เปรียบเทียบอัตราสิ้นเปลืองน้ํามันรถกระบะ ให้เห็นว่ารถกระบะที่ประหยัดน้ํามันที่สุดคือรุ่นใด ตอบโจทย์ผู้ที่กำลังมองหารถกระบะมาใช้งาน และต้องการความคุ้มค่าที่สุด
รถกระบะ นอกจากจะมีข้อดีที่สามารถบรรทุกของได้ในจำนวนมาก มีความคงทน แข็งแรง และใช้งานได้ยาวนานแล้ว ยังมีขุมพลังแรง มีการอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่ค่อนข้างดี และให้ความประหยัดน้ำมันพอสมควรอีกด้วย สำหรับผู้ที่กำลังมองหารถกระบะประหยัดน้ำมันสักคันมาใช้งาน แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกรุ่นไหนดี เราขอเปรียบเทียบอัตราสิ้นเปลืองน้ํามันรถกระบะ ให้เห็นกันชัด ๆ ว่ารถกระบะรุ่นไหน ตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้มากที่สุด
รถ กระบะ ที่ ประหยัด น้ํา มัน ที่สุด
รถกระบะประหยัดน้ํามันขวัญใจคนไทย ที่มียอดขายติดลมบนในตลาดรถทั้งมือหนึ่งและมือสอง Isuzu D-Max Hi-Lander รุ่น 1.9 Ddi M มาพร้อมเครื่องยนต์ ขนาด 1.9 ลิตร 1,898 ซีซี. 4 สูบ แถวเรียง 16 วาล์ว DOHC คอมมอนเรลไดเร็กอินเจกชัน พร้อม VGS เทอร์โบและอินเตอร์คูลเลอร์ ส่งกำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ที่ 1,800 - 2,600 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ และเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ขับเคลื่อน 2 ล้อ มีอัตราสิ้นเปลืองน้ํามันเชื้อเพลิง เฉลี่ยที่ 14.79 กม./ลิตร
รถ กระบะ ประหยัด น้ำมัน
Nissan Navara Double cab 4WD รุ่น PRO-4X 7AT รถกระบะประหยัดน้ำมัน ที่มีอัตราสิ้นเปลืองน้ํามันเชื้อเพลิง เฉลี่ย 14.56 กม./ลิตร ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.3 ลิตร 2,298 ซีซี. 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว เทอร์โบคู่ อินเตอร์คูลเลอร์ คอมมอนเรลไดเร็กอินเจกชัน ส่งกำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,750 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ที่ 1,500 - 2,500 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ พร้อมโหมดแมนนวล ขับเคลื่อน 4 ล้อ
อัตรา สิ้น เปลือง น้ํา มัน รถ กระบะ
จัดว่าเป็นอีกหนึ่งรถกระบะที่ประหยัดน้ํามันที่สุด สำหรับ Mazda BT-50 รุ่น 1.9 SP 6AT พร้อมพุ่งทะยานด้วยเครื่องยนต์ 1.9 ลิตร 1,898 ซีซี. แถวเรียง 4 สูบ 16 วาล์ว VGS เทอร์โบ และอินเตอร์คูลเลอร์ คอมมอนเรลไดเร็กอินเจกชัน ส่งกำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ที่ 1,800 - 2,600 รอบต่อนาที ทำงานประสานกับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ขับเคลื่อน 2 ล้อ โดยมีอัตราสิ้นเปลืองน้ํามันเชื้อเพลิง เฉลี่ยที่ 14.35 กม./ลิตร
รถ กระบะ ประหยัด น้ํา มัน
มาต่อกันที่รถกระบะประหยัดน้ำมันที่มียอดขายเป็นอันดับต้น ๆ และได้รับความนิยมมากในไทย อย่าง Toyota Hilux Revo GR Sport รุ่น 2.8 AT 4×4 มาพร้อมขุมพลังดีเซล ขนาด 2.8 ลิตร 2,755 ซีซี. 4 สูบ แถวเรียง 16 วาล์ว DOHC VN Turbo และ Intercooler ส่งกำลังสูงสุด 204 แรงม้า ที่ 3,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,600 - 2,800 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับอัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อม Sequential Shift และ Paddle Shift ขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อม Differential Lock ที่เฟืองท้าย มีอัตราสิ้นเปลืองน้ํามันเชื้อเพลิง เฉลี่ยที่ 13.70 กม./ลิตร
กระบะ ประหยัด น้ํา มัน
ปิดท้ายด้วยกระบะประหยัดน้ํามัน รุ่นท็อปจากอีซูซุ อย่าง Isuzu D-Max V-Cross รุ่น 3.0 M 6MT 4×4 มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง เฉลี่ยอยู่ที่ 13.60 กม./ลิตร ใช้เครื่องยนต์ ขนาด 3.0 ลิตร 1,898 ซีซี. 4 สูบ แถวเรียง 16 วาล์ว DOHC คอมมอนเรลไดเร็กอินเจกชัน พร้อม VGS เทอร์โบและอินเตอร์คูลเลอร์ ส่งกำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ที่ 1,600 - 2,600 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ และเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง เฉลี่ย 13.60 กม./ลิตร
และนี่คือ 5 รถกระบะที่ประหยัดน้ํามันที่สุดในปีนี้ ซึ่งแต่ละรุ่นมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่แตกต่างกันไม่มากนัก จะเลือกรุ่นไหนก็ล้วนขึ้นอยู่กับความต้องการส่วนบุคคล โดยอาจจะใช้ปัจจัยอื่น ๆ ตัดสินใจร่วมด้วย เช่น ราคา ดีไซน์ หรือออปชันที่ได้
อ่านเพิ่มเติม >>