ Bugatti La Voiture Noire สูงถึงหลักร้อยล้าน

ราคาของ Bugatti La Voiture Noire สูงถึงหลักร้อยล้าน

รู้ราคารถประมูลไปแล้ว มาดูกันต่อที่ราคาขายของรถยนต์ที่แพงที่สุดในโลก แม้ราคาจะไม่ได้สูงเท่ากับรถประมูลแต่ Bugatti La Voiture Noire ก็ได้ชื่อว่าเป็นรถที่มีราคาขายแพงที่สุดในโลก ราคาตั้งต้นอยู่ที่ 12.5 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินไทย 395 ล้านบาท และขายจริงในราคาที่สูงถึง 592 ล้านบาท ไฮเปอร์คาร์คันนี้มาพร้อมกับดีไซน์และสมรรถนะที่คุ้มราคา กับการติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 4 ตัว แบบ W16 ขนาด 8.0 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุดถึง 1,479 แรงม้า แรงบิดอยู่ที่ 1,600 นิวตันเมตร ด้านหลังมีปลายท่อไอเสียจำนวน 6 ท่อ ความโดดเด่นอยู่ที่การออกแบบที่เป็นสไตล์สุดเท่ ดุดัน แต่กลับผสานเข้ากับความประณีตในการตกแต่งได้อย่างละมุน

4. รถยนต์ที่เล็กทีสุดในโลก : Peel P50

Peel ทำการตลาดรถเล็กมาตั้งแต่ปี 1960

Peel ทำการตลาดรถเล็กมาตั้งแต่ปี 1960

เป็นชื่อยี่ห้อรถที่อาจไม่เป็นที่คุ้นเคยในบ้านเราเลยกับรถ Peel ค่ายที่มีการคอนเซ็ปต์เป็นการผลิตรถเล็ก ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ช่วงปี 1960 และปิดตัวลงไปในปี 1966 การปิดฉากครั้งนั้นหลายคนอาจคิดว่าเป็นการจบตำนานค่ายสร้างรถเล็ก แต่ล่าสุดก็เกิดเรื่องเหนือความคาดหมายเมื่อทางค่าย Peel ได้ฟื้นคืนชีพกลับมาอีกครั้งและต่อยอดตำนานที่เคยทิ้งไว้ สร้างรถ Peel P50 ขึ้นมาและได้รับความนิยมในระดับที่น่าพึงพอใจ โดยรถรุ่นนี้เป็นรถเครื่องยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดและมีขนาดที่เล็กมากจนถูกบันทึกเอาไว้ว่าเป็นรถที่เล็กที่สุดในโลก ซึ่งมีความยาวเพียง 54 นิ้ว และกว้าง 41 นิ้วเท่านั้น ให้กำลังเพียงแค่ 4 แรงม้า ทำความเร็วได้สูงสุด 50 กิโลเมตร / ชั่วโมง167 แรงม้า

Peel P50 คันเล็กน่ารัก ติดตั้งเครื่องยนต์ไฟฟ้า

Peel P50 คันเล็กน่ารัก ติดตั้งเครื่องยนต์ไฟฟ้า

สไตล์ของรถมีลักษณ์ราวกับรถที่หลุดออกมาจากหนังการ์ตูน ด้วยสภาพที่เล็กเกินกว่าคำว่ากะทัดรัด เหมาะสำหรับการใช้งานคนเดียวไว้วิ่งบนถนนเส้นเล็กที่มีเส้นทางการจราจรคับคั่ง มีซอกซอยเยอะ ๆ แต่เห็นคันเล็กขอบอกเลยว่าราคาไม่เล็ก Peel 50 มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 21,575 เหรียญสหรัฐ หรือ 6 แสนกว่าบาท ราคาสูงเทียบเท่ากับซีดานในบ้านเราเลยทีเดียว

5. รถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก : Hennessey Venom F5

Hennessey Venom F5 ทำความเร็วได้สูงถึง 484 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

Hennessey Venom F5 ทำความเร็วได้สูงถึง 484 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

พูดถึงความเร็วต้องคิดถึงรถซูเปอร์คาร์ และสำหรับรถที่คว้าตำแหน่งรถที่ทำความเร็วได้สูงที่สุดคือ Hennessey Venom F5  ราคาอยู่ที่ 1.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราวๆ 50 ล้านบาท โครงรถทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ ใช้ขุมพลังของเครื่อง Twin-Turbo V8 ขนาดความจุ 7.4 ลิตร ให้กำลัง 1,600 แรงม้า สามารถทำความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 484 กม./ชม. แต่สถิตินี้ ถูกบันทึกเอาไว้อย่างไม่เป็นทางการ เพราะยังไม่ได้ยืนยันกับทาง Guinness Book of World Records ทำให้รถที่มีความเร็วสูงสุดของโลกที่ได้ถูกบันทึกเอาไว้คือ Koenigsegg Agera RS ทำความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 447 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

Koenigsegg Agera RS ครองตำแหน่งรถที่เร็วที่สุดอย่างเป็นทางการ

Koenigsegg Agera RS ครองตำแหน่งรถที่เร็วที่สุดอย่างเป็นทางการ

6. รถยนต์ที่ยาวที่สุดในโลก : Jay Ohrburg’s Limo

Jay Ohrburg’s Limo ลีมูซีนคันหรูที่มีขนาดยาวกว่า 30 เมตร

Jay Ohrburg’s Limo ลีมูซีนคันหรูที่มีขนาดยาวกว่า 30 เมตร

ถ้าขับรถ Jay Ohrburg’s Limo คันนี้เข้าไปในปากซอยบ้านคุณ ส่วนหัวของมันคงไปติดอยู่ที่ท้ายซอยและส่วนท้ายอาจพ้นเกยออกมาหน้าถนนข้ามไปอีกซอยด้วยซ้ำ เพราะนี้คือรถที่ขึ้นชื่อว่ายาวที่สุดในโลก ด้วยความยาว 100 ฟุต หรือเทียบเป็น 30 เมตร! ความพิเศษไม่ได้อยู่ที่ความยาวเพียงอย่างเดียว รถคันนี้ยังมีพื้นที่ใช้สอยสารพัดประโยชน์เกินกว่าที่คุณจะคาด มันไม่ได้มีเอาไว้เพียงแค่ให้คุณขับรถเพราะมีฟังก์ชั่นลับที่ถูกซ่อนเอาไว้ที่จะเรียกเสียงว้าวให้แก่ผู้เข้าไปใช้งาน อย่างเช่นอ่างอาบน้ำจากุุซซี่ สระว่ายน้ำขนาดเล็ก อาบน้ำเสร็จก็กระโดดมาล้มตัวลงนอนที่เตียงคิงไซซ์ต่อ ถ้าหากคุณว่าเรื่องนี้จะน่าทึ่งแล้ว คุณจะตกใจมากขึ้นแน่ ๆ เมื่อรู้ว่ารถคันนี้มันมีลานสำหรับจอดเฮลิคอปเตอร์ด้วย นี่ถ้าแปลงร่างแบบรถใน Transfomer ได้ ลีมูซีนคันนี้คงถูกบันทึกเอาไว้ในประวัติศาสตร์อีกหนึ่งตำแหน่งอย่างรถสารพัดประโยชน์อีกแน่นอน

7. รถยนต์ที่มียอดขายสะสมมากที่สุดในโลก : Toyota Collora

Toyota Collora สร้างยอดขายสะสมมามากกว่า 46 ล้านคัน

Toyota Collora สร้างยอดขายสะสมมามากกว่า 46 ล้านคัน

เชื่อว่าอันดับสุดท้ายเป็นชื่อที่หลายคนคุ้นเคยมากที่สุดแล้วกับ Toyota Collora รถยนต์ที่อยู่ในตลาดมาอย่างต่อเนื่องและยาวนานเกินครึ่งศตวรรษ เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 1966 ทำการตลาดมาทั้งหมด 12 เจนเนอเรชั่น และมียอดขายสะสมมากว่า 46 ล้านคัน ได้รับความนิยมสูงมากทั่วโลก โดยไทยเรามักจะคุ้นเคยกับ Toyota Collora ในฐานะรถแท็กซี่ จัดว่าเป็นรถที่มีสมรรถนะที่ดีและมีราคาอยู่ในระดับที่เข้าถึงผู้ใช้ทุกระดับ จึงเป็นเหตุผลง่าย ๆ ที่ทำให้ Toyota Collora ได้ถูกบันทึกเอาไว้ใน Guinness Book of World Records อย่างเป็นทางการ ในฐานะรถที่ขายดีที่สุดในโลกตลอดกาล

แต่ละอันดับสร้างความทึ่งให้แก่คุณในระดับไหน ซึ่งข้อมูลทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลที่อัปเดตล่าสุดทุกรายการ ซึ่งไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะมีรถรุ่นไหนมาช่วงชิงความเป็นที่สุดของทั้ง 7 รุ่นนี้บ้าง ต้องมารอลุ้นและติดตามข่าวสารไปพร้อม ๆ กัน  เผื่อต่อจากนี้จะมีข่าวเปิดตัวรถที่ราคาแพงกว่า Bugatti La Voiture Noire หรือเผยสถิติรถที่ทำความเร็วได้มากกว่า Hennessey Venom F5 ก็ได้ ถ้าไม่อยากพลาดกดติดตามเว็บไซต์และแฟนเพจของเราเอาไว้และเรามาพบกันใหม่กับสถิติอื่น ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นจะทำคุณทึ่งได้อีกครั้งกับ Chobrod.com ตลาดรถออนไลน์ที่ใหญ่และน่าเชื่อถือที่สุดในประเทศไทย

ดูเพิ่มเติม
>> ย้อนดูที่มา 6 เทคโนโลยีรถยนต์ ที่ใช้มาจนถึงปัจจุบัน

>> เผยที่มา 7 สัญลักษณ์รถยนต์หรู รู้หรือไม่โลโก้เหล่านี้มีหลักการออกแบบอย่างไร?

ติดตามข่าวสารรถยนต์ คลิกที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ ตลาดรถรถ ตรงนี้

ANNOiNA
Avatar

ANNOiNA

บรรณาธิการ
ทุกอย่างมีเหตุและผลของมันเสมอ