ความรู้เรื่องรถ กับการเช็กรถด้วยตัวเอง ไม่ต้องไปถึงอู่

ประสบการณ์ใช้รถ | 30 ต.ค 2563
แชร์ 4

หากไม่มีเวลาจริง ๆ แต่อยากดูแลรถของตัวเองให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ ควรมีความรู้เรื่องรถเกี่ยวกับตรวจเช็กรถ ที่ทำได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องเสียเงินไปซ่อมรถบ่อย ๆ

มีหลายคนมากที่ต้องเสียเงินเสียทองไปกับการซ่อมรถปีปีหนึ่งไม่ใช่น้อยๆ บางคนก็หมดไปหลายหมื่นหรือบางคนก็เฉียดแสน นั้นก็ไม่ใช้รถที่ใช้นั้นไม่ดีหรือรถเก่าจึงต้องเสียเงินซ่อมรถมากมายเสมอไป แต่นั้นก็เพราะเจ้าของรถละเลยการตรวจเช็กรถ ซึ่งถ้าหมั่นตรวจเช็กรถบ่อยๆ ใส่ใจดูแลรถเช่นเดียวกับการดูแลตัวเองและครอบครัวก็จะช่วยประหยัดเงินในการซ่อมรถไปได้มาก

ความรู้เรื่องรถ เช็กรถยนต์
มีความรู้เรื่องรถยนต์เพื่อการตรวจเช็กรถของคุณ

แต่หลายคนก็คิดว่าการตรวจเช็กนั้นมันดูจะเสียเวลามากเพราะต้องนำรถเข้าศูนย์หรืออู่เพื่อตรวจเช็กรถ ซึ่งบางคนต้องทำงานทั้งวันแบบตัวเป็นเกลียวหัวเป็นนอต  แล้วจะเอาเวลาไหนนำรถเข้าตรวจเช็ก จริงๆ แล้วการนำรถเข้าตรวจเช็กที่ศูนย์หรืออู่นั้นก็คือความคิดที่ถูกต้อง เพราะการตรวจเช็กรถด้วยช่างที่มีฝีมือนั้นก็จะช่วยให้มั่นใจในการนำรถออกมาขับขี่มากขึ้น แต่ถ้าไม่มีเวลาจริงๆ และไม่อยากเสียเงินก็สามารถตรวจเช็กรถเองได้แบบง่าย ๆ เป็นวิธีการดูแลรถเก่าที่ใครก็ทำได้ 

#สัญญาณไฟรถยนต์

ซึ่งหลายคนละเลยการตรวจเช็กสัญญาณไฟ เพราะคิดว่าสัญญาณไฟที่ใช้อยู่ทุกวันไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่จริงๆ สัญญาณนั้นก็มีความสำคัญมาก เพราะสัญญาณไฟถือว่าเป็นการสื่อสารที่สำคัญมากกับผู้ร่วมชะตากรรมบนท้องถนน

ความรู้เรื่องรถยนต์ สัญญาณไฟ
เช็กสัญญาณไฟว่าอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน

เพราะถ้าถ้าขาดสัญญาณไฟการเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา ก็อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ซึ่งการตรวจเช็กสัญญาณไฟก็ไม่ได้ยากเลย เพียงแค่สละเวลาแค่ไม่กี่นาที เปิดไฟเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา เช็กไฟเบรก ไปถอยหลัง ไฟฉุกเฉิน เพื่อความปลอดภัย

#น้ำยาหล่อเย็นในหม้อน้ำ

การตรวจเช็กควรจะตรวจเช็กในช่วงเช้าก่อนที่จะสตาร์ทรถออกจากบ้าน เพราะเครื่องยนต์ยังไม่ร้อน ส่วนวิธีการตรวจเช็กนั้นก็เพียงแค่เปิดฝาหม้อน้ำหรือถังพักน้ำสำรองออก เพื่อดูสีของน้ำยาหล่อเย็นว่ายังเป็นสีเดิมหรือไม่ หรือระดับน้ำลดลงไปมากน้อยแค่ไหน  ถ้าลดลงมากก็ให้เติมเข้าไปให้ได้ระดับที่พอดี

#น้ำมันเครื่อง

น้ำมันเครื่องนี้สำคัญมากเช่นกันอย่าปล่อยให้แห้งโดยเด็ดขาด เพราะถ้าแห้งเครื่องอาจจะพังได้ ซึ่งวิธีการตรวจเช็กก็เพียงแค่ดึงก้านน้ำมันเครื่องออกมาตรวจเช็กซึ่งจะต้องตรวจเช็กในขณะที่เครื่องยนต์กำลังทำงาน ว่าน้ำมันเครื่องนั้นแห้งไปมากน้อยแค่ไหน

ความรู้เรื่องรถยนต์ เช็กน้ำมันเครื่อง
เช็กน้ำมันเครื่องอย่าปล่อยให้แห้ง

ถ้าแห้งลงมากและยังไม่ถึงรอบที่จะเปลี่ยนถ่ายก็ให้เติมน้ำมันเครื่องลงไปให้ได้ระดับพอดี และก็ให้เช็กปลายก้านน้ำมันเครื่องให้สะอาด จากนั้นก็ใส่กลับเข้าไปที่เดิมอีกครั้ง ทิ้งไว้สักครู่แล้วจึงดังออกมาวัดระดับดูว่ามีน้ำมันเครื่องเหลือปริมาณเท่าใด โดยให้เราดูจากวัดระดับ ซึ่งเราควรจะให้ระดับน้ำมันเครื่องอยู่ในจุด F หรือ FULL จึงจะเป็นการดีที่สุด

#ยางรถยนต์

ยางรถยนต์ก็สำคัญมากเพราะถ้ายางรถเกิดบวมจนอาจทำให้เกิดแตกหรือระเบิดก็จะทำให้เกิดความเสียหายและอันตรายมาก ที่สำคัญอาจจะต้องเสียเงินซ่อมมากอีกด้วย ซึ่งการตรวจเช็กก็เพียงแค่หมั่นดูดอกยางว่าสึกมากน้อยแค่ไหน เมื่อเดิมลมไปแล้วล้อไหนที่ลมอ่อนไวและต้องเติมลมบ่อย หรือขณะขับขี่ลองปล่อยพวงมาลัยสังเกตว่ารถเอียงไปซ้ายหรือขวาแบบกะทันหันหรือไหม ถ้าเริ่มมีอาการก็ให้นำรถเข้าศูนย์หรืออู่ทันที

#ผ้าเบรก

รถนั้นถ้าไม่เบรกก็จะไม่สามารถขับขี่ไปได้เช่นกัน เพราะเบรกเป็นสิ่งแรกที่จะทำให้คนขับขี่ปลอดภัยถ้าเกิดเหตุสุดวิสัยขึ้น ซึ่งวิธีการตรวจเช็กทำได้โดยฟังเสียงเบรกว่าเมื่อเหยียบเบรกแล้วมีเสียเหล็กเสียดสีกันหรือไม่ ถ้ามีแสดงว่าผ้าเบรกกำลังจะหมด หรือลองสังเกตว่าขณะที่ขับขี่และเหยียบเบรกสมรรถนะของการเบรกนั้นผิดปกติหรือไม่ ถ้ารู้สึกว่าผิดปกติก็ให้รีบนำรถเข้าซ่อมโดยด่วน

ความรู้เรื่องรถยนต์ วิธีการดูแลรถเก่า
หมั่นตรวจเช็กรถยนต์เพื่อให้มั่นใจว่าอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน

เห็นไหมว่าการตรวจเช็กรถนั้นไม่ได้จำเป็นต้องนำรถเข้าศูนย์หรืออู่ซ่อมรถเท่านั้น ผู้ขับขี่สามารถตรวจเช็กรถเบื้องต้นได้ด้วยตัวเอง เพียงแค่มีความรู้เรื่องรถยนต์ ซึ่งก็ง่ายมากๆ เพราะการตรวจเช็กรถนั้นผู้ขับขี่ก็ต้องตรวจสอบอยู่เป็นปกติอยู่แล้ว ขึ้นอยู่ว่าจะหมั่นตรวจเช็กรถบ่อยแค่ไหน ถ้าหมั่นตรวจเช็กรถบ่อยๆ ก็จะยิ่งประหยัดค่าซ่อม และที่สำคัญยังช่วยให้ผู้ขับขี่ปลอดภัยมากขึ้นอีกด้วย เพราะยิ่งรู้ว่ารถมีความผิดปกติเร็วขึ้นก็ทำให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องไปประสบปัญหาหรืออุบัติเหตุบนท้องถนน

ดูเพิ่มเติม
>> การดูแลรักษารถยนต์เบื้องต้น ที่คนรักรถต้องรู้
>> 10 เคล็ดลับกับการดูแลรถของคุณให้ดูใหม่อยู่เสมอแบบมืออาชีพ

เข้าดู รถมือสองได้ที่นี่