ข้อปฏิบัติ การใช้รถใช้ถนน กับ 10 นิสัยการขับขี่ที่ทำร้ายรถคุณได้โดยไม่รู้ตัว

ประสบการณ์ใช้รถ | 7 มิ.ย 2561
แชร์ 1

รู้หรือไม่ว่า? การขับขี่รถด้วย 10 พฤติกรรมการขับขี่ที่จะนำเสนอต่อไปนี้จะทำร้ายรถของคุณได้โดยไม่รู้ตัว มาดูกันกับข้อปฏิบัติ การใช้รถใช้ถนนที่ควรหลีกเลี่ยง

ความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนนั้นแน่นอนว่าหลัก ๆ ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการขับขี่ของผู้ใช้รถ ซึ่งก็มีหลายคนที่มั่นใจในฝีมือการขับขี่รถของตัวเองจนละเลยความปลอดภัย ไม่ให้ความใส่ใจในบางเรื่องอย่างที่ควรจะเป็น Chobrod พาไปสำรวจ 10 ข้อที่ควรหลีกเลี่ยงในการขับขี่ เพื่อการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย

#1. เอามือวางบนกระปุกเกียร์

ครูสอนขับรถเคยบอกผู้อ่านให้เอาสองมือจับพวงมาลัยตลอดเวลา แต่หลายคนเริ่มติดนิสัยเสียเมื่อป้าย "หัดขับ" ลงถังขยะ หนึ่งในนิสัยที่ว่าอาจรวมถึงการวางมือไว้บนกระปุกเกียร์ แต่รู้ไหมว่าเกิดผลเสียต่อระบบเกียร์ได้
กระปุกเกียร์เชื่อมต่อกับ selector fork (ก้ามปูเลือกเฟือง) ซึ่งถูกออกแบบให้ปะทะกับ rotating collar (แหวนหมุน) ในเวลาสั้นๆ

ข้อปฏิบัติ การใช้รถใช้ถนน อย่าเอามือวางบนเกียร์
ความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน หลีกเลี่ยงการวางมือไว้บนเกียร์แบบไม่ปล่อย

ถ้าพักมือไว้บนกระปุก จะเสี่ยงต่อการกดแรงดันไปที่ก้ามปู เกิดความเสียหายก่อนเวลาอันควร คู่มือบางฉบับแนะนำโดยเฉพาะว่าอย่าพักมือไว้บนกระปุก ควรไปอ่านคู่มือเพื่อดูว่ารถของตัวเองเข้าข่ายหรือเปล่า

#2. ลากเบรกลงเนิน

การลากเบรกเป็นการกระทำที่น่ารังเกียจซึ่งอาจเพิ่มการสึกหรอในผ้าและจานเบรกทำให้ต้องเปลี่ยนอะไหล่บ่อยขึ้นซึ่งเพิ่มค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็นเมื่อกำลังขับรถลงเนินลงเกียร์ต่ำดีที่สุดเปิดไฟเบรกแล้วผ่อนคันเร่งเพื่อทำความเย็นเบรกเหยียบเบรกเมื่อจำเป็น แล้วทำซ้ำจนกว่าจะลงสุดเขา

#3. เลี้ยงคันเร่งตอนเกียร์สูง

รถยุคนี้หลายคันมีไฟแจ้งเปลี่ยนเกียร์ คอยแนะนำเวลาขยับเกียร์ขึ้นหรือลง รถเหล่านี้มีแนวโน้มว่าจะประหยัดน้ำมัน บ่อยกว่าที่คนขับจะไม่ตัดระยะเปลี่ยนเกียร์เพื่อดึงประสิทธิภาพออกมาสูงสุด แต่ต้องคอยสังเกตไอคอนลดเกียร์หรือเตรียมลดเกียร์เมื่อจำเป็นการเดินคันเร่งรอบต่ำ หรือในเกียร์สูงเกินทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักขึ้น สร้างอาการล้าในมอเตอร์โดยไม่จำเป็น ลดเกียร์ลงแล้วให้รอบเครื่องเร่งก่อนเข้าเกียร์ นี่เป็นเรื่องสำคัญโดยเฉพาะเมื่อบรรทุกของหนักๆ หรือขึ้นทางลาดชัน

ดูเพิ่มเติม
>> ความรู้เรื่องรถ กับการเช็กรถด้วยตัวเอง ไม่ต้องไปถึงอู่
>> 5 ข้อควรหลีกเลี่ยง เทคนิคการขับรถให้ปลอดภัย ที่มือใหม่ต้องรู้

#4. บรรทุกของหนักเกิน

รถยุคนี้หลายคนถูกออกแบบให้บรรทุกของหนักๆ ได้ แต่ไม่ใช่หนักเกิน คู่มือรถจะบอกน้ำหนักสูงสุดที่บรรทุกได้ ซึ่งบ่งบอกว่าสามารถขนสัมภาระได้แค่ไหน บททดสอบมักเกิดเมื่อต้องย้ายบ้านหรือเที่ยววันหยุดยาว ยิ่งแบกหนัก ยิ่งเกิดอาการล้าในเบรก ระบบรองรับ และระบบขับเคลื่อน

ข้อปฏิบัติ การใช้รถใช้ถนน บรรทุกของในระดับที่พอดี
หลักการความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน ไม่บรรทุกของให้หนักเกินไป

อีกข้อที่ควรรู้คือขณะที่ทิ้งของไม่จำเป็นไว้ในรถ อย่างถุงไม้กอล์ฟหรือชุดไปฟิตเนสท้ายรถ ไม่ได้เพิ่มอาการล้าในตัวรถ แต่กระทบการใช้น้ำมันและการปล่อยมลพิษ ควรเอาถุงไม้กอล์ฟไปเก็บที่บ้านเมื่อไม่ใช้ซะและเดินทางกับสัมภาระให้เบาที่สุด

#5. วิ่งอัดหลังเต่าและลูกระนาด

รายงานหลายฉบับพบว่าหนึ่งในสามของความเสียหายในรถเกิดจากเนินหลังเต่า เลี่ยงมันบนถนนดีที่สุด ผลกระทบทำให้ล้อแม็กงอ, ยางบวม และอัลลอยแตก เช่นเดียวกับเกิดปัญหาในระยะล้อและเสียสมดุลล้อ ก็ใช่ เนินบางอันมันมองเห็นยาก โดยเฉพาะตอนฝนตกหรือตกกลางคืน แต่เมื่อเป็นไปได้ ควรเลี่ยงเลย เช่นกัน การวิ่งเด้งลูกระนาดโดยไม่ชะลอเกิดความเสียหายในรถได้ที่ด้านหน้ากับหลัง, ช่วงล่าง และอาจรวมถึงท่อไอเสีย

#6. เข้าเกียร์ถอยหลังก่อนหยุดรถ

การเปลี่ยนเกียร์ระหว่างถอยหลังกับเดินหน้า (และอื่นๆ) ในรถเกียร์อัตโนมัติเป็นผลเสียต่อระบบเกียร์จริงๆ กระปุกมีไว้เปลี่ยนเกียร์ เรื่องหยุดรถเป็นงานของเบรก การเปลี่ยนเกียร์ก่อนหยุดรถจะเกิดการสึกหรอใน transmission band (แผ่นเหล็กยืดหยุ่นในเกียร์) มากกว่าในจานและผ้าเบรก ซึ่งเปลี่ยนอะไหล่ได้

ข้อปฏิบัติ การใช้รถใช้ถนน เข้าเกียร์ถอยรถ หลังรถหยุดสนิท
ก่อนเข้าเกียร์ถอยรถ ควรหยุดรถให้สนิทก่อน

การซ่อมแซมใดๆ เกี่ยวกับเกียร์อัตโนมัติต้องใช้แรงงานเป็นหลัก ต้องเสียเงินพอสมควร เช่นเดียวกับการกระตุกเกียร์ธรรมดา ควรหยุดรถให้สนิทก่อนเข้าเกียร์ถอยหลัง (แม้รถยุคนี้ส่วนใหญ่จะไม่ให้เปลี่ยนเกียร์ถ้าไม่หยุดรถก็เถอะ)

#7. เร่งเครื่องตอนอุณหภูมิเย็น

บางคนอาจบอกว่าเดินทางระยะสั้นเป็นประจำเป็นปัญหากับรถเพราะน้ำมันเครื่องไม่เคยวอร์มอัพเต็มที่ที่จริงรถทุกคันเริ่มจากอุณหภูมิเย็นจัด สิ่งสำคัญที่สุดคือเลี่ยงการเร่งเครื่องจนกว่าตัวเครื่องยนต์จะวอร์มอัพแล้ว ทำให้น้ำมันมีเวลาอบอุ่นตัวเองและไหลเวียนรอบเครื่องยนต์ เลี่ยงความเสียหายและอาการสึกหรอเกินควร

#8. ละเลยไฟแจ้งเตือน

แดชบอร์ดสมัยนี้มีไฟหลายดวง บางดวง เช่น "น้ำยาเช็ดกระจก" หรือ "หลอดไฟดับ" สามารถปล่อยผ่านได้จนกระทั่งหยุดรถ แต่ไฟดวงอื่นต้องตรวจสอบให้เร็วที่สุด ควรอ่านคู่มือเพื่อหาความหมายของไฟเตือนบนแดชบอร์ดแล้วทำความคุ้นเคยกับดวงที่ร้ายแรงที่สุดจนรู้ว่าไฟดวงไหนต้องแก้ปัญหาทันทีขณะขับรถ

ข้อปฏิบัติ การใช้รถใช้ถนน ดูสัญญาณไฟให้เป็น
หลักการความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน ศึกษาไฟแจ้งเตือนทุกดวงเพื่อรับมือเหตุฉุกเฉิน

ถ้าไฟแจ้งเตือนต่อไปนี้สว่างขึ้นบนแดชบอร์ด ควรหยุดรถและแจ้งช่างซ่อมจากผู้ให้บริการหรืออู่ในละแวกนั้นที่ไว้ใจได้

  • เครื่องยนต์/ECU
  • ระบบเบรก
  • พวงมาลัยไฟฟ้าเสีย
  • ถุงลมนิรภัย
  • แรงดันน้ำมัน
  • ระบบทำความเย็น

#9. จมคลัตช์

การจมคลัตช์เป็นความคิดที่แย่ โดยเฉพาะที่เป็นชิ้นส่วน “สึกหรอ” และไม่มีการรับประกัน การจมคลัตช์มันเกิดตอนที่คนขับลืมปล่อยเท้าจากคันเร่งหลังเปลี่ยนเกียร์ หรือพยายามสตาร์ทรถบนทางชัน การคุมคลัตช์ที่ไม่ดีจะเกิดความเสียหายอย่างมาก ลดระยะการใช้งานของจาน ตรวจสอบว่าเอาเท้าออกจากคลัตช์แล้ว วางบนแป้นพักเท้า ถ้ายังอยู่บนคลัตช์ เมื่อสตาร์ทรถบนทางลาดชัน ปล่อยรถที่เกียร์ว่างด้วยเบรกมือจนกว่าจะพร้อมออกตัว

#10. เบรกช้า

อาจมีบางครั้งที่คนขับต้องหยุดรถฉุกเฉินการเบรกทันทีเป็นสิ่งสำคัญแต่เบรกช้ากว่าบ่อยๆ จะเกิดอาการล้าในระบบเบรกผ้าและจานเบรกสึกเร็วขึ้น แถมกินน้ำมันอีกโดยทั่วไป ขับรถช้าๆ และรอบคอบสนใจทางข้างหน้า ดีกว่าต่อตัวรถและสิ่งแวดล้อม

ทั้งหมดนี้คือพฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยง เป็นหลักการความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน ลองสำรวจดูว่าคุณเองก็เป็นหนึ่งในผู้ที่มีพฤติกรรมการใช้รถแบบนี้หรือเปล่า? ถ้าใช่ปรับเปลี่ยนปรับปรุงเสีย เพื่อการเพิ่มอายุการใช้งานของรถคุณให้ยาวนานขึ้น และเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนทั้งต่อคุณเองและเพื่อนร่วมทาง

Chobrod ขอฝากความรู้เกี่ยวกับข้อปฏิบัติ การใช้รถใช้ถนนไว้เพียงเท่านี้และอย่าลืมแชร์ความรู้เกี่ยวกับเรื่องรถยนต์ของคุณให้เราด้วย มาแลกเปลี่ยนกันว่าพฤติกรรม

ดูเพิ่มเติม
>> 10 อุปกรณ์ที่ควรมีติดรถยนต์ คนใช้รถควรพกพา
>> ยางตามฤดูกาล เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับยางรถยนต์รอบโลก

เข้าดู รถบ้านมือสอง ได้ที่นี่