สำหรับผู้ที่มีรถยนต์ การต่อภาษีรถยนต์ หรือที่เรียกกันว่าการต่อทะเบียนรถยนต์นั้น เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ เทียบเท่ากับการทำพ.ร.บ. รถยนต์ ซึ่งเป็นเรื่องที่มีผลทางกฎหมายที่ระบุเอาไว้อย่างชัดเจนว่าเจ้าของรถทุกคันต้องนำรถไปต่อทะเบียนทุกปีและห้ามลืมเด็ดขาด โดยการต่อภาษีรถยนต์นั้น มีค่าใช้จ่ายที่อยู่ในหลักพันบาท ซึ่งมีการคำนวณคิดหาราคาตามแต่ประเภทรถที่แตกต่างกันไป หลาย ๆ ท่านอาจไม่รู้ว่าการ ต่อภาษีรถยนต์ ราคา 2566 เท่าไหร่ มีการคิดค่าใช้จ่ายอย่างไร วันนี้เราจะมานำเสนอข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้กัน
การคํานวณภาษีรถยนต์ 2566
1. ค่าต่อภาษีรถ 2566 : รถป้ายทะเบียนพื้นขาว ตัวหนังสือดำ
รถป้ายทะเบียนพื้นขาวตัวหนังสือดำ คิดภาษีตามขนาดเครื่องยนต์
รถป้ายทะเบียนพื้นขาว ตัวหนังสือดำ เป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง อาทิ รถเก๋ง, รถกระบะ การคำนวณภาษีรถจะขึ้นอยู่กับขนาดของเครื่องยนต์ (cc) ดังนี้
- เครื่องยนต์ขนาด 1-600 ซีซี. – คิดอัตราภาษี ซีซี. ละ 50 สตางค์
- เครื่องยนต์ขนาด 601-1,800 ซีซี. – คิดอัตราภาษี ซีซี. ละ 1.50 บาท
- เครื่องยนต์ขนาด 1,801 ซีซี. ขึ้นไป – คิดอัตราภาษี ซีซี. ละ 4 บาท
สำหรับรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานมาหลายปีแล้ว หากต้องการต่อภาษีรถ 2566 จะมีส่วนลดค่าภาษีให้ ดังนี้
- อายุการรถยนต์เกิน 6 ปี รับส่วนลดค่าภาษี 10%
- อายุการรถยนต์เกิน 7 ปี รับส่วนลดค่าภาษี 20%
- อายุการรถยนต์เกิน 8 ปี รับส่วนลดค่าภาษี 30%
- อายุการรถยนต์เกิน 9 ปี รับส่วนลดค่าภาษี 40%
- อายุการรถยนต์เกิน 10 ปีขึ้นไป รับส่วนลดค่าภาษี 50%
ตัวอย่างการคํานวณภาษีรถยนต์ 2566
ตัวอย่างที่ 1 คํานวณภาษีรถยนต์ 2566 ประเภทรถเก๋ง
การคำนวณค่าต่อ พร บ ภาษีรถยนต์ 4 ประตู ราคาเท่าไหร่ ?
รถ Honda City ขนาดเครื่องยนต์ 1,497 c.c. อายุรถยนต์ใช้งาน 7 ปี
- สูตรคำนวณช่วงที่ 1 : 600 c.c. x 0.5 เท่ากับ 300 บาท
- สูตรคำนวณช่วงที่ 2 : (1,497-600) = 897 c.c. นำไปคูณ 1.5 เท่ากับ 1,345.5 บาท นำผลลัพธ์ของทั้งสองช่วงมารวมกัน 300+1,345.5 = 1,645.5 บาท
ได้รับส่วนลด 20% เพราะเป็นรถยนต์ที่อายุใช้งานเกิน 7 ปี
- คำนวณส่วนลด : 1,645.5 - 20% = 1,316.4 บาท
ดังนั้นรถยนต์ Honda City คันนี้ มีค่าต่อภาษีรถยนต์ราคาอยู่ที่ 1,317 บาท
ตัวอย่างที่ 2 คํานวณภาษีรถยนต์ 2566 ประเภทรถกระบะ
การคำนวณค่าต่อ ภาษี พร บ รถ กระบะ 4 ประตู ราคา เท่าไหร่ ?
รถกระบะ 4 ประตู Ford Ranger ขนาดเครื่องยนต์ 1,996 cc อายุรถยนต์ใช้งาน 12 ปี จะใช้สูตรคำนวณค่าต่อ พร บ ภาษีรถกระบะ 4 ประตู ราคา ดังนี้
- สูตรคำนวณช่วงที่ 1 : 600 c.c. x 0.5 เท่ากับ 300 บาท
- สูตรคำนวณช่วงที่ 2 : (1,800-600) = 1,200 c.c. นำไปคูณ 1.5 เท่ากับ 1,800 บาท
- สูตรคำนวณช่วงที่ 3 : (1,996-1,800) = 196 c.c. นำไปคูณ 4 เท่ากับ 784 บาท
นำผลลัพธ์ของทั้งสามช่วงมารวมกัน 300+1,800+784 = 2,884 บาท
ได้รับส่วนลด 50% เพราะเป็นรถยนต์ที่อายุใช้งานเกิน 10 ปีขึ้นไป
- คำนวณส่วนลด : 2,884-50% = 1,442 บาท
ดังนั้นรถกระบะ Ford Ranger คันนี้ มีค่าต่อภาษีรถยนต์ ราคาอยู่ที่ 1,442 บาท
2. ค่าภาษีรถยนต์ 2566 : รถป้ายทะเบียนพื้นขาว ตัวหนังสือเขียว
ราคาต่อภาษีรถยนต์บรรทุกเกิน 7 ที่นั่ง
รถป้ายทะเบียนพื้นขาว ตัวหนังสือเขียว เป็นประเภทรถบรรทุกส่วนบุคคลที่เกิน 7 ที่นั่ง ด้วยการคำนวณภาษีจะขึ้นอยู่กับน้ำหนักรถ ดังนี้
- น้ำหนักรถ 50 - 750 กิโลกรัม – อัตราภาษี 450 บาท
- น้ำหนักรถ 751 –1,000 กิโลกรัม – อัตราภาษี 600 บาท
- น้ำหนักรถ 1,001 – 1,250 กิโลกรัม – อัตราภาษี 750 บาท
- น้ำหนักรถ 1,251 – 1,500 กิโลกรัม – อัตราภาษี 900 บาท
- น้ำหนักรถ 1,501 – 1,750 กิโลกรัม – อัตราภาษี 1,050 บาท
- น้ำหนักรถ 1,751 – 2,000 กิโลกรัม – อัตราภาษี 1,350 บาท
- น้ำหนักรถ 2,001 – 2,500 กิโลกรัม – อัตราภาษี 1,650 บาท
3. ค่าต่อภาษีรถ 2566 : รถป้ายทะเบียนพื้นขาว ตัวหนังสือสีน้ำเงิน
รถตู้จ่ายค่าภาษีประจำปีคิดตามน้ำหนัก
รถป้ายทะเบียนพื้นขาว ตัวหนังสือสีน้ำเงิน เป็นประเภทรถยนต์ส่วนบุคคลเกิน 7 ที่นั่ง โดยการคำนวณภาษีนั้นขึ้นอยู่กับน้ำหนักของรถ ดังนี้
- น้ำหนักรถไม่เกิน 1800 กิโลกรัม – อัตราภาษี 1,300 บาท
- น้ำหนักรถเกิน 1800 กิโลกรัม – อัตราภาษี 1,600 บาท
ดูเพิ่มเติม >>
4. คํานวณภาษีรถยนต์ 2566 : รถยนต์ไฟฟ้า
อัตราภาษีรถยนต์ไฟฟ้า ตาม พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 ได้กำหนดให้รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเสียภาษีตามน้ำหนักของรถ ในอัตรารถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน โดยมีรายละเอียด ดังนี้
- น้ำหนักรถ 500 กิโลกรัม – เสียภาษี 150 บาท
- น้ำหนักรถ 501-750 กิโลกรัม – เสียภาษี 300 บาท
- น้ำหนักรถ 751-1,000 กิโลกรัม – เสียภาษี 450 บาท
- น้ำหนักรถ 1,001-1,250 กิโลกรัม – เสียภาษี 800 บาท
- น้ำหนักรถ 1,251-1,500 กิโลกรัม – เสียภาษี 1,000 บาท
- น้ำหนักรถ 1,501-1,750 กิโลกรัม – เสียภาษี 1,300 บาท
- น้ำหนักรถ 1,751-2,000 กิโลกรัม – เสียภาษี1,600 บาท
- น้ำหนักรถ 2,001-2,500 กิโลกรัม – เสียภาษี 1,900 บาท
- น้ำหนักรถ 2,501-3,000 กิโลกรัม – เสียภาษี 2,200 บาท
- น้ำหนักรถ 3,001-3,500 กิโลกรัม – เสียภาษี 2,400 บาท
- น้ำหนักรถ 3,501-4,000 กิโลกรัม – เสียภาษี 2,600 บาท
- น้ำหนักรถ 4,001-4,500 กิโลกรัม – เสียภาษี 2,800 บาท
- น้ำหนักรถ 4,501-5,000 กิโลกรัม – เสียภาษี 3,000 บาท
- น้ำหนักรถ 5,001-6,000 กิโลกรัม – เสียภาษี 3,200 บาท
- น้ำหนักรถ 6,001-7,000 กิโลกรัม – เสียภาษี 3,400 บาท
- น้ำหนักรถ 7,001 กิโลกรัมขึ้นไป – เสียภาษี 3,600 บาท
เอกสาร ต่อทะเบียนรถ ใช้อะไรบ้าง
- คู่มือจะทะเบียนรถ หรือ สำเนารถก็ได้
- ส่วนล่างของ พ.ร.บ.
- ใบตรวจสภาพรถ จาก ตรอ. ในกรณีที่รถเข้าเกณฑ์ที่ต้องตรวจ
- ใบตรวจสภาพแก๊ส ในกรณีที่ติดแก๊สแล้วแจ้งลงเล่ม
- ใบถอนอายัด ในกรณีที่มันใจแน่ๆว่ารถโดนอายัดจากใบสั่ง หรือตำรวจ
หากไม่ไปต่อทะเบียนรถจะถูกจับและถูกปรับอย่างไร?
หากคุณไม่ได้ต่อทะเบียนรถหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่กำหนดเกี่ยวกับการต่อทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ อาจมีผลต่อสถานะของคุณและรถของคุณ ตามลักษณะของการละเมิดกฎหมาย นี่คือสิ่งที่อาจเกิดขึ้น:
- การจับกุม: หากคุณขับรถโดยไม่มีทะเบียนหรือทะเบียนหมดอายุ มีโอกาสที่คุณจะถูกตรวจจับโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรหรือเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบการบังคับใช้กฎหมายทางการจราจร
- การปรับอาญา: หากคุณติดต่อที่ต้องการเจ้าหน้าที่หรือตรวจพบว่าคุณไม่ได้ต่อทะเบียนรถ คุณอาจถูกตัดสิทธิในการขับขี่รถ และอาจถูกปรับเงินสูงตามกฎหมายท้องถิ่นหรือระบบการปรับอาญาที่กำหนดโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
- ผลกระทบต่อประกันภัย: หากคุณไม่ต่อทะเบียนรถ อาจทำให้คุณไม่มีความคุ้มครองจากประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลหรือประกันภัยอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับรถของคุณ
- การจำกัดการใช้งาน: หากคุณไม่ได้ต่อทะเบียนรถ อาจมีการจำกัดในการเข้าถนนหรือใช้งานบริการทางรถได้ เช่น ท่าเรือ สนามบิน หรือพื้นที่ที่กำหนดโดยกฎหมาย
หากขาดการชำระค่าภาษีติดต่อนานเป็นเวลาถึง 3 ปี รถจะถูกระงับส่วนการใช้ทะเบียน ซึ่งเป็นเรื่องไม่ดีแน่นอนเพราะนอกจากจะมีผลทางกฎหมายแล้ว อาจส่งผลให้คุณจ้องเจอปัญหาตามมาอีกมากมายเมื่อต้องนำมาขับซึ่งแน่นอนว่าคุณจะต้องโดนดำเนินคดีและต้องเสียเวลายุ่งยากมากมายในการยื่นเอกสารเพื่อขอต่อภาษีรถที่ถูกดำเนินคดีแล้ว ซึ่งปัญหาและวิธีแก้ไขสำหรับที่ขาดต่อทะเบียนทำได้ดังนี้
ขาดต่อภาษีรถยนต์ 2 ปี ไม่ถึง 3 ปี
สามารถไปทำเรื่องต่อภาษีรถยนต์ได้ โดยทะเบียนรถยนต์ยังไม่ถูกระงับการใช้งาน มีการคิดราคาและวิธีดำเนินการตามปกติ แต่ต้องเสียค่าธรรมเนียมสำหรับการดำเนิน โดยมีการคิดอัตราการปรับอยู่ที่ร้อยละ 1 ต่อเดือน
ขาดต่อภาษีรถยนต์ 3 ปี
คงโทษใครไม่ได้เพราะคุณเลือกที่จะทำหน้าที่สำหรับคนที่มีรถควรพึงกระทำ การขาดต่อทะเบียนรถนานเกิน 3 ปี รถของคุณจะอยู่ในสถานะถูกระงับการใช้งาน ไม่สามารถโอนหรือย้ายทะเบียนได้เลย ซึ่งหากต้องการใช้งานรถของคุณอีกครั้งต้องดำเนินการต่อทะเบียนที่ยุ่งยากโดยมีวิธีดังนี้
- จะต้องคืนแผ่นป้ายทะเบียนรถ พร้อมเล่มทะเบียนรถ มาให้ทางราชการบันทึกการระงับทะเบียนภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่นายทะเบียนระงับการดำเนินการ หากไม่ทำตามต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท
- ชำระค่าต่อภาษีที่ค้างไว้ที่สำนักงานขนส่งประจำพื้นที่จดทะเบียน โดยคิดอัตราค่าชำระอยู่ที่ร้อยละ 1 ต่อเดือนจนถึงวันชำระ
- ทำเรื่องแจ้งขอใช้รถยนต์อีกครั้งหลังทำการถอดอายัดพร้อมชำระค่าธรรมเนียมและซื้อพรบ.รถยนต์
หากขาดต่อทะเบียนรถนานถึง 3 ปี อาจถูกระงับการใช้งาน
ค่าใช้จ่ายที่ต้องชำระสำหรับรถที่ขาดต่อภาษีเกิน 3 ปี มีดังนี้
- ค่าจดทะเบียนรถใหม่ 315 บาท
- ค่าเล่มทะเบียนรถใหม่ 100 บาท
- ค่าแผ่นป้ายทะเบียน 100 บาท
- ค่าภาษีของรถยนต์ตามประเภทการใช้งาน
- ค่าธรรมเนียมการตรวจสภาพ
อัตราค่าเบี้ยประกันภัย พ.ร.บ. สำหรับรถยนต์ ขึ้นอยู่กับประเภทรถ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
- รถยนต์โดยสารที่นั่งไม่เกิน 7 คน 600 บาท/ปี
- รถยนต์โดยสารเกิน 7 คน ไม่เกิน 15 ที่นั่ง 1,100 บาท/ปี
- รถยนต์โดยสารเกิน 15 ที่นั่ง ไม่เกิน 20 ที่นั่ง 2,050 บาท/ปี
- รถยนต์โดยสารเกิน 20 ที่นั่ง ไม่เกิน 40 ที่นั่ง 3,200 บาท/ปี
- รถยนต์โดยสารเกิน 40 ที่นั่ง 3,740 บาท/ปี
- รถยนต์ไฟฟ้า 600 บาท/ปี
ผู้ที่จำเป็นต้องใช้รถเป็นประจำอยู่แล้ว ควรหลีกเลี่ยงการขาดต่อทะเบียน ขาดต่อภาษีรถยนต์ หากไม่สามารถเดินทางไปดำเนินการด้วยตัวเอง สามารถมอบหมายให้ผู้อื่นมาแทนได้ โดยต้องใช้หนังสือมอบอำนาจ ติดอากรแสตมป์ 10 บาท พร้อมสำเนาบัตรประชาชนผู้รับมอบอำนาจแสดงต่อเข้าหน้าที่ หรือสามารถดำเนินการต่อภาษีได้ด้วยตัวเองผ่านช่องทางออนไลน์ ดังนั้น เมื่อภาษีรถยนต์สิ้นอายุ ควรไปต่อภาษีให้เรียบร้อย เพื่อให้สามารถใช้รถได้ตามกฎหมาย หลีกเลี่ยงการเสียค่าปรับ และถูกระงับทะเบียน นอกจากนี้ ยังควรไปต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ด้วย เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย หากเกิดอุบัติเหตุจะได้สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลและเงินชดเชยได้
ดูเพิ่มเติม >>
ติดตาม ข่าวรถยนต์ใหม่ ได้ที่นี่
ติดตามเรื่อง ราคารถยนต์ใหม่ๆ ได้ที่นี่