ผ่านแล้ว.. บทลงโทษใหม่จราจร ฝ่าไฟแดง แซงซ้าย ขับแช่ขวา ขับรถเร็ว รับหมายนัดศาลใน 3 วัน

ประสบการณ์ใช้รถ | 8 ก.ย 2565
แชร์ 5

ครม. มีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีจราจรแบบใหม่ ตั้งแผนกคดีจราจรขึ้นในศาลแขวงต่าง ๆ โดยตำรวจไม่ต้องออกใบสั่ง ให้ส่งฟ้องไปที่ศาลและออกใบนัดให้ไปศาลแทนภายใน 3 วัน

ผ่านแล้ว.. บทลงโทษใหม่จราจรใหม่ ฝ่าไฟแดง แซงซ้าย ขับแช่ขวา ขับรถเร็ว รับหมายนัดศาลใน 3 วัน

เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2565 คณะรัฐมนตรีได้ทำการประชุม ร่างพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีจราจร พ.ศ. .... อนุมัติหลักตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอ เพื่อให้การพิจารณาคดีจราจรเป็นไปด้วยความสะดวกและรวดเร็วขึ้น

อ่านเพิ่มเติม - กฎหมายจราจรใหม่ 2565 บังคับใช้แล้ว 5 ก.ย. กับ 4 เรื่องที่ต้องระวัง

ผ่านแล้ว.. บทลงโทษใหม่จราจรใหม่ ฝ่าไฟแดง แซงซ้าย ขับแช่ขวา ขับรถเร็ว รับหมายนัดศาลใน 3 วัน

โดยสารระสำคัญคือการตั้งแผนกคดีจราจรขึ้นในศาลเพื่อพิจารณาคดีโดยเฉพาะ ให้ตำรวจยกเลิกออกใบสั่งจาก เปลี่ยนเป็นดำเนินการออกใบนัดไปศาลให้แก่ผู้กระทำผิดภายใน 3 วันแทน ตามกลุ่มคดีที่มีความผิดดังนี้

  • คดีเกี่ยวกับใบขับขี่ - ใบขับขี่หมดอายุ, ไม่มีใบขับขี่, เพิกถอนหรือสั่งพักใบขับขี่
  • คดีเกี่ยวกับการขนวัตถุอันตราย - การขับขี่ของรถบรรทุกของเหลวไวไฟ ก๊าซไวไฟ วัตถุระเบิด หรือวัตถุอันตรายชนิดอื่น
  • คดีไม่ปฏิบัติตามสัญญาณไฟจราจร - การฝ่าไฟแดง
  • คดีการไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติเกี่ยวกับการแซงเพื่อขึ้นหน้ารถอื่น - ขับรถแซงซ้าย, ขับรถแช่ขวา
  • คดีขับรถด้วยความเร็วที่ไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด - ขับรถเร็ว
  • คดีความผิดขับรถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น - เมาแล้วขับ

นอกจากนี้ยังเตรียม เตรียมให้แผนกคดีจราจรเปิดทำการนอกเวลาราชการ และนำวิธีพิจารณาคดีทางออนไลน์มาใช้ โดยสามารถอ่านสาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติ ได้ที่ด้านล่างนี้

ผ่านแล้ว.. บทลงโทษใหม่จราจรใหม่ ฝ่าไฟแดง แซงซ้าย ขับแช่ขวา ขับรถเร็ว รับหมายนัดศาลใน 3 วัน

สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติ

ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้มีกฎหมายวิธีพิจารณาคดีจราจรและจัดตั้งแผนกคดีจราจรขึ้นโดยเฉพาะต่างหากจากคดีอาณาทั่วไป โดยกำหนดประเภทคดีที่เป็นคดีจราจรซึ่งจะต้องดำเนินการตามพระราชบัญญัตินี้ กำหนดขั้นตอนดำเนินงานเป็นการเฉพาะสำหรับคดีจราจรโดยให้พนักงานสอบสวนออกใบนัดให้ผู้กระทำความผิดคดีจราจรไปศาล และกำหนดให้ศาลมีอำนาจออกคำสั่งให้ใช้มาตรการลงโทษแก่ผู้กระทำความผิดคดีจราจรนอกจากที่กำหนดไว้ในกฎหมายเรื่องนั้น ๆ รายละเอียดดังนี้

1. กำหนดให้จัดตั้งและเปิดทำการแผนกคดีจราจรขึ้นในศาลแขวงในกรุงเทพมหานคร ศาลแขวงนครปฐม ศาลแขวงนนทบุรี และศาลแขวงสมุทรปราการ ส่วนศาลแขวงในจังหวัดอื่นและศาลจังหวัดสำหรับท้องที่ที่ไม่อยู่ในอำนาจของศาลแขวง ให้จัดตั้งแผนกคดีจราจรขึ้นในศาลดังกล่าวทุกศาล แต่จะเปิดทำการเมื่อใดให้ออกเป็นประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม

2. กำหนดประเภทคดีที่เป็นคดีจราจร ดังนี้
2.1 คดีความผิดตามมาตรา 64 และมาตรา 65 แห่งพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 กล่าวคือ คดีขับรถโดยไม่ได้รับใบอนุญาตขับรถ คดีขับรถเมื่อใบอนุญาตขับรถสิ้นอายุ และคดีขับรถระหว่างถูกสั่งพักใช้หรือถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับรถ และคดีความผิดตามมาตรา 16 มาตรา 17 วรรคหนึ่ง มาตรา 22 มาตรา 44 มาตรา 45 มาตรา 46 และมาตรา 67 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 กล่าวคือ คดีไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติเกี่ยวกับการขับขี่ของรถบรรทุกของเหลวไวไฟ ก๊าซไวไฟ วัตถุระเบิด หรือวัตถุอันตรายชนิดอื่นใด คดีไม่ปฏิบัติตามสัญญาณไฟจราจร คดีการไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติเกี่ยวกับการแซงเพื่อขึ้นหน้ารถอื่นและคดีขับรถด้วยความเร็วที่ไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด
 2.2 คดีความผิดที่เปรียบเทียบปรับได้ตามกฎหมายว่าด้วยจราจรทางบก กฎหมายว่าด้วยรถยนต์ กฎหมายว่าด้วยขนส่งทางบก กฎหมายว่าด้วยทางหลวง และกฎหมายว่าด้วยการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ซึ่งผู้ฝ่าฝืนไม่ชำระค่าปรับ แต่ไม่ให้รวมถึงในกรณีที่ผู้ฝ่าฝืนได้ก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่น
2.3 คดีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยจราจรทางบกนอกจากที่ระบุไว้ในข้อ 2.2 เช่น คดีความผิดขับรถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น เป็นต้น

3. กำหนดให้แผนกคดีจราจรเปิดทำการนอกเวลาราชการและนำวิธีพิจารณาคดีทางอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ในคดีจราจร ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในข้อบังคับของประธานศาลฎีกา

4. กำหนดให้ประธานศาลฎีกาโดยความเห็นชอบของที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกามีอำนาจออกข้อบังคับเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ และในกรณีที่ไม่มีบทบัญญัติตามพระราชบัญญัตินี้และข้อบังคับดังกล่าว ให้นำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา หรือกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวงหรือประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับบทบัญญัติ ตามพระราชบัญญัตินี้

5. กำหนดขั้นตอนดำเนินงานเป็นการเฉพาะสำหรับคดีจราจร โดยสรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
5.1 กรณีคดีความผิดตามข้อ 2.1 ห้ามมิให้พนักงานเจ้าหน้าที่เปรียบเทียบปรับหรือออกใบสั่งแก่ผู้ฝ่าฝืน แต่ให้ผู้นั้นไปพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้พนักงานสอบสวนดำเนินการออกใบนัดให้ผู้นั้นไปศาลต่อไป
5.2 กรณีคดีความผิดตามข้อ 2.2 หากผู้ฝ่าฝืนแจ้งว่าตนไม่ได้กระทำความผิด ไม่ยินยอมให้เปรียบเทียบปรับ หรือไม่ประสงค์ชำระค่าปรับตามที่เปรียบเทียบ โดยไม่ปรากฏหลักฐานโดยชัดแจ้งว่าไม่มีเหตุตามกฎหมายที่จะออกใบสั่ง ให้พนักงานสอบสวนดำเนินการออกใบนัดให้ผู้นั้นไปศาลต่อไป
5.3 กรณีคดีความผิดตามข้อ 2.3 ให้สอบสวนและดำเนินกระบวนพิจารณาคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาหรือกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง แล้วแต่กรณี โดยศาลสามารถนำมาตรการตามข้อ 5.8 มาใช้ในคดีได้
5.4 กำหนดให้พนักงานสอบสวนส่งคู่ฉบับใบนัดให้ไปศาลตามข้อ 5.1 และ 5.2 พร้อมพยานหลักฐานไปยังศาลภายในสามวันนับแต่วันที่ออกใบนัด โดยให้พนักงานอัยการลงชื่อในคู่ฉบับใบนัดนั้น และให้ถือว่าคู่ฉบับดังกล่าวเป็นคำฟ้องโดยไม่ต้องทำการสอบสวน โดยในกรณีที่ผู้ต้องหาตามใบนัดดังกล่าวยินยอมชำระค่าปรับในอัตราที่พนักงานสอบสวนเปรียบเทียบก่อนวันที่ระบุให้ไปศาล ก็ให้คดีเป็นอันเลิกกัน
5.5 กำหนดให้ในกรณีที่ศาลประทับรับฟ้องแล้ว หากจำเลยไม่มาศาลตามวันและเวลาที่ระบุในใบนัด ให้ศาลมีอำนาจสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของจำเลยได้ไม่เกิน 90 วัน
5.6 กำหนดให้ในกรณีที่จำเลยมาศาล หากจำเลยให้การรับสารภาพศาลจะพิพากษาโดยไม่ต้องสืบพยานต่อไปก็ได้ แต่ถ้าจำเลยไม่ยอมให้การหรือให้การปฏิเสธให้ศาลใช้ดุลพินิจว่าพยานหลักฐานเท่าที่ปรากฏเพียงพอที่จะพิพากษาคดีไปทันทีหรือไม่ หากเพียงพอก็ให้ศาลพิพากษาคดีทันที แต่ถ้าเห็นว่าจำเป็นต้องไต่สวนพยานหลักฐานเพิ่มเติมก็ให้ศาลกำหนดนัดพิจารณาเพื่อสืบพยานต่อไป
5.7 กำหนดให้ในวันนัดสืบพยานโจทก์ ถ้าโจทก์หรือพยานโจทก์มาศาล ก็ให้ศาลดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป แต่ถ้าโจทก์และพยานโจทก์ไม่มาศาล ก็ให้ศาลยกฟ้องเว้นแต่ในกรณีที่ศาลเห็นว่ามีเหตุสมควรที่โจทก์และพยานโจทก์มาศาลไม่ได้ จะสั่งเลื่อนคดีไปก็ได้ โดยในกรณีที่ยกฟ้อง ถ้าโจทก์มาร้องภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่ศาลยกฟ้องโดยแสดงให้ศาลเห็นว่ามีเหตุสมควรที่มาศาลไม่ได้ ก็ให้ศาลยกคดีนั้นขึ้นพิจารณาใหม่
5.8 กำหนดให้ศาลมีอำนาจออกคำสั่งให้ใช้มาตรการลงโทษแก่จำเลยซึ่งมีความผิดนอกจากที่กำหนดไว้ในกฎหมายเรื่องนั้น ๆ ได้ เช่น ยึด พักใช้ หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ ให้ทำกิจกรรมบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์ ให้ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หรืออุปกรณ์อื่นใดที่สามารถตรวจสอบหรือจำกัดการเดินทางหรือตรวจสอบปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย ให้เข้ารับการศึกษาอบรมด้านการจราจร เป็นต้น
5.9 กำหนดห้ามมิให้อุทธรณ์คำสั่งหรือคำพิพากษาของศาลในปัญหาข้อเท็จจริง เว้นแต่เป็นคดีจราจรตามข้อ 2.3 และกรณีที่ศาลมีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่หรือมีคำสั่งให้ทำกิจกรรมบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์

6. กำหนดบทเฉพาะกาลให้บรรดาคดีจราจรที่ค้างพิจารณาอยู่ในศาลใดในวันที่พระราชบัญญัติใช้บังคับ ให้ศาลซึ่งคดีนั้นค้างพิจารณาอยู่คงมีอำนาจพิจารณาพิพากษาต่อไป และให้นำกฎหมายซึ่งใช้บังคับอยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับมาใช้บังคับจนกว่าคดีนั้นจะถึงที่สุด

ตลาดรถมือสอง มีรถมากมายให้เลือกในราคาที่ถูกใจ