โอเวอร์ฮีทไม่ได้เกิดกับรถยนต์ใช้น้ำมันเท่านั้น แต่รถยนต์ไฟฟ้าก็ยังสามารถเกิดปัญหานี้ได้เช่นเดียวกัน แล้วรถยนต์ไฟฟ้าโอเวอร์ฮีทได้อย่างไร มีวิธีป้องกันยังไง ?
ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน หรือรถยนต์ไฟฟ้าก็สามารถเกิดอาการ "โอเวอร์ฮีท" ได้ หรือก็คือการที่รถยนต์มีความร้อนเกินกว่าระดับปกติ เนื่องจากเครื่องยนต์ หรือมอเตอร์ขับเคลื่อน ทำงานหนักและมีอุณหภูมิสูงจนเกินไปนั่นเอง ซึ่งอาการโอเวอร์ฮีทของรถยนต์อาจจะทำให้เกิดอันตรายตามมาได้ ควรรีบหาทางแก้ไขให้เร็วที่สุด
เครื่องยนต์โอเวอร์ฮีท เกิดจากการที่ของเหลวในระบบหล่อเย็นมีอุณหภูมิสูงมากผิดปกติ ทำให้เกิดการระเหยจนมีควันโขมงออกมาทางฝาหม้อ ซึ่งสาเหตุนั้นมาจากหลายปัจจัย อาทิ น้ำในหม้อพักมีระดับต่ำหรือเกิดการรั่วซึม พัดลมระบายความร้อนไม่ทำงาน ปิดฝาหม้อน้ำไม่สนิท ฝาหม้อน้ำเสื่อมสภาพ เกิดการอุดตันในรังผึ้งหม้อน้ำ ปั๊มน้ำชำรุด เป็นต้น
เมื่อต้องเดินทางไกล เพื่อป้องกันไม่ให้รถเกิดการโอเวอร์ฮีท ควรสังเกตไฟเตือน หากเข็มไปแตะที่ขีดสีแดง หรือไฟเตือนเปลี่ยนเป็นสีแดงเมื่อไหร่ แสดงว่าเครื่องยนต์มีปัญหาแล้ว แต่ถ้ารถยนต์อยู่ในอาการโอเวอร์ฮีทแล้ว ควรหาที่จอดและดับเครื่องยนต์ทันที จากนั้นจึงเปิดฝากระโปรงเพื่อระบายความร้อน แล้วพักเครื่องจนกว่าความร้อนจะลดลง ทางที่ดีไม่ควรเปิดฝาหม้อโดยทันที เพราะแรงดันความร้อนอาจจะลวกมือเอาได้ ควรรอให้หม้อน้ำเย็นก่อนค่อยเปิดฝาหม้อ แล้วเติมน้ำใส่ทีละนิด
รถยนต์ไฟฟ้าโอเวอร์ฮีท มีสาเหตุมาจากการใช้งานมอเตอร์ขับเคลื่อนอย่างหนักและต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ทำให้เกิดความร้อนสะสมจนมีอุณหภูมิสูงกว่าค่าที่กำหนด เมื่อรถยนต์ไฟฟ้าเกิดอาการโอเวอร์ฮีท ระบบจะตัดการทำงานเข้าสู่ Safe Mode ให้รถหยุดวิ่งชั่วคราว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดไฟลุกไหม้ และลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับระบบต่างๆ ของรถยนต์ เมื่อมอเตอร์ขับเคลื่อนกลับสู่อุณหภูมิปกติ รถยนต์ไฟฟ้าก็จะกลับมาทำงานเหมือนเดิม
นอกจากนี้ ปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลต่ออุณหภูมิและการทำงานของมอเตอร์ขับเคลื่อน ยังรวมถึงลักษณะการขับขี่ รูปแบบการขับขี่ เส้นทางการขับขี่ และระยะทางที่ขับขี่ด้วยเช่นกัน หากต้องขับรถขึ้น-ลงทางลาดชันติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ควรแวะจอดพักเป็นระยะ ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้รถยนต์ไฟฟ้าเกิดการโอเวอร์ฮีทขึ้น
อ่านเพิ่มเติม >>