ขับรถท่องทะเลทราย ฝันร้ายหากไม่เตรียมตัว

ประสบการณ์ใช้รถ | 26 ก.ค 2561
แชร์ 0

สำหรับผู้ที่แก่ประสบการณ์ในการขับรถบ้านเรา คงเจอสภาพถนนมาหลากหลายรูปแบบ รวมไปถึงสถานการณ์รถติดกันเป็นชั่วโมง นี่ยังไม่นับรวมม็อบต่างๆที่เคยมีเกิดขึ้นมาแล้วในประวัติศาสตร์ แต่มีสภาพแวดล้อมหนึ่งที่คนไทยแก่ประสบการณ์หลายคนยังไม่ถูกเติมเต็ม มันคือ "ทะเลทราย"

สำหรับผู้ที่แก่ประสบการณ์ในการขับรถบ้านเรา คงเจอสภาพถนนมาหลากหลายรูปแบบ รวมไปถึงสถานการณ์รถติดกันเป็นชั่วโมง นี่ยังไม่นับรวมม็อบต่างๆที่เคยมีเกิดขึ้นมาแล้วในประวัติศาสตร์ แต่มีสภาพแวดล้อมหนึ่งที่คนไทยแก่ประสบการณ์หลายคนยังไม่ถูกเติมเต็ม มันคือ "ทะเลทราย" หากมีโอกาสได้ลองขับรถในทะเลทรายแล้วล่ะก็ มันเหมือนหรือต่างจากการขับรถในดินในโคลนแค่ไหน

สันทราย เนินทราย ในทะเลทราย

สันทราย เนินทราย ในทะเลทราย

หลายคนเรียนกันมาตั้งแต่เด็กๆแล้วว่า พื้นผิวบนโลกของเรามีพื้นนำประมาณ3ใน4ส่วน เป็นพื้นดินประมาณ1ใน4ส่วน แต่อาจจะยังไม่รู้ว่าบนพื้นดิน1ส่วนนี้ มีประมาณ33%ที่เป็นทะเลทราย เมื่อพูดถึงทะเลทรายก็รู้สึกร้อนขึ้นมาเลย

อุณหภูมิที่สูงที่สุดที่ประวัติศาสตร์โลกเคยบันทึกเอาไว้ คือ  56.7 องศาเซลเซียส เมื่อวันที่ 10กรกฎาคม ค.ศ.1913 ในเดธ วัลเล่ย์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา  ซึ่งก็เรียกได้ว่าเป็นแถบที่อยู่ในโซนทะเลทรายของสหรัฐอเมริกาเช่นกัน

เดธ วัลเล่ย์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา

เดธ วัลเล่ย์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา 

ดูเพิ่มเติม
>> หน้าร้อน ที่ร้อนเป็นเตาอบขนาดนี้ มาดูวิธีดูแลรถกันเถอะ

ส่วนที่เป็นทะเลทรายแบบนี้ ยังไงการขนส่งการเดินทางก็ยังจำเป็นไม่เสื่อมคลาย แต่รถที่วิ่งสภาพปกติจะนำไปใช้ในที่ที่ความร้อนสูงกว่าปกติแบบนั้นจะมีผลกระทบอย่างไรหรือไม่ แล้วประชากรที่เขาอาศัยอยู่ในแถบนั้นเขามีวิธีการใช้รถในทะเลทรายอย่างไร

การใช้รถในทะเลทรายที่เป็นทะเลทรายชนิดเขตร้อน แบ่งเป็น 2 กรณีคือ

1. ทะเลทรายที่มีถนนตัดผ่าน ทั้งถนนที่เป็นพื้นทรายแข็งและถนนที่ลาดยางเรียบๆวิ่งกินลมพร้อมกับไอทะเลทราย2ข้างทางสวยๆภายในห้องโดยสารเย็นฉ่ำ แทบจะไม่ได้เป็นปัญหาเลยหากรถคุณมีน้ำมันเพียงพอในการเดินทาง มีรถยนต์ที่มีคุณภาพดูแลบำรุงรักษาอยู่เสมอ ปัญหาหลักมักมาตกอยู่ที่ผู้ผลิตรถยนต์ต่างหาก ว่าจะออกแบบรถมาขายในเขตที่มีความร้อนสูงกว่าปกติ จะต้องใช้ชิ้นส่วน หรือวัสดุที่ทนทานกว่าเดิมอย่างไร เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับสเปคและมาตรฐานของแต่ละแบรนด์ว่าชิ้นส่วนที่ชื่อเรียกแบบเดียวกันในแต่ละแบรนด์อาจจะทนความร้อนได้ไม่เท่ากัน หรือมีอายุการใช้งานที่แตกต่าง

ถนนลาดยางตัดผ่านทะเลทราย

ถนนลาดยางตัดผ่านทะเลทราย

2. ทะเลทรายที่ไม่มีถนน กรณีนี้จำเป็นต้องขับลุยเข้าไปในทรายเลย ส่วนมากกรณีแบบนี้มักจะเห็นกันบ่อยในการทัวร์ทะเลทราย จะมีคนพื้นที่ที่ขับรถยนต์พาทัวร์เป็นอาชีพวิ่งขึ้นลงบนเนินทรายได้เป็นปกติราวกับว่ารถยนต์เป็นส่วนหนึ่งของแขนขาเขาเลยทีเดียว ซึ่งคนพื้นที่มักจะใช้ลดขับเคลื่อนสี่ล้อ อีกแบบคือการขับข้ามทะเลทรายซึ่งก็อาจจะมีบางช่วงที่ต้องขับไปในที่ที่ไม่มีถนนลาดยาง เราไปเที่ยวในประเทศนั้นๆแล้วจำเป็นต้องขับรถข้ามทะเลทรายกรณีแบบนี้ถ้าไม่เคยไปเลยคงต้องเตรียมตัวและศึกษาข้อควรระวังไว้บ้าง (มิเช่นนั้นเอารถโหลดต่ำไปวิ่งคงติดอยู่กลางเนินทรายแน่ๆ) รถที่นิยมใช้กันมากในวงการทะเลทรายคือ Toyota Land Cruiser

ข้อควรระวังที่จำเป็นในการขับรถในทะเลทรายเป็นเวลานานหรือเรียกว่าขับท่องทะเลทราย มีดังนี้ครับ

  1. แรงดันลมยาง แรงดันลมยางที่อ่อนจำเป็นมากในการวิ่งบนพื้นผิวทะเลทราย(ที่ไม่ใช่ถนนลาดยาง) โดยเฉพาะช่วงที่เป็นทรายล้วนๆ หรือสันทราย เนินทรายต่างๆ การลดแรงดันลมยางให้เหลือ 20-25psi จะทำให้การควบคุมรถเป็นไปได้ง่ายขึ้นกว่าลมยางปกติ เนื่องจากยางที่อ่อนจะสอดรับกับเนินทรายที่นุ่มได้ง่ายกว่ายางที่แข็ง เช่นการทัวร์ทะเลทราย คนขับก่อนเข้าโซนเนินทรายจะปล่อยลมยางออกจนถึงจุดที่เขาพอใจและเห็นว่าอ่อนพอ จึงจะขับเข้าไปลุยทราย พอกลับมาที่พื้นถนนปกติก็เติมลมกลับเช่นเดิม
  2. เตรียมน้ำเปล่าให้เพียงพอ เพราะในทะเลทรายเป็นเรื่องไม่ง่ายที่จะหาน้ำเปล่า เวลาพวกเราขับรถไกลในต่างจังหวัด หิวน้ำขึ้นมาก็แวะปั๊ม หมดหนทางจริงๆก็ยังแวะบ้านตามข้างทางขอน้ำดื่มได้ แต่กลางทะเลทราย อูฐสักตัวก็ไม่ใช่ว่าจะเจอกันง่ายๆ แล้วน้ำเปล่าเท่าไรถึงจะเรียกว่าเพียงพอ จากประสบการณ์ของผู้ที่เดินทางในทะเลทรายบ่อยๆ แนะนำว่าให้เตรียมไปคนละ 4 ลิตร ต่อวัน
  3. เตรียมน้ำสำหรับหม้อน้ำรถยนต์ ในสภาพอากาศที่ร้อน45-50 องศาเซลเซียสในตอนกลางวัน รถคุณที่เตรียมมาอย่างดีก็อาจจะเกิดปัญหากับหม้อน้ำได้ เช่นน้ำในหม้อน้ำแห้งเร็วกว่าปกติหรือเกิดการรั่ว การสังเกตระดับน้ำของน้ำยาหล่อเย็นในหม้อน้ำเป็นเรื่องที่ต้องติดตามอย่างสม่ำเสมอรวมไปถึงอุณหภูมิของเครื่องยนต์ด้วย (ถ้ามีอุปกรณ์บอกอุณหภูมิของเครื่องยนต์ก็จะยิ่งสังเกตง่ายขึ้น)

ความร้อนขึ้นในที่ร้อนๆแบบทะเลทรายไม่ใช่เรื่องสนุกแน่

ความร้อนขึ้นในที่ร้อนๆแบบทะเลทรายไม่ใช่เรื่องสนุกแน่

  1. เครื่องปรับอากาศของรถ ควรอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ย้ำเลยนะครับว่าสมบูรณ์ เพราะถ้าเกิดแอร์ไม่เย็น ต้องเปิดหน้าต่าง เป็นอันจบเห่ เพราะผลเสียจะตามมาอีกมาก ร่างกายผู้โดยสารร้อนเกินไป ดื่มน้ำมากกว่าปกติ น้ำที่เตรียมมาไม่พอ เมื่อถึงเวลาฉุกเฉินต้องใช้น้ำเติมลงหม้อน้ำ น้ำหมด รถต้องติดอยู่กลางทะเลทราย ไปไหนไม่ได้ ไม่มีคนผ่านไปมา แบบนี้ฝันร้ายแน่นอน
  2. เตรียมเสื้อผ้าและผ้าห่ม ถึงจะรู้ๆกันอยู่ว่าทะเลทรายนั้นร้อนระอุ แต่สิ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้คือ ทำไมตอนกลางคืนมันช่างหนาวเย็นนัก ถ้าคุณต้องขับผ่านทะเลทรายในช่วงเวลากลางคืนด้วยแล้ว การเตรียมเสื้อผ้าหนาๆและผ้าห่มไปด้วยจะทำให้คุณรอดจากค่ำคืนอันหนาวเหน็บเพราะเรื่องนี้มีนักท่องเที่ยวมากมายตกม้าตายมาหลายคนแล้ว
  3. ล้ออะไหล่ ตรวจสอบให้แน่ใจว่ารถที่คุณขับไปในทะเลทรายนั้นมีล้อรถสำรองที่ความดันลมยางปกติ ยิ่งถ้ามีที่วัดลมยางแบบพกพาด้วยจะดีมาก และสิ่งที่สำคัญกว่าการมีล้ออะไหล่ที่สมบูรณ์คือ ทักษะและวิธีการเปลี่ยนล้ออะไหล่ ถ้าทุกคนที่โดยสารรถไปไม่มีทักษะด้านการเปลี่ยนล้ออะไหล่เลย ล้ออะไหล่ที่แสนจะสมบูรณ์นั้นแทบจะหมดความหมาย แต่เดี๋ยวก่อน เพราะหากรถคุณเกิดยางแบนที่สันทรายหรือเขตที่ไม่ได้มีถนนลาดยางเรียบๆ การเปลี่ยนรถบนพื้นทรายแบบนั้นคงไม่ง่ายเหมือนปอกกล้วยเสียแล้ว เพราะตอนคุณใช้แม่แรง แม่แรงอาจจะยวบลงไปในพื้นทราย การหาแผ่นเหล็กหรือแผ่นไม้หนาหน่อยขนาดพอเหมาะกับแม่แรงมารองใต้แม่แรงเพื่อกระจายแรงกดทับที่พื้นจะช่วยให้คุณยกรถขึ้นจากพื้นง่ายขึ้น

ในทะเลทรายยางก็รั่วก็แบนได้เหมือนกัน

ในทะเลทรายยางก็รั่วก็แบนได้เหมือนกัน

  1. โทรศัพท์เคลื่อนที่และระบบนำทาง คุณควรจะแน่ใจก่อนลงพื้นที่จริงว่าพื้นที่ที่คุณไปนั้นห่างไกลสัญญาณโทรศัพท์มากน้อยแค่ไหน เพราะถ้าเกิดเหตุอะไรขึ้นคุณจะเหมือนหลงทางทันที โทรติดต่อใครก็ไม่ได้ ปัญหานี้แก้ด้วยการเช่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ใช้สัญญาณดาวเทียมแทนและใช้ระบบนำทางที่ติดมากับรถหรือแบบพกพา (ที่ไม่ได้พึ่งจากแอพพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟน) ในรายละเอียดปลีกย่อยคงต้องสอบถามคนพื้นที่เพราะคงแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ

ทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องเตรียมตัวก่อนเดินทางในทะเลทราย เหตุผลที่บอกว่าจำเป็นก็คือ เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ทำให้เราต้องติดอยู่กลางทะเลทรายกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินรถไม่ทำงาน หรือสภาพร่างกายต้องการน้ำหรือกลางคืนที่หนาวมากๆจะได้มีอุปกรณ์ไว้คอยแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้

ทะเลทรายที่คนมักจะไปขับรถท่องเที่ยวกันบ่อยๆมักอยู่ใน สหรัฐอเมริกาหรือแถบตะวันออกกลาง เช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โอมาน ฯลฯ เพราะนอกจากจะขับรถเองได้แล้ว ยังมีแบบแพ็คเก็จทัวร์ให้เลือกอีกด้วย แถมกลางคืนก็ได้ชมเพดานฟ้าที่พร่างพราวไปด้วยหมู่ดาวที่กล่อมเราเข้านอน นอกจากจะได้ท่องเที่ยวทะเลทรายแล้วยังมีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญอื่นๆในประเทศนั้นๆ แหล่งช้อปปิ้ง และร้านอาหารมากมายอีกด้วย

ความงดงามของทะเลทรายเหตุผลที่หลายคนอยากไปสัมผัส

ความงดงามของทะเลทรายเหตุผลที่หลายคนอยากไปสัมผัส

หากขับรถในที่ที่ไม่คุ้นเคยต้องเตรียมตัว

เพื่อนๆคงพอจะเห็นภาพแล้วนะครับว่า การขับรถท่องเที่ยวในทะเลทรายเป็นเวลานานๆช่างแตกต่างกับวิสัยของคนไทยยิ่งนัก ทั้งเรื่องสภาพอากาศ สภาพรถ เหตุการณ์หรืออุปกรณ์ที่ปกติเราไม่ได้นึกถึง เมื่อเราเตรียมตัวพร้อมประสบการณ์สวยๆจะเกิดขึ้นกับเรา แต่หากเราพลาดอะไรไปความฝันแห่งการท่องเที่ยวอาจกลายเป็นฝันร้ายในพริบตา เมื่อคุณพร้อมเมื่อไรก็ออกเดินทางเติมเต็มประสบการณ์แห่งการขับรถได้เลยครับ

​ดูเพิ่มเติม
>> 
6 รถมือสองประหยัดน้ำมันที่สุดในแต่ละคลาสที่คุณต้องเลือก!
>> หน้าร้อนนี้ เปิดแอร์ยังไงให้รถทั้งเย็น ทั้งประหยัด

ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่  
อ่านรีวิวรายละเอียดเกี่ยวกับรถยนต์  เชิญที่นี่