รถเบรกแตก เพราะน้ำมันเบรก จริงหรือไม่??
เบรกแตก เรื่องร้ายแรงที่สุด สำหรับคนขับรถ ซึ่งอาการเบรกแตก เกิดได้จากหลายสาเหตุ ส่วนหนึ่งเพราะขาดการตรวจเช็ค และการดูแลรักษานั่นเอง ส่งผลให้ระบบเบรกด้อยประสิทธิภาพลง แล้วรู้หรือไม่ว่าน้ำมันเบรก เกี่ยวข้องอะไรกับอาการเบรกแตก ไปดูกันเลย
สาเหตุของอาการเบรกแตก
น้ำมันเบรก ทำหน้าที่เป็นตัวกลาง ในการถ่ายทอดกำลังเมื่อเราเหยียบเบรก โดยแรงดันที่เหยียบ จะถูกส่งผ่านน้ำมันเบรก เข้าไปในระบบห้ามล้อทั้ง 4 ล้อ ทำให้ความเร็วของรถช้าลง หรือหยุดตามแรงกดที่ต้องการ รวมถึงจุดเดือดของน้ำมันเบรก ในขณะที่เราเหยียบเบรก ด้วยความเร็วสูงหรือบรรทุกหนัก อุณหภูมิที่ผ้าเบรกและจานเบรกจะสูงมาก และความร้อนดังกล่าว จะถูกถ่ายเทมายังน้ำมันเบรก แต่ถ้าน้ำมันเบรก มีจุดเดือดต่ำ กรณีนี้น้ำมันเบรกจะระเหยกลายเป็นไอ ไม่สามารถทำหน้าที่เป็นตัวกลางถ่ายทอดกำลังในระบบเบรกได้ ทำให้เบรกไม่อยู่ หรือ เบรกแตก นั่นเอง
อาการเบรกแตก เกิดจากสาเหตุดังต่อไปนี้
- ระบบเบรกได้รับความเสียหายจากการขับขี่ เพราะระบบเบรก เป็นระบบไฮดรอลิกที่ทำงานด้วยน้ำมัน หากเกิดความขัดข้องขึ้น ระบบจะไม่สามารถทำงานได้ คือ เบรกแตก นั่นเอง
- เบรกรั่วจากระบบสายอ่อน หรือ ท่อทางเดินน้ำมันเบรกรั่ว อาการบ่งบอก คือ มีรอยซึม หรือมีรอยคราบของน้ำมันเบรก กรณีนี้จะทำให้ประสิทธิภาพของเบรกลดลง
- ระบบแรงดันของน้ำมันเบรก มีอากาศตกค้างอยู่ในวงจร น้ำมันเบรก จากการไล่ลมหรือฟองอากาศออกจากระบบไม่หมด ทำให้น้ำมันเบรกไม่เต็มระบบเกิดช่องว่างในส่วนของเหลวที่เป็นน้ำมันเบรก จนไม่สามารถส่งแรงดันไปได้เต็มที่
- น้ำมันเบรกเสื่อม ในกระบอกปั้มล้อ จะมีลูกยางประกอบ ทำหน้าที่ป้องกันน้ำมันรั่ว ซึ่งหากลูกยางจะเสื่อมสภาพ จากอายุการใช้งาน ทำให้ไม่สามารถป้องกันการรั่วของน้ำมันเบรกที่กระบอกปั้มล้อได้
ซึ่งในกรณีน้ำมันเบรกเสื่อม สามารถตรวจสอบได้ด้วยวิธีง่ายๆ ดังต่อไปนี้
- อันดับแรก ถอดล้อออก
- ตามด้วย ถอดจานเบรกออก
- เปิดยางกันฝุ่น ที่ครอบกระบอกปั้มออก
- สังเกตดูว่า หากมีน้ำมันเบรกรั่ว ซึงออกมา ก็แสดงว่าลูกยางเสื่อม ให้รีบเปลี่ยน
สาเหตุของอาการเบรกแตก
- น้ำมันเบรกหมด หรือ น้ำมันในกระบอกเหลือน้อย ก็ทำให้เบรกทำงานได้ไม่เต็มที่แล้ว ดังนั้น ควรตรวจสอบและเช็คกระบอกใส่น้ำมันเสมอ รวมถึงสามารถสังเกตได้จากหน้าปัด ซึ่งจะมีสัญลักษณ์เตือน กรณีที่น้ำมันเบรกเหลือน้อย เพื่อป้องกันอาการเบรกแตก ที่จะเกิดขึ้น
- น้ำมันเบรกชื้น เมื่อเวลาเบรก จะเกิดการเสียดสีและเกิดความร้อนขึ้น ซึ่งถ้ามีความชื้นมาก น้ำในระบบน้ำมันเบรก ก็จะระเหยกลายเป็นไอ ทำให้ลูกสูบไม่ทำงาน และเบรกไม่ได้ในที่สุด
- สายเบรกขาด
- ผ้าเบรกหมด
- ผ้าเบรกไหม้
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการเบรกแตก ฉะนั้น ถ้าไม่อยากเกิดปัญหาอาการเบรกแตก ควรหมั่นตรวจเช็คระดับน้ำมันเบรกอยู่เป็นประจำ ลองเปิดฝากระโปรงหน้ารถดูสักหน่อยว่า น้ำมันเบรกอยู่ในระดับที่เหมาะสมหรือไม่ เพื่อลดอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นได้ รวมทั้งเปลี่ยนน้ำมันเบรก ทุกๆ 1-2 ปี และที่สำคัญอีกอย่าง คือ ไม่ควรนำน้ำมันเบรกต่างยี่ห้อ หรือต่างมาตรฐานมาใช้งาน หรือผสมกัน เพราะอาจทำให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมี กลายเป็นสาเหตุให้คุณสมบัติของน้ำมันเบรกเปลี่ยนแปลงไป
>> ดูเพิ่มเติม:
เอาไม่อยู่! ดึงเบรคมือ แต่รถยังไหล เพราะอะไร??
