อาจเพราะว่าคนไทยมัก “มั่นใจ”จนเกินไปว่าสภาพรถยนต์ตัวเองดี เข้าโค้งทีก็เอาอยู่แน่ๆ แม้ว่าถนนนั้นฝนจะตก จะลื่นแค่ไหน แต่การประมาทบ่อยครั้งนำมาสู่อุบัติเหตุที่ต้องสูญเสียมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง
แน่นนอนว่าการดุแลรถนต์ไม่ว่าจะเป็นรถใหม่ป้ายเเดงหรือรถมือสองสะภาพดี เราก็ต้องขึ้นอยู่กับทุกสภาพอากาศอยู่แล้ว หน้าร้อนอาจจะไม่มีปัญหามากนัก แต่สำหรับหน้าฝน ดูเหมือนว่าจะเป็นของแสลงกับรถยนต์ไม่น้อย เพราะเจ้าของรถยนต์จำต้องเพิ่มความใส่ใจในการรักษารถยนต์คู่กายมากขึ้น เพิ่อให้รถยนต์ไร้ปัญหาในการใช้งานมากที่สุด
Chobrod มีทริคดีๆ มาฝากผู้อ่านเพื่อเป็นข้อมูล และคำแนะนำในการดูแลรถยนต์ของท่านในช่วงหน้าฝน รวมเอาไว้ 5 ข้อเพื่อให้ทั้งการดูแลรถยนต์ในช่วงหน้าฝน และการขับยานยนต์ในภาวะฝนพรำเกิดความปลอดภัยมากที่สุดครับ ว่าแล้วก็เริ่มกันเลยว่ามีอะไรที่ต้องใส่ใจดูแลกันบ้าง
5 ข้อดีๆ เพื่อให้หน้าฝนคุณจะได้ขับรถยนต์อย่างปลอดภัย
เป็นอุปการณ์หลักที่ช่วยในการมองเห็นในการขับรถในหน้าฝน การดูแลรถยนต์และตรวจสภาพของใบปัดน้ำฝนควรทำขณะกระจกเปียกดูว่าไม่เกิดเสียงดัง ปัดแล้วไม่เกิดคราบน้ำบนกระจก เพราะตอนเราขับรถขณะฝนตกหนักจะอันตรายมาก หากเริ่มมีรอยบนกระจกให้เปลี่ยนใบปัดน้ำฝนใหม่ทันที
ส่วนสาเหตุที่ใบปัดน้ำฝนเกิดสียงดังนั้น น่าจะเกิดได้จากยางของใบปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพ คือยางเริ่มแข็งตัว หรือเกิดจากความฝืดของยางใบปัดน้ำฝนกับน้ำยาที่เคลือบกระจกไว้ ส่วนการดูแลใบปัดน้ำฝนก็ง่ายๆ แค่ใช้ผ้านุ่มชุบน้ำบิดให้หมาดแล้วเช็ดไปตามความยาวของใบปัดน้ำฝนก็เสร็จแล้ว และการยกก้านปัดน้ำฝนขึ้นนั้นไม่ไช่วยรักษาสภาพยางปัดน้ำฝนเลยแม้แต่น้อย แต่ยิ่งทำให้สปริงของก้านปัดน้ำฝนเสื่อมเร็วขึ้นซะอีก
ใบปัดน้ำฝน ต้องอยู่ในสภาพที่ดี และพร้อมใช้งานเมื่อฝนตกหนัก
อีกหนึ่งเรื่องของการดูแลรถยนต์ที่ต้องการการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอโดยเฉพาะในหน้าฝน คือน้ำยาฉีดกระจก เพราะขณะที่ฝนตกแบบไม่หนักมากแล้วกระจกหน้ารถเรามีฝุ่น จะเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้กระจกรถของเราจะแสนมัวหมองและต้องการน้ำยาฉีดกระจกเพื่อล้างให้สะอาดเอี่ยม วิธีการดูแลง่ายๆ แค่เปิดฝากระโปรงหน้ารถดูระดับน้ำยาฉีดกระจกไม่ให้เหลือน้อยจนเกินไปหรือจัดการเติมน้ำยาให้พร้อมสำหรับการใช้งานอยู่เสมอ
ดูเพิ่มเติม
>> มืดครึ้ม ฝนตก หมอกหนา 7 วิธีขับขี่อย่างปลอดภัยในทัศนวิสัยที่บดบัง
>> ไม่ต้องกลัวฝน กลัวน้ำ กันต่อไปแล้ว เพราะเรามีนวัตกรรมใหม่ “กระจกชอบน้ำ"
น้ำยาฉีดกระจก ต้องไม่พร่องเด็ดขาด อย่าคิดว่าหน้าฝนไม่ได้ใช้เชียวนะ
ระบบเบรกกับการขับขี่รถยนต์หน้าฝนนั้นเป็นของคู่กัน เราต้องตรวจดูว่าผ้าเบรกของรถเราสึกเกินไปแล้วหรือยังโดยการสังเกตตอนเหยีบเบรกว่ามันจมลึกกว่าปกติหรือเปล่าหรือสังเกตตอนที่เราเบรกว่ารถรถมีการดึงที่ล้อหน้าไปด้านใดด้านหนึ่งหรือไม่ ถ้ามีก็ไปเข้าศูนย์ให้เรียบร้อยจะดีที่สุด
หน้าฝนถนนลื่น แน่นอนว่าระบบเบรคจะต้องทำงานได้ดี ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัย
>> *หากสนใจการซื้อขายรถมือสองราคางามๆ กดดูที่นี่ได้นะคะ
ลมยางรถยนต์หรือสภาพของยางรถยนต์นั้น จะส่งผลต่อการขับขี่บนถนนที่มีน้ำขังหรือเมื่อเราขับรถด้วยความเร็วบนถนนที่เปียกลื่น ยางรถยนต์ที่มีความลึกของดอกยางเหมาะสมจะทำให้การรีดน้ำออกจากถนนได้ดีกว่ายางที่ดอกยางสึก และการเติมลมยางให้พอดีก็จะส่งผลเรื่องการเกาะถนนด้วยนะครับ เพราะงั้นตรวจสภาพของยางรถยนต์ซะหน่อยดูว่ายางบวมหรือไม่ มีรอยแตกที่เนื้อยางหรือเปล่า และการเติมลมยางก็ดูตามคู่มือรถ เพราะขนาดล้อของแต่ละคันไม่เท่ากันการเติมลมยางก็ต่างกันไป แค่เราไม่เติมให้แข็งเกินไปก็ใช้ได้แล้ว
เมื่อดูแลรถยนต์ได้พร้อมแล้ว ปัจจัยสุดท้ายก็คือการขับขี่อย่างปลอดภัยนั่นเอง โดยในช่วงฝนตกหนักนั้นเราควรปรับระดับความเร็วให้เหมาะสม ไม่ขับจี้ท้ายรถคันหน้าจนเกินไป หรือควรเว้นระยะห่างประมาณ 10-15 เมตรขึ้นไป และไม่ควรเหยียบเบรกกะทันหันเพราะตัวรถอาจลื่นไถลได้ แนะนำให้ลดความเร็วโดยใช้เกียร์ต่ำและค่อยๆ เหยียบเบรกจะดีที่สุด
แน่นอนว่าสิ่งสำคัญที่สุดในการขับรถหน้าฝน คือต้องไม่ประมาท
ทั้ง 5 ข้อหวังว่าจะเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ขับขี่รถยนต์ครับ เพราะต้องไม่ลืมว่าหน้าฝน ถนนก็ต้องลื่น การขับขี่ต้องเพิ่มความระมัดระวังเข้ามามากขึ้นกว่าเดิม การตรวจเช็คสภาพรถยนต์ให้พร้อมใช้งานจึงเป็นเรื่องสำคัญไม่ต่างกัน
ดูเพิ่มเติม
>> ไฟตัดหมอก! อุปกรณ์สำคัญควรใช้ให้ถูก
>> วิธีง่าย ๆ กับการดูแลรักษาแอร์รถในหน้าร้อน
ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่