หากเราจะเลือกรถสักคันมาไว้ใช้งานเนี่ย เราต้องคิดไว้เลยว่าถ้าเรามีรถ เราจะสะดวกสบายแต่ต้องเตรียมใจกับการจ่ายนู่นจ่ายนี่เยอะแยะ เพราะฉะนั้นการที่เราจะจัดรถสักคันให้มาเป็นราชรถคู่ใจเราก็ต้องเลือกดีๆ ใช่ไหมล่ะ วันนี้สำหรับมุนษย์เงินเดือนที่อยากจะมีรถไวๆ เดี๊ยนจะมาหาคำตอบให้ว่า ทำงานแค่ 5 เดือน สามารถซื้อรถยนต์ใช้ได้เลยไหม ?
ซื้อรถยนต์ใช้ภายใน ‘5 เดือน’ ??!
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ชาว Chobrod อันเป็นที่รักของเดี๊ยนทุกคน วันนี้เดี๊ยนก็มีคำถามที่หลายๆ คนคงต้องการคำตอบมาเล่าสู่กันฟังอีกแล้วค่ะ สำหรับคำถามวันนี้นั้นเอาใจมนุษย์เงินเดือนสุดๆ ไปเลยล่ะ ควรดอกจันทน์กันไว้เลยนะ นั่นก็คือ “จะเป็นไปได้ไหม ถ้าจะซื้อรถยนต์ใช้ภายใน 5 เดือน” เด็กๆ รุ่นใหม่ไฟแรงคงจะรีบร้อนอยากได้ราชรถมาคู่ใจสักคันเอาไว้ขับไปทำงานชิลล์ๆ แต่เดี๊ยนจะบอกว่าก่อนที่เราจะมีรถยนต์เป็นของตัวเองนั้นเราต้องมีหลายๆ อย่างที่เพียบพร้อมนะ ไหนจะค่าน้ำมัน ค่าประกัน ค่าซ่อม ค่าต่อทะเบียน คือมันเยอะจริงๆ เอาเป็นว่าหากใครสงสัยก็ไปหาคำตอบพร้อมๆ เดี๊ยนกันเลยจ้า
ดูเพิ่มเติม
>> “ท่อแต่งซิ่ง” ช่วยให้รถววิ่งดีขึ้นจริงหรือ !?
>> Ford Fiesta ในประเทศไทยกับเกียร์เจ้าปัญหา!
จะเป็นไปได้ไหม ? ซื้อรถยนต์ใช้ภายใน ‘5 เดือน’..
เป็นไปได้ไหม ทำงาน 5 เดือนแล้วจะซื้อรถยนต์ไว้ขับได้เลย ?
เอาจริงๆ เดี๊ยนก็ได้ลองรีเสิร์ชหาข้อมูลมานักต่อนักแล้วกับเรื่องการ ซื้อรถยนต์ อย่างแรกที่มนุษย์เงินเดือนควรพึงมีนั่นคือ ความมั่นคงของงานที่ทำอยู่ และอย่างที่สองคือ ความมั่นคงของเงินในกระเป๋า แน่นอนสิเพราะว่าการที่คุณจะมีรถยนต์มันก็ต้องมีภาระตามมา ไม่วันนี้ก็วันหน้ายังไงคุณก็ต้องจ่ายค่ะ อาจจะเป็นค่าซ่อมรถ ค่าประกัน ค่าน้ำมัน จิปาถะต่างๆ มากมาย ฉะนั้นแล้วหากใครยังเถียงว่า มีเงินเท่านี้ไปผ่อนไปดาวน์เอาก็ได้ อยากให้ลองกลับไปคิดทบทวนดีๆเลยเชียว สำหรับเดี๊ยน เดี๊ยนคิดว่าทำงานไปก่อนสักปีนึงก็น่าจะดีกว่าอย่างน้อยๆ คุณยังเอาเงินเก็บส่วนนั้นออกมาผ่อนรถหรือดาวน์รถกันได้นะ
เพราะเมื่อซื้อรถยนต์สักคันเเล้วเราจำเป็นต้องจ่ายค่าประกัน ค่าซ่อม ปรับปรุ่ง ค่าน้ำมันต่างๆ ไปด้วยดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจว่าซื้อรถหรือไม่ซื้อคุณควรกลับมาถามตัวเองดูว่า
1. มีเงินพร้อมไหม
ปัจจัยแรกของการซื้อรถก็คือเงิน โดยเฉพาะคนที่ซื้อผ่อน ซึ่งคุณจะต้องมั่นใจว่าคุณจะสามารถผ่อนจ่ายค่างวดรถได้อย่างไม่ติดขัด และมีเงินทุนสำรองในยามฉุกเฉินมากพอ แต่หากใครที่มีเงินพอสำหรับซื้อสด ก็เดินหน้าซื้อรถได้เลย เพราะไม่ต้องมาคอยกังวลกับการจ่ายงวดรถนั่นเอง
2. จำเป็นต้องมากไหมที่ต้องมีรถ
บางครั้ง รถยนต์ก็ไม่ได้จำเป็นสำหรับทุกคนเสมอไป ดังนั้นก่อนตัดสินใจซื้อรถ ลองเช็คสิว่าคุณมีความจำเป็นต้องใช้รถมากแค่ไหน ต้องการใช้รถยนต์จริงๆ หรือแค่เห่อตามกระแสนิยม ซึ่งหากการมีรถยนต์ไม่ได้จำเป็นมากเลยและมีอย่างอื่นที่จำเป็นมากกว่า ก็ควรมองข้ามไปก่อน เมื่อพร้อมจริงๆ จึงค่อยตัดสินใจซื้อรถจะดีกว่า เพราะอย่างน้อยคุณก็จะได้เอาเงินก้อนนั้นไปใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็นที่สุดก่อน อย่างไม่ติดขัด
3. มีรถที่ชอบที่สุดหรือยัง
เพราะบางครั้ง การที่เรารู้สึกอยากได้รถใหม่สักคันนั้น ก็เกิดจากกระแสนิยม ซึ่งกระแสเหล่านี้มักจะเปลี่ยนไปเรื่อยตามกาลเวลา และเมื่อกระแสเปลี่ยน คุณก็อาจจะรู้สึกอยากได้รถคันใหม่ที่กำลังฮิตติดกระแสอีก ดังนั้นสำรวจควมต้องการที่แท้จริงก่อนดีกว่า ว่าคุณอยากได้รถยี่ห้อไหน รุ่นไหน แบบไหนกันแน่ เพราะคุณจะต้องใช้มันอย่างถาวร เลื่อกซื้อรถที่เหมาะกับคุณ ไม่ใช่เปลี่ยนไปเรื่อยตามใจชอบ ซึ่งหากคุณเจอรถที่ต้องการจริงๆ แล้ว ก็เท่ากับว่าคุณพร้อมที่จะมีรถแล้วล่ะ
4. มีรายได้มากพอหรือเปล่า
เพราะการซื้อรถ จะต้องผ่อนจ่ายเดือนต่อเดือน ดังนั้นจะต้องดูว่าคุณมีรายได้มากพอที่จะจ่ายค่างวดรถโดยไม่กระทบต่อรายจ่ายด้านอื่นๆ และการใช้ชีวิตประจำวัน โดยค่างวดรถกับรายได้ที่สมดุลกันนั้น จะอยู่ที่ 20-30% ของรายได้เท่านั้น กล่าวคือ หากคุณมีรายได้เดือน 20,000 บาท ค่างวดรถไม่ควรเกิน 6,000 บาทต่อเดือน เป็นต้น
5. พร้อมสำหรับค่าใช้จ่ายแฝงไหม
ในขั้นตอนการคำนวณค่าดาวน์รถกับค่างวดรถ คุณอาจไม่ทันได้นึกถึงค่าใช้จ่ายแฝงต่างๆ ที่อาจพ่วงมาด้วย เช่น ค่าทะเบียนรถ ค่าประกัน ซึ่งก็อาจมีจำนวนสูงมากพอสมควร ดังนั้นให้คุณลองเช็คดูก่อนว่าเมื่อซื้อรถ จะต้องเสียค่าใช้จ่ายแฝงประมาณกี่บาท และคุณมีความพร้อมสำหรับค่าใช้จ่ายส่วนนี้ไหม ถ้าพร้อม ก็สามารถซื้อรถได้เลย
ต้องการซื้อรถยนต์สักคัน อย่าลืมลองสำรวจความพร้อมของตัวเองเสียก่อน ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายเมื่อซื้อรถครั้งแรก ค่าผ่อนงวดรถ ค่าใช้จ่ายแฝง รวมถึงรายได้และเงินทุนสำรองในยามฉุกเฉิน
6. มือใหม่หัดขับ พร้อมออกสู่ถนนแล้วใช่ไหม
สำหรับมือใหม่ มีการเรียนขับรถมาพร้อมแล้วหรือยัง หรือมีเอกสารใบขับขี่เรียบร้อยแล้วไหม การออกสู่ถนนจริงไม่เพียงแต่ตัวเราเท่านั้น ยังส่งผลต่อผู้ร่วมถนนคนอื่นด้วย อีกทั้งการศึกษาเส้นทางและกฏหมายจราจรในการขับขี่ เพื่อความปลอดภัยในการขับรถด้วย
ทั้งนี้ก็เพื่อให้มั่นใจได้ว่าคุณจะสามารถผ่อนจ่ายงวดรถได้โดยไม่มีปัญหาตามมาและไม่กระทบต่อการใช้จ่ายในด้านอื่นๆ นอกจากนี้ก่อนซื้อรถ อย่าลืมทดลองขับก่อนเสมอ เพื่อความมั่นใจว่ารถที่คุณเลือกจะเหมาะกับคุณที่สุด
จะเป็นไปได้ไหม ? ซื้อรถยนต์ใช้ภายใน ‘5 เดือน’..
หากต้องการจะซื้อจริงๆ เราควรจะซื้อรถยนต์รุ่นไหน อย่างไร ?
ไอ้ความเป็นไปได้น่ะมันก็มีค่ะ ถ้าคุณชอบรถยนต์มือสองนั่นก็ไม่ใช่ปัญหาที่คุณจะซื้อรถยนต์มือสองมาไว้ใช้งาน เพราะสมัยนี้รถยนต์มือสองสภาพดีก็มีขายกันเป็นว่าเล่น อีกทั้งสมัยนี้รถยนต์ก็ยังหาซื้อกันได้ง่ายผ่านทางอินเทอร์เน็ตก็ยังได้เลย เช่น Chobrod.com ของเราที่มีรถยนต์มือสองมากมายให้คุณได้เลือก และสบายใจได้เพราะรถยนต์ของเรามีคุณภาพทุกคันแน่นอน แต่ถ้าหากคุณชอบรถยนต์มือหนึ่งก็อาจจะเป็นรุ่นที่ค่อนข้างเก่าลงมาหน่อยนึงเพราะราคาจะซอฟลงมาจากรุ่นตัวท็อปค่ะ
จะเป็นไปได้ไหม ? ซื้อรถยนต์ใช้ภายใน ‘5 เดือน’..
สรุปง่ายๆเลยนะคะ ว่า ยังไม่ควรที่จะซื้อรถยนต์หากคุณทำงานได้ภายใน 5 เดือนค่ะ เพราะว่าอะไรๆ ในการทำงานยังไม่เข้าที่แถมเราก็ยังไม่รู้ว่าเราจะสามารถคอนโทรลกับการผ่อนรถยนต์นี้ได้นานสักเท่าไหร่ ดังนั้นช่วงเวลาในการจะซื้อรถยนต์สักคัน เดี๊ยนว่าอย่างน้อยๆ ต้อง 1 ปีขึ้นไป เก็บเงินให้มากพอและก็ซื้อรถยนต์มาขับสักคัน อย่างนี้น่าจะดีกว่า แต่ถ้าหากใครที่ไม่ได้มีปัญหาอะไรเรื่องรถยนต์มือสองก็ไม่แย่หากคุณจะถอยรถมือสองมาใช้งานจ้ะ เดี๊ยนก็ขอแนะนำเว็ปไซต์ Chobrod.com ก็แล้วกัน เพราะเว็ปของเรานั้นมีรถยนต์มือสองสภาพดีให้คุณได้เลือก ราคาน่ารัก ผ่อนสบาย สามารถคอนแทคคุยกับเจ้าของได้โดยตรง อันนี้ก็ถือว่าเป็นวิธีดีๆ ที่เดี๊ยนอยากจะแนะนำเพื่อนๆ นะคะ
สำหรับวันนี้เราก็ได้หายสงสัยและได้แง่คิดกันไปแล้วในการซื้อรถยนต์ หากใครพร้อมที่จะมีเจ้าหนูมาซิ่งบนท้องถนนก็ลุยกันเลยไม่ต้องกลัว แล้วก็อย่าลืมตัดสินใจดีๆ ก่อนจะซื้อรถยนต์นะคะ วันนี้เดี๊ยนต้องขอลาไปก่อน พบกันใหม่คอนเทนต์หน้า สวัสดีจ้า
ดูเพิ่มเติม
>> รวม Comment ประสบการณ์ - คนเคยขับ Honda Jazz รุ่นย่อย S , V , V+ รุ่นไหนที่ใช่ สำหรับคุณ?
>> รถยนต์กับป้ายโฆษณาโดนๆ
ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดีและน่าเชื่อถือ เชิญที่นี