ไฟตัดหมอก! อุปกรณ์สำคัญควรใช้ให้ถูก

ไฟตัดหมอก! อุปกรณ์สำคัญควรใช้ให้ถูก

ถ้าจะพูดถึงรถยนต์ในยุคสมัยนี้ส่วนใหญ่จะแถมอุปกรณ์ช่วยในการส่องสว่างรองจากไฟหลัก ก็คือไฟตัดหมอกนั่นเอง โดยประโยชน์ ของไฟตัดหมอกนั้นมีมายหลายประการเลย แต่ก็เป็นปัญหาได้เช่นกัน โดยก่อนอื่นไฟตัดหมอกนั้นจะถูกติดตั้งในส่วนของล่างสุดของกันชนหน้าจำนวน 2 ดวง ซ้าย-ขวา ส่วนด้านหลังส่วนใหญ่จะติดตั้งไว้อยู่ในดวงไฟเบรก แต่จะมีความสว่างและแยกตาต่อผู้ขับตามอย่างมาก ดังนั้นการเปิดไฟตัดหมอกที่ถูกต้องควรจะดูช่วงเวลา และ ทัศนวิสัยของถนนที่เราขับไปนั่นเอง

ไฟตัดหมอกเป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่ติดตั้งมาให้ในรถส่วนใหญ่

ในส่วนของไฟตัดหมอกนั้นไม่ควรนำไปดัดแปลงหรือปรับแต่งให้มีความสว่างมากจนเกินไป จนชาวบ้านชาวช่องเค้าจะด่าว่าได้ โดยไฟตัดหมอกที่เห็น ๆ อยู่ในทุกวันนี้นั้นได้พัฒนามาจาก “ไฟสปอร์ตไลท์ขนาดใหญ่”ในอดีต และได้ทำการปรับแต่งให้มีขนาดเล็ก ถึงแม้ความสว่างนั้นอาจจะไม่สามารถนำมาใช้งานในการส่องสว่างเท่าไฟหลักได้ แต่ก็มีประโยชน์ของมันอยู่ไม่น้อย โดยการใช้หลอดไส้เป็นแบบ H3 ที่เป็นหลอดไฟแบบเดียวกับสปอร์ตไลท์แต่จะมีกำลังวัตต์ที่น้อยกว่า แต่ให้ความสว่างไม่ต่างกัน

ในอดีตนั้นจะติดตั้ง ไฟสปอร์ตไลท์ และ เปลี่ยนมาเป็นไฟตัดหมอกในปัจจุบัน

ดูเพิ่มเติม
>> 5 คำถามด้านรถยนต์ที่ได้รับความสนใจในเวปไซต์พันทิพย์ มีอะไรกันบ้าง? มาดูกัน!!​
>> ฟังจากปากช่าง ... เรื่องของรถยนต์ที่คนไทยมักจะสนใจคืออะไร ?

ไฟตัดหมอกควรใช้ตอนไหน?

-ใช้เมื่อทัศนวิสัยไม่อำนวยแก่การขับเช่น ฝนตกหนัก หมอกหนา

-ใช้แทนดวงไฟหลักในยามฉุกเฉิน หากดวกไฟหลักเกิดการชำรุด

-เมื่อไปในที่ไม่มีไฟส่องทาง และไร้รถขับสวน

-ใช้ร่วมกับไฟขอทาง ในกรณีฉุกเฉิน

เวลาไหนที่ไม่ควรเปิด ?

-ในยามที่มีรถสวนเลนมา ไม่ควรเปิดเพราะอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุ

-เวลาที่มีแสงส่องสว่างเพียงพอ เช่น ตอนกลางวัน

-ทัศนวิสัยเห็นได้ชัดเจน

ควรเปิดไฟตัดหมอกให้ถูกเวลาเช่นตอน หมอกหนา และ ฝนตกหนัก

นอกจากนี้ตามกฎหมายว่าเรื่องการใช้ไฟตัดหมอก ไม่ถูกต้องจะถูกระบุตามประมวลกฎหมายจราจรทางบก แก้ไขในปี 2536 กล่าวว่า “ไฟตัดหมอกที่ติดตั้งในรถยนต์นั้น สามารถใช้งานได้ก็ต่อเมื่อรถวิ่งอยู่ในสภาวะที่มีหมอกควัน หรือฝุ่นละอองจนเป็นอุปสรรค อันอาจเกิดอันตรายในการขับรถและต้องไม่มีรถอยู่ด้านหน้าหรือสวนมาในระยะของแสงไฟ หรือในระยะ 150 เมตร โดยสามารถใช้หลอดไฟแสงขาว หรือ แสงเหลืองที่มีกำลังไฟไม่เกินดวงละ 55 วัตต์เท่านั้น”

ดัดแปลงไฟตัดหมอกผิดกฏหมาย มีโทษปรับ 500 บาท

โดยจะมีบทลงดังนั้น หากตรวจพบเจ้าหน้าที่จะดำเนินการจับ ปรับเป็นเงิน 500 บาท นั่นเอง จริง ๆ แล้วการใช้ไฟตัดหมอกในประเทศไทยส่วนใหญ่จำเป็นแค่บางพื้นที่เท่านั้น แต่ในทุกวันนี้ในเมืองก็ยังพบเห็นผู้ที่เปิดไฟตัดหมอกกันอยู่ บ้างก็ไม่รู้ว่าเปิด/ปิด ยังไง บ้างก็เพราะต้องการความสวยเท่ให้กับรถ ดังนั้นนอกจากที่จะควรคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยแล้ว ควรจะมีมารยาท  จิตสำนึก และความรู้พื้นฐานในการใช้ทางรถยนต์ด้วยนะครับ

เปิดไฟตัดหมอกไว้ตลอดอาจทำให้ผู้พบเห็นเกิดความลำคาญ

เรื่องไฟตัดหมอกนี้อาจจะดูไม่ค่อยจะมีความสำคัญซักเท่าไหร่นะครับ แต่สำหรับผู้ที่พบเห็นแล้วมันแย่งตาตลอดทั้งทางอาจจะทำให้สายตาเกิดความพร่ามัวได้นะครับ ดังนั้นสำหรับผู้ที่ได้อ่านเรื่องนี้ลองไปตรวจรถกันดูนะครับว่าเราลืมเปิดไฟตัดหมอกทิ้งไว้หรือเปล่า นอกจากนี้อย่าลืมหมั่นตรวจเชคสภาพไฟตัดหมอก และ อุปกรณ์ต่าง ๆ อยู่เป็นประจำนะครับ เมื่อถึงยามฉุกเฉินจริง ๆ ท่านอาจจะต้องใช้มันก็ได้ สำหรับวันนี้ Chobrod.com ต้องขอจบการแบ่งปันสาระดีๆ ไว้เพียงเท่านี้นะครับ ขอให้ทุกท่านขับรถปลอดภัย

ดูเพิ่มเติม
>> ช่างสมบูรณ์” กับประสบการณ์อยู่กับรถ 20 กว่าปีและธุรกิจรถมือสอง
>> “อู่ประชาอุทิศ 17” อู่ซ่อมช่วงล่างดีๆ ในย่านประชาอุทิศ

ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่  
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้