พัฒนาการของรถเกิดขึ้นพร้อมๆ กับการเติบโตของแบรนด์ เส้นทางการพัฒนา Honda Accord จนมาสู่ Generation ที่ 10 จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง มาดูกัน
ดีไซน์ทันสมัยเหมาะกับไลฟ์สไตล์คนเมืองของ The New Honda Accord 2018
Honda Accord รถ Sedan ขนาดกลางที่ผลิต และพัฒนาโดยบริษัท Honda เริ่มต้นสายการผลิตในปี ค.ศ. 1976 ที่ประเทศญี่ปุ่น และปัจจุบันดำเนินมาจนถึง Generation ที่ 10 The New Honda Accord ที่เพิ่งเปิดตัวไปอย่างยิ่งใหญ่ วันนี้ Chobrod จะพาไปย้อนดูต้นตระกูลของ Honda Accord กัน
Honda Accord รุ่นแรกผลิตในปี 1976
Honda Accord the First-Generation 1976
รถรุ่นแรกของ Honda Accord ที่มาพร้อมกับสมาร์ทไซต์ และประหยัดน้ำมัน ถือเป็นรุ่นที่มียอดขายสูงที่สุดในช่วงทศวรรษ 1970 ด้วยเรือนร่างแบบแฮทช์แบ็คสามประตู มาพร้อมเครื่องเครื่อง 1600 ซีซี ซึ่งนับเป็นรถขนาดกลาง มีรูปทรงที่ใกล้เคียงกับ Honda Civic ในปีเดียวกัน เดิม Honda Accord ถูกกำหนดให้ใช้เครื่องยนต์ 6 สูบโดยเฉพาะ เพื่อให้สภาพเครื่องยนต์แตกต่างจาก Honda Civic ต่อมา Honda ได้มีการปรับเปลี่ยนระบบต่างๆ รวมทั้งเครื่องยนต์ โดยปรับปรุง และพัฒนาออกมาเป็น 2 รุ่นหลักอย่างที่เห็นในปัจจุบัน คือ รุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ และรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ 6 สูบ เน้นการเดินทางในระยะสั้น และมีการปล่อยมลพิษที่ต่ำเพื่อการประหยัดพลังงาน รวมถึงเพื่อควบคุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
ดูเพิ่มเติม
>> ยิ้มรับข้อเสนอพิเศษ Honda Accord 2018
>> 6 ฟังก์ชั่นที่ทำให้ Honda Accord 2018 น่าซื้อ!!
Honda Accord รุ่นที่ 2 ปี 1981 ใช้ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยชุดหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์
Honda Accord the Second-Generation 1981
รถรุ่นที่สองของ Honda Accord ถือว่าเป็นรุ่นแรกที่ผลิตเองในสหรัฐอเมริกา ในปี 1981 Honda Accord ออกมาทำตลาดอีกครั้ง โดยยังมีรุ่น 3 ประตู และซีดานอันเป็นเอกลักษณ์ หัวใจสำคัญอยู่ที่การออกแบบใหม่เปลี่ยนแนวทางจากเดิมที่ใช้ในรถยนต์ยุคปี 70 มาเป็นเส้นสายใหม่ที่ดูมีความปราดเปรียวมากยิ่งขึ้น ปี 1983 Honda ได้นำระบบเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ เข้ามาในรถยนต์ Honda Accord เป็นครั้งแรก แทนที่ระบบเกียร์อัตโนมัติ 3 สปีดแบบเดิม นอกจากนี้ยังเปลี่ยนหน้าปัดเรือนไมล์จากเดิมที่กำหนดให้ความเร็วไม่เกิน 136 ก.ม./ช.ม. มาเป็นความเร็วไม่เกิน 192 ก.ม./ช.ม.
นอกจากนี้ Honda ยังเป็นค่ายรถยนต์รายแรกในตลาดที่มีการปรับปรุงการออกแบบระหว่างรุ่น (Minor change) และมีการแนะนำเครื่องยนต์ใหม่ล่าสุดที่ใช้ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยชุดหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ ในเครื่องยนต์รหัส ES รุ่น 1.8 ลิตร และถูกติดตั้งในรถยนต์ Honda Accord เป็นครั้งแรก ส่วนในอเมริกา Honda ก็ได้เพิ่มมาตรฐานความปลอดภัยในการขับขี่ใหม่ ที่เรียกว่า Anti Lock Brake หรือ ALB เข้ามาในรถยนต์ Honda Accord อีกด้วย
Honda Accord รุ่นที่ 3 ปี 1986 ที่ปรับปรุงระบบกันสะเทือนด้านหน้ามาเป็นระบบ Double Wishbone
Honda Accord the Third-Generation 1986
Honda Accord รุ่นที่ 3 ได้มีการปรับปรุงรูปแบบดีไซน์ให้สปอร์ตดูโดดเด่นขึ้น โดย Honda Prelude เป็นตัวต้นแบบ เอกลักษณ์ที่สำคัญในรุ่นคือรถยนต์จะเป็นชุดไฟป๊อปอัพตามยุคสมัย ได้รับการชื่นชมอย่างมากในเรื่องการออกแบบที่ดึงดูดใจ ภายใต้ผลงานออกแบบของ โตชิ โอชิกะ ที่ซุ่มทำงานมาตั้งแต่ปี 1983 และยังมีการปรับปรุงระบบกันสะเทือนทางด้านหน้าใหม่ จากระบบ MacPherson strut มาเป็นระบบ Double Wishbone ทั้งทางด้านด้านหน้าและด้านหลัง พร้อมนำเครื่องยนต์ตระกูล B Series เข้ามาแทนเครื่องยนต์ดั้งเดิม
ในปี 1987 ได้ออกรถยนต์ที่ชื่อว่า Honda Accord Aero Deck ออกมาเอาใจลูกค้าที่ชื่นชอบในรถยนต์ 3 ประตู แม้ว่าจะดูคล้าย Honda Civic 3 ประตู ในรุ่นเดียวกัน แต่ตัวรถก็มีขนาดพื้นที่กว้างกว่าพอสมควร ยิ่งไปกว่านั้นพวงมาลัยของรถถูกปรับให้มีความสปอร์ตในการขับขี่มีความคมมากกว่า Honda Accord รุ่นปกติที่ทำออกมาจำหน่าย รวมถึงยังมีระบบ 4W-ALB หรือเทียบเท่า ABS 4 ล้อในปัจจุบัน อีกต่างหาก
Honda Accord รุ่นที่ 4 ปี 1990 หรือที่เรียกกันว่ารุ่นตาเพชร
Honda Accord the Fourth-Generation 1990
Honda Accord รุ่นนี้ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มรถซีดานขนาดกลางที่มีเครื่องยนต์ขนาด 2.2 ลิตร และได้มีการตั้งชื่อตามโคมไฟหน้า Reflector ใหม่ที่เป็นประกายว่า “Honda Accord ตาเพชร” นอกจากรุ่นซีดานแล้วยังมีรุ่นคูเป้ ที่เสริมเส้นสายการออกแบบให้ดูสปอร์ตยิ่งขึ้น แนวทางที่เปลี่ยนไปของ Honda Accord แต่ยังคงเปี่ยมไปด้วยสมรรถนะการขับขี่มากมาย
Honda Accord รุ่นที่ 5 ปี 1994 ปรับรูปลักษณ์ภายใน สมรรถนะ และความปลอดภัย เพิ่มเติมจากรุ่น 4
Honda Accord the Fifth-Generation 1994
มีการปรับรูปลักษณ์ภายใน สมรรถะ และความปลอดในการขับขี่ รวมถึงมีการเพิ่มถุงลมนิรภัยคู่ด้านหน้าเข้ามา แต่ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงเครื่องยนต์จากรุ่นตราเพชร เพียงแค่มีการขยับปรับจูนแรงม้าเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย ในรุ่นเครื่องยนต์ 2.0- 2.2 ลิตร และเป็นครั้งแรกที่ฮอนด้าต้องการสร้างความแตกต่างด้วยเครื่องยนต์แบบ V6 ขนาด 2.7 ลิตร ให้กำลัง 170 แรงม้า รวมถึงยังมีรุ่น SiR เวอร์ชั่นแรงเป็นพิเศษวางขายเอาใจลูกค้าในญี่ปุ่นเพิ่มเติม
Honda Accord รุ่นที่ 6 ปี 1998 เน้นตอบโจทย์ผู้ขับขี่ในเรื่องของการขับขี่ที่แรง และเร้าใจ
Honda Accord the Sixth-Generation 1998
ปรับโฉมใหม่ให้มีขนาดใหญ่ และกว้างขวางขึ้น มาพร้อมกับความเป็น exclusive ทั้งในการการดีไซน์ และสมรรถะเครื่องยนต์ แม้ภายนอกจะดูโฉบเฉี่ยวตามสมัย แต่เบื้องหลังคือการทำให้ Honda Accord รุ่นที่ 6 นี้ตอบโจทย์ในเรื่องของความแรงเร้าใจ ทำให้ต้องถูกปรับขนาดลดตัวถังลงจากพิกัดที่ถูกปรับไปเป็นรถขนาดกลาง ในฝั่งทวีปยุโรปที่ได้ออกรุ่น Honda Accord Euro R เรียกว่าเป็นครั้งแรกของ Honda Accord พร้อมซิ่ง จุด้วยขุมพลังขนาด 2.2 ลิตร ให้กำลัง 220 แรงม้า ให้ท่อไอเสียสปอร์ต และเฮดเดอร์สูตร 4-2-1 เคียงข้างกับระบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด พร้อมกับระบบเฟืองท้ายแบบ Limited Slip Torsen LSD ซึ่งไม่ค่อยพบในรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้ามากนัก
Honda Accord รุ่นที่ 6 ปี 2003 ที่พัฒนาเพิ่มเติมโดยการนำเทคโนโลยี Hybrid มาใช้ในรถรุ่นนี้
Honda Accord the Seventh-Generation 2003
Honda Accord ได้เพิ่มความเป็นที่หนึ่งทั้งในด้านขนาดของรถที่ใหญ่ขึ้น สมรรถนะเครื่องยนต์ที่ดี และแรงขึ้น จัดให้อยู่ใน top 10 ของรถที่ดีที่สุด ในปี 2005 Honda Accord ได้มีการพัฒนาเพิ่มขึ้นโดยมีการนำเทคโนโลยี Hybrid มาเปิดตัวให้โลกรู้จัก โดยออกแบบเป็น 2 ตัวถังเหมือนเดิม เป็นการพัฒนาโครงสร้างตัวถังจากรุ่นที่ 6 แต่มีการออกแบบที่ทันสมัยมากยิ่งขึ้น ทางด้านตลาดอเมริกา Honda Accord เปิดตัวในเวอร์ชั่นที่แตกต่างออกไปจากโครงสร้างใหม่ และตัวรถที่มีขนาดใหญ่ขึ้น พร้อมด้วยการออกแบบที่ความทันสมัย ในปี 2006 มีการเปลี่ยนการออกแบบรุ่นไมเนอร์เชนจ์ ที่ออกแบบไฟท้ายใหม่จากไฟแนวยาวมาเป็นไฟท้ายทรงสามเหลี่ยม ถือเป็นเอกลักษณ์สำคัญ
การปรับรุ่นมาอยู่ในกลุ่มรถยนต์นั่งขนาดใหญ่ Honda Accord รุ่นที่ 8 ปี 2008
Honda Accord the Eighth-Generation 2008
Honda Accord รุ่นนี้ถูกจัดให้อยู่ในรถยนต์นั่งขนาดใหญ่ ที่มีความปราดเปรียวว่องไว และสนุกสนานในการขับขี่ มีความหรูหราที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ต่างๆ มากมาย รวมถึงความมีประสิทธิภาพในด้านการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่ดีขึ้น ตัวรถมีขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อเพิ่มความสมส่วนให้กับรถ โดยเป็นรุ่นสุดท้ายที่ใช้ระบบช่วงล่างแบบ Double wish Boneและเป็นรุ่นสุดท้ายที่ใช้เครื่องยนต์ขนาด V6 3.5 ลิตรในตลาดประเทศไทย
ดีไซน์ที่โแบเฉี่ยวมากยิ่งขึ้นของ Honda Accord รุ่นที่ 9 ปี 2013
Honda Accord the Ninth-Generation 2013
มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ล้ำหน้า สมรรถนะที่ดีเลิศ และการดีไซน์ที่ดีสวยงามขึ้นอีกระดับ โดย Honda Accord G9 นี้ได้เพิ่มสไตล์ที่โดดเด่นขึ้นกว่าที่เคยมีมา ไฮไลท์สำคัญอยู่ที่เครื่องยนต์ขนาด 2.4 ลิตรใหม่ ที่พัฒนาภายใต้เทคโนโลยี Honda EarthDream ให้การตอบสนองการขับขี่ดีขึ้น และรักษาสิ่งแวดล้อมดีขึ้น ถือเป็นครั้งแรกที่ฮอนด้าพัฒนาเครื่องยนต์แบบไฮบริด และไฮบริดเสียบปลั้กมาตอบสนองตลอด ด้วยระบบไฮบริดแบบใหม่ที่มีสมรรถนะในการขับขี่มากกว่าที่เคย
The New Honda Accord 2018 โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยว
ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง ด้วยการเพิ่มพื้นที่วางเท้า และขยายพื้นที่ส่วนที่นั่งผู้โดยสาร
THE New Honda Accord the Tenth-Generation 2018
ที่มีการยกระดับให้น่าซื้อมากยิ่งขึ้น ด้วยการติดตั้งเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีดในรุ่นเครื่องยนต์เบนซินเทอโบ 2.0 ลิตร พร้อมปุ่มควบคุมเกียร์ไฟฟ้าแทนที่คันเกียร์แบบเดิม พร้อมพัฒนาอัตราทดให้เร่งออกตัวได้ไว้ขึ้น ขณะเดียวกันก็ช่วยให้ขับขี่ทางไกลได้สบายยิ่งขึ้นด้วย แม้ว่าจะลดความยาวของตัวถัง และปรับตัวรถให้เตี้ยลง แต่ก็ได้เพิ่มพื้นที่วางขาสำหรับผู้โดยสารตอนหลังเพิ่มขึ้นอีกราว 2 นิ้ว ทำให้ Accord กลายเป็นรถที่มีพื้นที่วางขามากที่สุดในรถระดับเดียวกัน โดดเด่นด้วยการทำงานของระบบ Sport Hybrid i-MMD ที่ช่วยให้สมรรถนะสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น รวมถึงมีการปรับโครงสร้างของ Honda Accord 2018 ใหม่ ด้วยการใช้เหล็กแบบ Ultra high strength ร่วมด้วยถึง 29 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงของตัวรถ และลดการบิดตัวในขณะเข้าโค้งได้ ขณะเดียวกันยังช่วยให้รถมีน้ำหนักเบาลงกว่ารุ่นที่แล้ว 50-80 กิโลกรัม ซึ่งจะส่งผลให้อัตราสิ้นเปลืองดีขึ้นกว่าเดิมอย่างชัดเจน
ดูเพิ่มเติม
>> Honda Accord 2018 กับ Toyota Camry 2018 ซื้อคันไหนดี ?
>> สี่งที่คุ้นเคยเเต่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบเกี่ยวกับ Honda แบรนด์รถยนต์แห่งความภาคภูมิใจของคนญี่ปุ่น
The New Honda Accord 2018
เรียกได้ว่า Honda Accord คืออีกหนึ่งตำนานของรถ Hybrid ที่มีพัฒนาการก้าวกระโดดอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าจะเป็นรถ Sedan ที่ราคาแพงที่สุดใน D-Segment ของ Honda แต่แหม! คุณภาพคับแก้วขนาดนี้ราคาก็ถือว่าไม่แรงเกินคุณภาพเลยนะคะ
ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่
ติดตามรีวิวรถยนต์ เชิญที่นี่