วิธีง่ายๆ ใครคิดที่จะผ่อนรถมือหนึ่ง ต้องคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้ !!

ประสบการณ์ใช้รถ | 15 ก.พ 2562
แชร์ 0

เดี๊ยนเชื่อว่าเพื่อนๆ ใน chobrod เองก็ชอบจะผ่อนรถยนต์มากกว่าซื้อเงินสด แต่มีอีกหลายคนที่ยังไม่เคยถอยรถมาก่อน ดังนั้นเดี๊ยนคิดว่าเราควรจะรู้ตรงนี้ไว้ก่อนเป็นยอดดีนะคะเพื่อนๆ วันนี้เดี๊ยนก็มีวิธีง่ายๆ ที่มือใหม่สามารถทำตามกันได้มาฝากกันค่ะกับวิธีผ่อนรถ แต่จะมีอะไรบ้าง ไปดูจ้า

วิธีง่ายๆ ใครคิดที่จะผ่อนรถมือหนึ่ง ต้องคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้ !!

วิธีง่ายๆ ใครคิดที่จะผ่อนรถมือหนึ่ง ต้องคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้ !!

ยุคนี้สมัยนี้การซื้อรถยนต์สักคันนั้นถือว่าเป็นเรื่องใหญ่หากว่าเราต้องใช้จ่ายด้วยเงินสด ดังนั้นการผ่อนจ่ายหรือการดาวน์ถือว่าเป็นตัวช่วยชั้นดีในการออกรถยนต์เลยล่ะค่ะ ซึ่งมีน้องๆหรือว่ามนุษย์เงินเดือนหลายๆ คนที่ต้องการจะออกรถยนต์มาขับเป็นของตัวเองแต่ไม่มีเงินมากพอที่จะไปซื้อรถยนต์ด้วยเงินสด วันนี้เดี๊ยนก็นำวิธีดีๆ มาบอกกันนะคะ ก่อนที่เราจะเริ่มผ่อนนั้นเราต้องเตรียมตัวอย่างไรกันบ้าง ? แล้วมีปัจจัยอะไรให้เราต้องคิดตามหรือไม่ ? วันนี้เราจะรวมหลายคำถาม รวมทุกประเด็นมาไว้ในคอนเทนต์นี้กันจ้า

ตรวจดูประวัติตนเองให้แน่ใจว่าติดแบล็คลิสต์หรือไม่

ตรวจดูประวัติตนเองให้แน่ใจว่าติดแบล็คลิสต์หรือไม่

ดูเพิ่มเติม
>> ไขข้อสงสัย : “ไฟแนนซ์จะยึดรถไหม” ถ้าหาไม่มีเงินผ่อนรถ!?
>> รู้ยัง?! กฎหมายใหม่ในการผ่อนรถ..จ่ายค่างวดเท่าเดิมเพิ่มเติมคือ “ลดต้นลดดอก”

เช็คให้แน่ใจว่าติดแบล็กลิสต์ (Blacklist) หรือไม่

หลายคนถามว่าการติดแบล็กลิสต์คืออะไร ? แบล็กลิสต์คือประวัติเสียที่ปรากฏขึ้นในประวัติของเรา เช่นการผิดนัดชำระหนี้บัตรเครดิต หรือ การผิดชำระการผ่อนต่างๆ ดังนั้นเรื่องนี้ค่อนข้างจะสำคัญอยู่ค่ะเพื่อนๆ เพราะถึงแม้บางคนอาจจะเป็นมือใหม่หัดผ่อน แต่ถ้ามีแบล็กลิสต์ติดอยู่นั้นต้องทำเรื่องปิดไปก่อนเป็นระยะเวลาที่นานกว่า 2 ปี หลังจากนั้นจึงจะเริ่มผ่อนได้ แต่มีอีกวิธีนึงคือถ้าอยากซื้อเลยเราต้องนำใบปิดเรื่องมายื่นกับฝ่ายไฟแนนซ์และวางเงินดาวน์ไว้ประมาณ 40% ขึ้นไป โดยไฟแนนซ์จะพิจารณาเป็นพิเศษ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับกรณีของแต่ละบุคคลด้วยค่ะ

เอกสารต้องพร้อมยื่นให้ไฟแนนซ์

เอกสารต้องพร้อมยื่นให้ไฟแนนซ์

เอกสารพร้อมเตรียมยื่น

ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่เราเช็คเรียบร้อยแล้วว่าเราไม่มีการติดแบล็กลิสต์ใดๆ ขั้นตอนต่อมาให้เราเตรียมเอกสารสำคัญไว้รอยื่นได้เลยค่ะ โดยเราสามารถขอแยกชุดเอกสารสำหรับพนักงานประจำและอาชีพอิสระได้ตามนี้เลยค่ะ

เอกสารสำหรับพนักงานประจำ

– สำเนาบัตรประชาชน และ สำเนาทะเบียนบ้าน อย่างละ 3 ใบ

– สลิปเงินเดือน (สลิปคาร์บอน) ย้อนหลัง 6 เดือน หากไม่มี ให้ใช้ใบรับรองเงินเดือน

– สมุดบัญชีเงินเดือน ย้อนหลัง 6 เดือน เพื่อดูความสามารถในการชำระหนี้

หากไม่ค่อยได้อัพบุ๊ค สามารถใช้ Statement (ย้อนหลัง 6 เดือน) ที่ขอจากธนาคารได้เช่นกัน

เอกสารสำหรับอาชีพอิสระ (เช่น ค้าขาย)

– สำเนาบัตรประชาชน และ สำเนาทะเบียนบ้าน อย่างละ 3 ใบ (ข้อนี้เหมือนพนง.ประจำ)

– ใบเสร็จ ใบส่งของ หลักฐานการซื้อขายทุกอย่าง ต้องเก็บไว้ยื่นไฟแนนซ์ ยิ่งครบ ยิ่งผ่านง่าย

– รูปถ่ายหน้าร้าน พร้อมใบเสร็จค่าเช่าที่ หรือ ภาพเพจ Facebook, IG หากขายของทางออนไลน์

– Statement หรือ รายการเดินบัญชีย้อนหลัง 1 ปี เพื่อแสดงฐานรายได้ที่มั่นคง

ถ้าจะให้ดีควรจะมีรายได้หรือรายรับก้อนใหญ่เข้าบัญชีทุกเดือนหรือไม่ก็เป็นรายได้เล็กน้อยสม่ำเสมอเข้าบัญชีอยู่ตลอดไม่ขาดนะคะ เมื่อเรามีเงินเข้าแล้วก็อย่าเพิ่งถอนออกมาหมดทันทีล่ะ ให้ทยอยถอนทีละนิดในวันถัดไป โดยที่ยังต้องคงเหลือเงินในบัญชีไว้ประมาณ 10% จะดูน่าเชื่อที่สุดค่ะ

การวางยอดดาวน์เป็นจำนวนมากในครั้งแรกถือว่าเป็นเรื่องที่ดี

การวางยอดดาวน์เป็นจำนวนมากในครั้งแรกถือว่าเป็นเรื่องที่ดี 

ยอดดาวน์ยิ่งมากยิ่งดี

อย่างแรกเดี๊ยนขออธิบายเรื่องเงินดาวน์ก่อนเลยค่ะ เงินดาวน์คือเงินสดที่เราจะต้องออกเงินซื้อรถเองเป็นส่วนแรก เมื่อหักลบจากราคารถแล้ว เหลือเท่าไหร่ทางไฟแนนซ์จะนำยอดที่เหลือหรือยอดจัดไปคูณเปอร์เซนต์ดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อคิดยอดผ่อนชำระที่คุณต้องจ่ายต่อเดือนนั่นเองค่ะ นั่นหมายความว่า ยิ่งยอดดาวน์สูงเท่าไหร่เงินผ่อนชำระที่เราจะต่ำลงเท่านั้น เปรียบง่ายๆ ค่ะ ดาวน์สูง – ผ่อนต่ำ, ดาวน์ต่ำ – ผ่อนสูง เป็นต้น หากเรามีเงินสดมากพอ ควรลงเงินดาวน์ให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ตั้งแต่แรก เพราะดอกเบี้ยของรถยนต์เป็นดอกเบี้ยแบบตายตัวค่ะ คำนวณรอบเดียวมีผลไปถึงรอบสุดท้าย ต่อให้มีเงินก้อนมาโปะ งวดที่เหลือเราก็ต้องเสียดอกเท่าเดิมอยู่ดี ต่างจากการผ่อนบ้านหรือผ่อนสิ่งของต่างๆ ที่เราสามารถโปะให้ดอกเบี้ยลดลงได้ และหากว่าเราเหลือเงินดาวน์น้อยกว่า 20% ของราคารถยนต์ จะต้องมีคนมาค้ำประกันหรือหากรายได้ไม่ถึง 2 เท่าของค่างวดรถยนต์ ควรมีคนอีกคนหนึ่งมาช่วยซื้อร่วมนะคะ ถึงจะผ่านไฟแนนซ์ได้ง่ายขึ้น

เวลาผ่อนยิ่งน้อยยิ่งดี

เวลาผ่อนชำระยิ่งน้อยเท่าไหร่ ยิ่งดีเท่านั้น

ปัจจัยที่มีผลต่อการคิดดอกเบี้ยก็คือ จำนวนการผ่อนชำระนี่แหละค่ะ ยิ่งผ่อนนาน ดอกเบี้ยยิ่งสูงขึ้น โดยส่วนมากจำนวนงวดที่นิยมกันนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 48 เดือนหรือ 4 ปี 60 เดือนหรือ 5 ปี หากนานกว่านี้ดอกเบี้ยจะสูงเป็นเงาตามตัวเลยล่ะค่ะ เพราะฉะนั้นนั่นจะทำให้เราต้องจ่ายเกินราคาจริงมากเกินไปโดยไม่จำเป็น แต่ส่วนมาผู้คนส่วนใหญ่จะเลือกผ่อนแบบ 48 เดือนเพราะว่าการผ่อน 1-4 ปีนั้นดอกเบี้ยต้องเป็นอัตราเดียวกันแน่นอน เพราะฉะนั้น 4 ปีจะเวิร์คที่สุดค่ะ

เป็นยังไงกันบ้างคะ วิธีง่ายๆ สำหรับมือใหม่หัดผ่อน ไม่ยากเลยใช่ไหมล่ะค่ะ เอาเป็นว่าใครที่เพิ่งจะเริ่มผ่อนรถก็อย่าลืมศึกษาให้ถ่องแท้ก่อนนะคะ วันนี้เดี๊ยนต้องขอตัวลาไปก่อนค่ะ พบกันใหม่คอนเทนต์หน้า สวัสดีจ้า

ดูเพิ่มเติม
>> เจาะคำถาม ล้วงคำตอบ: คืนรถเช่าซื้อแล้ว ไฟแนนซ์ขายขาดทุน ไม่ต้องจ่ายค่าขายขาดทุน ???
>> ผ่อนรถไม่ไหวคืนรถให้ไฟแนนซ์ อาจไม่จบ ระวังโดนยึดทรัพย์!

ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่